รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ส.ค. - 4 ก.ย. 2564)
อันดับ 1 : จบแล้วศึกซักฟอกรัฐบาล บิ๊กตู่อยู่ต่อ ฝ่ายค้านแผ่นเสียงตกร่อง นามสกุลนายกฯ ก็ผิด ปลอมทั้งเอกสารทั้งคลิป
ในที่สุดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ครั้งที่สองของปี 2564 ก็จบลง เมื่อวันที่ 4 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังมีเสียงไว้วางใจด้วยคะแนน 264 ต่อ 208 งดออกเสียง 3 เสียง ส่วนรัฐมนตรีที่เหลืออีก 5 คน ก็มีคะแนนเสียงไว้วางใจเช่นกัน มากที่สุดคือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ด้วยคะแนน 270 ต่อ 199 งดออกเสียง 8 เสียง พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงปิดท้าย ยืนยันเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด-19 ปัญหาการว่างงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ขอเพียงแค่ความหวังความศรัทธา และความสามัคคีขับเคลื่อนประเทศ
ขณะที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอด 3 วันก่อนลงมติ เป็นไปอย่างจืดชืด ฝ่ายค้านกล่าวคำพูดเดิมๆ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ บ้าอำนาจ ไร้สำนึก ทำประเทศย่อยยับ แต่ไม่มีหลักฐานเด็ดที่จะยื่น ป.ป.ช. เอาผิดใครได้ แถมนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน เรียกนามสกุลนายกฯ ผิดเป็น "ยงใจยุทธ" นอกจากนี้ ยังมีกรณีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล นำเอกสารงบประมาณการทำไอโอ ที่พบว่าเป็นเอกสารปลอมมาอภิปราย รวมทั้งนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย ที่นำคลิปปลอมสมัยการชุมนุม กปปส. มาอ้างว่าตำรวจทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรด้วย
อันดับ 2 : พระเชียงใหม่อยากกินหมูกะทะ ระดับเจ้าอาวาสจัดปาร์ตี้แกล้มเบียร์หน้าพระใหญ่ สุดท้ายจับได้ย่องเงียบลาสิกขา
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ บุกวัดปันเสา ต.ศรีภูมิ หลังได้รับการร้องเรียน พบพระสงฆ์ 7 รูป คือ พระครูปลัดสุรเดช สิริสุวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดยางกวง ต.หายยา, พระครูมนูญธรรมศาสก์ (พุทธกร) เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน, พระอธิษฐณัฏฐ์ วิสุทฺธิเมธี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง, พระภานุกร ธมฺมธีโร เจ้าอาวาสวัดปันเสา, พระทักษิณ กิตฺติเมธี พระลูกวัดวัดศรีสุพรรณ ต.หายยา, พระอานนท์ ปญฺญาปโชโต พระลูกวัดวัดอุปคุต, พระสหการ สหายธมฺโม พระลูกวัดวัดปันเสา และฆราวาส 1 คน ล้อมวงปิ้งย่างหมูกระทะ มีกระป๋องเบียร์และขวดไวน์วางเกลื่อนต่อหน้าพระพุทธรูปองค์ใหญ่
ตำรวจถูกแจ้งข้อหามั่วสุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ส่งฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. โดยกลุ่มพระสงฆ์ทั้งหมดไม่ยอมลาสิกขาเนื่องจากไม่เข้าข่ายอาบัติปาราชิก ต่อมาศาลพิพากษาลงโทษจำคุกคนละ 15 วัน และปรับคนละ 10,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 1 ปี ส่วนอีก 4 ราย ถูกเพิ่มอีกข้อหาดื่มสุราในวัด ผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลงโทษปรับเงินคนละ 12,500 บาท วันต่อมาหลังสังคมวิจารณ์ พระสงฆ์ทั้งหมดสมัครใจลาสิกขาต่อพระครูสถาพรธรรมปโชติ เจ้าคณะตำบลช้างคลานเขต 1 ที่วัดอุปคุตแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา
อันดับ 3 : จุดใต้ตำตอ ตำรวจปลอมเป็นหมีสีชมพูจี้ชิงทอง ชุดสืบสวนจับได้ท่าเดินนี้ กางเกงยีนส์แบบนี้ ไปไม่รอดอ้างหนี้ท่วม
เหตุชิงทองอุกอาจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ชายรายหนึ่งสวมเสื้อไรเดอร์ฟู้ดแพนด้า ใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเพชรทองเยาวราช ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ทองรูปพรรณใส่ถุงน้ำหนักรวม 126 บาท รวมมูลค่า 3.5 ล้านบาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟหลบหนีไป ชุดสืบสวนแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด พบท่าการเดินและกางเกงยีนส์ คล้าย ส.ต.ท.อนุชา บุญอารักษ์ อายุ 25 ปี ที่ช่วยงานสิบเวรแต่ลางานไป 2 วัน จึงนำกำลังไปที่บ้านใน ต.ขนงพระ เพื่อสอบปากคำ ช่วงแรกปฏิเสธ อ้างว่าไปหลับนอนกับผู้หญิง แต่เมื่อเรียกผู้หญิงคนดังกล่าวสอบปากคำ กลับให้การตรงกันข้าม
สุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพ พร้อมพาไปดูทองคำที่ซ่อนไว้ในอ่างบัวบริเวณบ้านพัก อ้างว่าย้ายมาจาก สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. มาอยู่ สภ.ปากช่องได้ประมาณ 7 เดือน มีภาระหนีสิ้นมาก เพราะกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ 1.4 ล้านบาท ประกอบกับบิดาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องใช้เงินรักษา จึงก่อเหตุโดยสั่งซื้อชุดฟู้ดแพนด้า นำมอเตอร์ไซค์ติดสติกเกอร์ใหม่ และนำขวดควันสีขาวไปตั้งไว้หน้าร้านก่อนลงมือก่อเหตุเพื่ออำพรางตัว ตำรวจตั้ง 3 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะ, พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ พร้อมกับให้ออกจากราชการแล้ว
อันดับ 4 : คลายล็อกเปิดห้าง รัฐทุ่มซื้อไฟเซอร์ 4.7 พันล้าน สาธารณสุขบอกเลิกซื้อซิโนแวค WHO เฝ้าระวังมิวสายพันธุ์ใหม่
สถานการณ์โควิด-19 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ยอมผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมบางประเภทในพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด เช่น ศูนย์การค้า ร้านตัดผม ร้านอาหาร ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทรงตัวประมาณ 1-2 หมื่นรายต่อวันก็ตาม ด้านองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่ากำลังจับตาสายพันธุ์ที่ชื่อว่า "มิว" พบครั้งแรกในประเทศโคลอมเบีย ภูมิภาคอเมริกาใต้ ตั้งแต่เดือน ม.ค. ระบาดลุกลามแล้ว 39 ประเทศทั้งในอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา ถึงอังกฤษ สหรัฐฯ และฮ่องกง เบื้องต้นคล้ายคลึงสายพันธุ์เบตา หลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันของผู้ที่เคยป่วยเป็นโควิดมาก่อน
ขณะที่การบริหารจัดการวัคซีน พบว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 30 ส.ค. อนุมัติวงเงิน 4,745 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 9.9 ล้านโดส ขณะที่บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา แจ้งองค์การเภสัชกรรมว่า จะทยอยส่งมอบวัคซีนไตรมาส 4/2564 จำนวน 1.95 ล้านโดส และไตรมาส 1/2565 อีก 3.11 ล้านโดส ส่วน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ได้ชะลอจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เพื่อรอดูวัคซีนรุ่นใหม่ พร้อมกันนี้ยังอนุมัติสูตรการฉีดวัคซีน ได้แก่ 1. ซิโนแวคผสมแอสตร้าเซนเนก้า 2. แอสตร้าเซนเนก้าผสมไฟเซอร์ และ 3. กระตุ้นเข็ม 3 แก่คนที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม
ณ วันที่ 4 ก.ย. ไทยฉีดวัคซีนสะสมไปแล้ว 35,780,502 คน เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 25,159,339 คน เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 9,945,897 คน เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 674,887 คน เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 379 คน สามอันดับแรก คือ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม
อันดับ 5 : ตบสนั่น ลูกบ้านสาวเสี่ยงสูง ไม่พอใจถูกห้ามลงมาเอาอาหาร ตบนิติคอนโดฯ แถมลั่นลูกนายพล-ทำนม-อวดรวย
ไวรัลคลิปฮือฮาในโลกโซเชียลฯ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. เพจ “มาดูหนังกัน” ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างลูกบ้านกับนิติของคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านสุทธิสาร กรุงเทพฯ สืบเนื่องจากหญิงคนดังกล่าวถูกกักตัวเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะแฟนติดเชื้อโควิด-19 เจ้าตัวเกิดหิวสั่งอาหารมารับประทาน แต่อาหารกลับส่งขึ้นไปบนห้องช้า เจ้าตัวพยายามจะลงมาเอาอาหารเอง แต่ถูกห้ามจึงไม่พอใจ เข้าทำร้ายร่างกายนิติคอนโดฯ ตบหน้าหลายครั้ง และยังใช้ถ้อยคำรุนแรง ดูถูก อ้างตนว่าเป็นลูกนายพล เพิ่งทำหน้าอกมา 2 แสน แม้จะมี รปภ.และลูกบ้านคนอื่นๆ เข้ามาห้าม หนำซ้ำยังมีการข่มขู่คนที่เข้าห้ามด้วย
ต่อมาผู้จัดการนิติคอนโดฯ ได้เดินทางไปตรวจเพื่อหาเชื้อที่โรงพยาบาล พร้อมกันนี้ได้เข้าแจ้งความแล้วที่ สน.สุทธิสาร โดยมีการเรียกค่าสินไหมจำนวน 50,000 บาท แต่ทางลูกบ้านคู่กรณีกลับต่อรองเหลือ 30,000 บาท ก่อนจะมีการขอโทษต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไกล่เกลี่ยกันแล้ว พร้อมกันนี้ ตัวลูกบ้านก็ได้ทำเรื่องยกเลิกสัญญาเช่าเพื่อขอย้ายออกจากห้องที่เจ้าตัวเช่าอยู่ภายใน 7 วัน นอกจากนี้มีชาวเน็ตขุดประวัติ พบว่าสาวคนดังกล่าวจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เปิดเพจขายเครื่องรางของขลัง รับดูดวง หมอดู มีคนติดตาม 4 หมื่นคน หลังเกิดเรื่องได้ปิดเพจ ปิดอินสตาแกรมรับดูดวงไปแล้ว
อันดับ 6 : เพจดังช่วยหมูป่า พบหนังสดโดยบังเอิญ หญิงตึกร้างมีเซ็กซ์โจ๊ะพรึมพรึมค่าตัว 10-50 ตำรวจต้องพา พม.ไปดูแล
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. เพจเฟซบุ๊ก "Kingdom Of Tigers : ทูนหัวของบ่าว" ได้ออกมาช่วยหมูป่าที่ถูกทอดทิ้ง ในตึกร้างแห่งหนึ่งย่าน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ระหว่างที่ไลฟ์สดไปเรื่อยๆ พบหญิงรายหนึ่ง สภาพโป๊เปลือยกำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายในตึกร้าง สอบถามคนโรงงานที่มาช่วยให้อาหาร พบว่าหญิงคนดังกล่าวสติไม่ค่อยดี วันๆ มีแต่คนเวียนเข้ามาซื้อบริการทางเพศ เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตแห่เรียกร้องให้เข้าช่วยเหลือหญิงในตึกคนดังกล่าว ขณะเดียวกันมีกระแสตีกลับจากคนในพื้นที่ ระบุว่าหญิงรายดังกล่าวไม่ได้ถูกข่มขืน และสติดี อาจมีการเสพยา และเป็นการขายบริการครั้งละ 10-50 บาท
ต่อมาวันที่ 2 ก.ย.พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก สภ.พระสมุทรเจดีย์ นำเจ้าหน้าที่ พม. และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ มาที่ตึกร้างเพื่อตรวจสอบหญิงสาวคนดังกล่าว จากการสอบถามหญิงรายนี้มาอยู่ที่ตึกร้างได้ 1 ปีกว่าแล้ว แต่ให้การวกไปวนมา และยังหวาดระแวงเวลามีคนรุมถามเยอะๆ เบื้องต้นผลการตรวจโควิด-19 พบว่าเป็นลบ และได้นำตัวไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแล้ว ส่วน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าหญิงรายนี้ ไม่ได้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และสภาพจิตปกติ ไม่ได้เสียสติตามข้อมูลที่แพร่ในโซเชียลฯ ขณะนี้ประสานสหวิชาชีพดูแลแล้ว
อันดับ 7 : น้ำท่วมนิคมฯ บางปู หนักสุดในรอบหลายปี เขตฟรีโซนจมบาดาล เหตุฝนตกกระหน่ำวันเดียว แถมคลองถูกบุกรุก
น้ำท่วมนิคมฯ เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค. มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลทำให้นิคมอุตสาหกรรมบางปู ทั้งด้านนอกและเขตส่งออก มีน้ำท่วมสูงราว 1 เมตร รถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมากถูกน้ำท่วมเกือบมิดคัน พนักงานที่ทำงานอยู่ภายในโรงงานไม่สามารถออกมาได้ สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ปริมาณน้ำเพิ่มระดับสูงในช่วงกลางดึก ก่อนจะไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว จนพนักงานกะกลางคืนนำรถออกมาไม่ทัน พบความเสียหายประมาณ 80% จากโรงงานทั้งหมด 374 โรงงาน หนักที่สุดคือเขตประกอบการเสรี 37 โรงงาน นับเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ของนิคมแห่งนี้ เพราะปี 2554 ไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับสาเหตุเกิดจากปริมาณฝนที่ตกกระหน่ำวันเดียว 200 มิลลิเมตรต่อวัน หนักสุดในรอบ 15 ปี การระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำเพียงอย่างเดียวในวันแรกยังทำได้ล่าช้า อีกทั้งความเจริญของหมู่บ้านจัดสรรโดยรอบ ทำให้พื้นที่รองรับน้ำและทางระบายน้ำลดลง ส่วนการระบายน้ำผ่านคลองลำสลัด คลองหกส่วน และคลองหัวลำภู มีปัญหาที่คลองลำสลัด เนื่องจากเป็นคอขวดทำให้ระบายได้ช้า จึงได้ระดมเครื่องสูบน้ำข้ามจุดที่เป็นคอขวด และพบว่าคลองแห่งนี้มีปัญหาการบุกรุก ทำให้ปากคลองที่เคยกว้าง 5 เมตร เหลือ 2 เมตร เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ สำหรับระยะยาวมีแผนทำฟลัดเวย์แต่ต้องใช้งบประมาณที่สูง
