รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 22-28 ส.ค. 2564)
อันดับ 1 : นิ้วไหนเสียก็ต้องตัดทิ้ง ผู้กำกับโจ้ร่วมคลุมถุงผู้ต้องหายาเสพติดตาย สะท้านวงการสีกากี หนีไม่พ้นต้องมอบตัว
เรื่องอื้อฉาววงการสีกากี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.6 หลังถูกร้องเรียนว่าตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จับผู้ต้องหา 2 คน เรียกรับเงิน 2 ล้านบาท ก่อนร่วมกันนำถุงดำมาคลุมหัวผู้ต้องหาชายจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต กระทั่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง เผยแพร่คลิปขณะ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะผู้ต้องหาชัดเจน กระทั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนตำรวจ นิ้วไหนเสียก็ต้องตัดทิ้ง
ต่อมาวันที่ 25 ส.ค. ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ออกหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และชุดปราบปรามยาเสพติด รวม 7 นาย ก่อนทยอยจับกุม หนึ่งในนั้นคือ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกน้องยอมรับว่าทำจริง เพราะเป็นคำสั่งของนาย กลัวว่าจะถูกทำโทษ ในที่สุดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ติดต่อ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6 เพื่อขอมอบตัว ยอมรับว่าเครียดจนคิดอยากฆ่าตัวตาย ก่อนโฟนอินระหว่างแถลงข่าวที่กองปราบปราม อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ต้องหา ต้องการทำงานเพื่อประชาชน และที่คลุมถุงนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เห็นใบหน้าของตนเอง ขอโทษและขอน้อมรับผิดเพียงคนเดียว
อันดับ 2 : แบนยังไงให้ฟอลขึ้น เจนนิเฟอร์ คิ้ม โพสต์จงรักภักดีถูกแบนแต่ฟอลขึ้นเกือบแสน ทาทา ย้ำคุณภาพสำคัญกว่า
หลังจากที่นักเคลื่อนไหวการเมืองบางคนแต่งกายเลียนแบบฉลองพระองค์ ทำให้บรรดาคนบันเทิงแสดงพลังความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ อย่างล้นหลาม แต่ที่ฮือฮามากที่สุด คือ นักร้องสาว เจนนิเฟอร์ คิ้ม โพสต์รูปภาพและข้อความแสดงความจงรักภักดี ต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านไอจีส่วนตัว ก็ทำเอายอดผู้ติดตามลดฮวบไปถึง 1,000 ฟอลโลเวอร์ เหลือ 3.72 แสนฟอลฯ แต่เจ้าตัวโพสต์สตอรีทำนองว่า ยอดตกลง แต่คุณค่า IG สูงขึ้น อันฟอลได้ ไม่ต้องประชด หลังจากนั้นพบว่ามีคนเข้ามากดติดตามจำนวนมากถึง 4.64 แสนฟอลฯ
อีกรายหนึ่ง คือนักร้องสาว อมิตา ทาทา ยัง หลังจากโพสต์คลิปของรัชกาลที่ ๙ ไป 2 โพสต์ อยู่ๆ ยอดฟอลโลว์ในไอจีลดลงจนสังเกตได้ เจ้าตัวจึงโพสต์ว่า ถ้าเป็นอย่างที่ทาคิด ก็เชิญเลย ทาขอยึดมั่นในความจงรักภักดี ขอขอบคุณคนที่ยัง เชื่อมั่นและยังคงติดตามอยู่ ทำเอาพี่น้องในวงการบันเทิงพากันคอมเมนต์ให้กำลังใจว่า เน้นคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ นอกจากนี้ยังมีคนบันเทิงแสดงจุดยืนอีกเพียบ อาทิ นก จริยา แอนโฟเน่, ปิ่น เก็จมณี วรรธนะสิน, โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์, ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย, ท็อป ดารณีนุช ปสุตนาวิน, แหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา, หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ และอีกมาก
อันดับ 3 : นับถอยหลังซักฟอกรัฐบาล 40 ชั่วโมงเช็กบิลประยุทธ์ ณัฐวุฒิจัดคาร์ม็อบคอลเอาต์ ตำรวจปรับแผนเช็กบิลที่หลัง
ทิศทางข่าวในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ คือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวม 6 คน คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ได้ข้อสรุปกำหนดวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.ถึง 3 ก.ย. นัดโหวตลงมติวันที่ 4 ก.ย. ภาพรวมพรรคฝ่ายค้านได้เวลาซักฟอกนาน 40 ชั่วโมง
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด จะจัดชุมนุม “คาร์ม็อบคอลเอาต์” 29 ส.ค. ที่แยกเกษตรศาสตร์ สุดทางที่ลานเทพปทุม หน้าศาลากลางเก่า จ.ปทุมธานี ขณะที่ผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มทะลุแก๊ส ซึ่งเคลื่อนไหวที่แยกดินแดงมาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ไม่ปรากฎความเคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. เป็นต้นมา ส่วน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจได้ปรับกำลังและยุทธวิธีให้กระทบกับผู้อาศัยอยู่ในละแวกแยกดินแดงน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงปะทะ จะบันทึกภาพหลักฐานดำเนินคดีภายหลัง
อันดับ 4 : “น้องวิว” ยากจนเรียนเก่งชาวพิมาย เกรดเฉลี่ย 3.93 ขาดเรียนออนไลน์ พลังโอนไวเพราะสงสารได้ตั้ง 3.7 ล้าน
ไวรัลเด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เจอพลังคนใจบุญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อโลกโซเชียลฯ เผยแพร่เรื่องราวของนางณัฐนันท์ ชูชีวา ครูโรงเรียนศรีสุขวิทยา อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ไปเยี่ยมบ้านของ น.ส.รุ่งทิวา เดินกลาง หรือน้องวิว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนศรีสุขวิทยา อาศัยอยู่ที่บ้านหวายโนนโพธิ์ ต.ธารละหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังพบว่าไม่ได้เข้าเรียนออนไลน์มาแล้วหลายวัน ทั้งที่เป็นเด็กตั้งใจเรียน ผลการเรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.93 ปรากฎว่าทั้งบ้านมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่มีพี่น้องรวมทั้งหมด 2 คน ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านมุงหลังคาสังกะสีเก่าๆ ห้องน้ำไม่มีประตูปิด ห้องนอนมีสภาพผุพัง
พอชาวเน็ตทราบเรื่องราว เกิดพลังความสงสารใจบุญ บริจาคเงินช่วยครอบครัวน้องวิว เป็นยอดเงินบริจาคจำนวน 3,727,385 บาท และมีผู้ใจบุญเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้น้อง และบริจาคโทรศัพท์มือถือให้ด้วย ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพิมายเตรียมติดตั้งไฟฟ้าให้บ้านของน้องวิว เพราะยังใช้ไฟฟ้าจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์แผงเล็กๆ ชาร์จโทรศัพท์มือถือเรียนเท่านั้น คราวนี้ทำให้น้องวิวตื้นตันใจ ภายหลังขอปิดบัญชีรับบริจาค และสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน เป็นคนดี จะเรียนต่อเป็นพยาบาลทหารตามความใฝ่ฝันให้ได้ โดยจะใช้เงินที่คนไทยบริจาคให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรื่องจึงจบลงด้วยความแฮปปี้เอนดิ้ง
อันดับ 5 : ชาวสวนลำไยภาคเหนือแห่เททิ้ง บ้างก็เผาต้นประชดราคาตกต่ำ หลังจีนสั่งห้ามนำเข้าเพราะพบเพลี้ยแป้ง
หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ประกาศห้ามนำเข้าลำไยจากผู้ส่งออกไทยทั้งหมด รวม 66 บริษัท หลังจากได้ตรวจสอบพบเพลี้ยแป้งในลำไยที่นำเข้า โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ซ้ำเติมปัญหาราคาลำไยตกต่ำ เกษตรกรระบายความอัดอั้นตันใจลงโซเชียลฯ เริ่มจากวันที่ 18 ส.ค. มีคลิปนายพีรพัฒน์ อยู่ท้วม อายุ 49 ปี ชาวสวนลำไย ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ใช้ไม้ฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นที่ พร้อมระบายความอัดอั้นตันใจ ราคาลำไยตกต่ำ เก็บขายไม่ได้เพราะไม่คุ้มทุน จึงนำไม้มาฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นดินเป็นปุ๋ยแทน ทำให้โลกโซเชียลฯ ต่างเห็นใจชาวสวนที่ประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ
ต่อมาวันที่ 21 ส.ค. กลุ่มเฟซบุ๊ก “ฮักแม่สรวย แจ้งข่าว” จ.เชียงราย เผยแพร่คลิปการเผาต้นลำไยและมีเสียงชายมีอายุ พูดภาษาท้องถิ่นภาคเหนือในทำนองประชดประชันเกี่ยวกับราคาผลผลิตลำไยตกต่ำซ้ำซากแทบทุกปี แต่นายอำเภอแม่สรวยตรวจสอบพบว่าเผาหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายหมดแล้ว อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sumalee Rueankawe” โพสต์คลิปชาวสวนลำไยรายหนึ่งเทลำไยที่นำไปขายทิ้งบริเวณหน้าจุดรับซื้อเอกชนใน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ หลังราคารับซื้อเบอร์ A เหลือกิโลกรัมละ 5 บาท ทั้งที่ต้นทุนการผลิตสูงถึงกิโลกรัมละ 10 บาท จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน
อันดับ 6 : 24 สิงหาฯ วันปลดล็อกพืชกระท่อม - ฮือฮาฟ้าทะลายโจรอัดเม็ดจากเครื่องปั๊มยาบ้า ยืนยันสะอาดปลอดภัย
สัปดาห์นี้มีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับพืชสมุนไพรอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรก เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นวันปลดล็อกพืชกระท่อม อันเนื่องมาจากพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้ เป็นการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ทำให้ชาวบ้านทั่วไปสามารถปลูกพืชกระท่อม เอาไว้ครอบครอง ซื้อ ขาย หรือนำมาบริโภคได้ แต่ยังห้ามนำไปผสมกับสารเสพติดชนิดต่างๆ เช่น 4x100 อีกทั้งผู้ต้องขังหรืออยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับพืชกระท่อมก็จะได้รับการปล่อยตัวหรือยุติคดีโดยไม่ถือว่าเคยกระทำความผิด นับเป็นการปลดล็อกออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษมานานถึง 41 ปี
อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชมการทดลองทดสอบการผลิตฟ้าทะลายโจรแบบอัดเม็ด จากเครื่องปั๊มยาบ้าที่ยึดมาจากผู้ผลิต เพื่อใช้ในการรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำทั่วประเทศ หลังจากช่างจากองค์กรเภสัชกรรม มาซ่อมเครื่องปั๊มยาบ้าที่ยึดมาได้จากลุ่มผู้ค้ายา ทำความสะอาดและเปลี่ยนไปเป็นหัวตอกเดิมสำหรับผลิตยา ยืนยันว่าล้างเครื่องปั๊มเป็นอย่างดี หัวตอกเก่าได้ถอดทิ้งไปทั้งหมดแล้ว ฟ้าทะลายโจรที่ผลิตสะอาดและปลอดภัยตามมาตรฐาน ซึ่งจะใช้ฟ้าทะลายโจรผง ที่ได้รับบริจาคมาจากภาคเอกชน 600 กิโลกรัม ผลิตได้ถึง 1.5 ล้านเม็ด
อันดับ 7 : เขาใหญ่ปังมาก พลายเดี่ยวช้างจริง ฟาดช้างปลอมจนล้ม หมีควายเขาใหญ่บุกครัว จุดชมทิวทัศน์ผาตรอมใจ
ไวรัลประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องยกให้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เริ่มจากเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “บดินทร์ จันทศรีคำ” สมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ชมรมฅนรักษ์สัตว์-ป่า” ได้โพสต์ภาพขณะที่ช้างตัวหนึ่งบุกเข้าไปพังรูปปั้นช้างจำลอง ที่ตั้งอยู่หน้าศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำให้รูปปั้นช้างจำลองล้มลง ก่อนย้ายไปตั้งที่หน้าศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ป่าเพื่อซ่อมแซม โดยช้างตัวดังกล่าวมีชื่อว่า พลายเดี่ยว หรือ พลายงาเดียว ซึ่งอีกชื่อคือ เดี่ยวหลับ เพราะวันๆ เมื่อหากินเสร็จแล้วมักจะล้มตัวลงนอนตะแคง ครั้งหนึ่งประมาณ 15-20 นาที
ชมโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่ https://www.facebook.com/groups/save.the.wildlife51/permalink/4397251046980606/
อีกไวรัลหนึ่ง กลุ่มเฟซบุ๊ก “เขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ Khaoyai National Park” มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Zen Kritsada” โพสต์ภาพและวิดีโอคลิปขณะที่หมีควาย บุกเข้าไปในบริเวณครัว ซึ่งแม่ค้ากำลังทำไข่เจียว ระหว่างนั้นแม่ค้าเอากระทะไฟฟ้ากับหม้อหุงข้าวออกมา แต่หมีควายก็พยายามตะปบแย่งหม้อหุงข้าว กวาดขวดน้ำมันพืชและซอสปรุงรสจนล้มลง บริเวณร้านค้าสวัสดิการสถานีรายงานเขาเขียว จุดชมทิวทิศน์เขาเขียว ผาตรอมใจ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ ต.หินตั้ง อ.เมืองฯ จ.นครนายก ทั้งสองไวรัลกลายเป็นที่ฮือฮาและเอ็นดูแก่ชาวโซเชียลฯ จำนวนมาก
ชมคลิป คลิกที่นี่ https://www.facebook.com/groups/KhaoyaiThailand/posts/4413880331989262/