เชียงใหม่ - สุดทน! กำนันเมืองพร้าวบรรทุกลำไยเก็บจากสวนเต็มท้ายรถกระบะ ถึงหน้าจุดรับซื้อต้องผิดหวังหนักเจอราคาตกต่ำขายได้แค่กิโลกรัมละ 5 บาท ขณะที่ต้นทุนกว่า 10 บาท ตัดสินใจเปิดถุงเททิ้งหมด พร้อมประกาศตามหาตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทวงถามสัญญาช่วยเหลือชาวบ้านหลังเคยลงพื้นที่หาเสียงและรับปากไว้ แถมถาม “ลุงตู่” คิดยังไง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ปัญหาราคาลำไยตกต่ำยังคงสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนลำไยในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เพราะราคาที่มีการรับซื้อต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอย่างมาก ไม่พอแม้กระทั่งจ่ายค่าคนงานเก็บลำไย ซึ่งเกษตรกรชาวสวนในหลายพื้นที่มีการแสดงออกและสะท้อนปัญหาให้เห็นทั้งการใช้ไม้ฟาดลำไยที่ยังไม่ได้เก็บทิ้งหรือนำลำไยที่เก็บแล้วไปเททิ้งข้างสวน เพราะจะยิ่งขาดทุนเพิ่มไปอีกหากต้องจ่ายค่าขนส่งเพิ่มเพื่อนำไปขาย
ทั้งนี้ ล่าสุดวานนี้ (22 ส.ค. 64) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sumalee Rueankawe” โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชายชาวสวนลำไยรายหนึ่งเทลำไยที่นำไปขายทิ้งบริเวณหน้าจุดรับซื้อเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่บรรทุกลำไยที่เก็บจากสวนเต็มท้ายรถยนต์กระบะนำไปส่งขายที่จุดรับซื้อเอกชน แต่ต้องพบความผิดหวังอย่างมากที่ราคารับซื้อลำไยเกรด A อยู่ที่เพียงกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาก จึงตัดสินใจเทลำไยทิ้งบริเวณหน้าจุดรับซื้อ พร้อมกับตัดพ้อถึงความเดือดร้อนยากลำบากของชาวสวน รวมทั้งพาดพิงถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาได้ ทั้งๆ ที่เคยลงพื้นที่หาเสียงในอำเภอพร้าวและรับปากว่าจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ ตลอดจนถามถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยว่าคิดอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กที่โพสต์คลิปดังกล่าวบรรยายข้อความว่า “ตายแล้วปี้น้องเกษตรกรสวนลำไยเมืองป้าวภาคเหนือตอนบน อยู่บ่ะได้แล้วมันจะต้องทำจาไดเบอร์ A ราคา 5 บาท แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ค่าปุ๋ยค่ายา ค่าแรงงาน ไผคิดเห็นจาไดกันผ้อง นี่คือเสียงสะท้อนของจาวสวนลำไย ลำไยถูกเหลือกะปิ ถูกกว่าปลาร้า แหมเน้อวันนี้นา#นี่คือจุดเริ่มต้น หากไผสนใจในที่มาที่ไป วันพรุ่งนี้ 18.00 น.เรียนเชิญทุกคนเข้ามาฟังตวยกันได้เน้อเจ้าที่สหกรณ์หอมหัวใหญ่ ต.ป่าตุ้ม” ซึ่งหลังจากที่โพสต์มีการเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าชมและแชร์ออกจำนวนมาก รวมทั้งแสดงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจเกษตรกรชาวสวนลำไยที่กำลังเดือดร้อน รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตลำไยที่ตกต่ำและสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรชาวสวนลำไย
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sumalee Rueankawe” คือ นางสุมาลี เรือนแก้ว ชาวสวนลำไยอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตามคลิปวิดีโอที่โพสต์นั้นเกิดขึ้นช่วงค่ำวานนี้ (22 ส.ค. 64) ที่บริเวณหน้าจุดรับซื้อลำไยแห่งหนึ่งในตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว โดยระหว่างที่ตัวเองเข้าไปสังเกตการณ์สำรวจราคารับซื้อลำไยเพราะเตรียมที่จะเก็บจากสวนมาขายนั้น ผู้ชายในคลิป ซึ่งเป็นกำนันตำบลป่าตุ้ม และมีอาชีพทำสวนลำไย ได้นำลำไยมาขาย แต่พบว่าขายได้เพียงกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่าต้นทุนเลย ทำให้รู้สึกผิดหวังและอัดอั้นใจอย่างมาก จึงทำการเทลำไยทั้งหมดทิ้งแทนที่จะขาย พร้อมกับตัดพ้อถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเกี่ยวกับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย
ตัวเองได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปเผยแพร่ดังกล่าวเพื่อหวังเป็นภาพสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ส่วนตัวเองมีลำไยที่ปลูกอยู่ประมาณ 10 ไร่ จำนวนประมาณ 200 ต้น อยู่ระหว่างรอเก็บ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ราคาตกต่ำเช่นนี้แล้ว กำลังคิดว่าอาจจะไม่ทำการเก็บและปล่อยให้ลำไยเน่าคาต้นไปเลย เพราะไม่คุ้มค่าต้นทุนและไม่อยากขาดทุนมากไปกว่านี้แล้ว
ขณะที่นายสมิง ถนอมบุญ กำนันตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นชายที่เทลำไยทิ้งตามที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า ขณะที่เก็บลำไยจากสวนนำไปขายที่จุดรับซื้อช่วงค่ำวานนี้ รู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อพบว่าราคาลำไยเกรด A ที่นำไปขายนั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ในขณะที่ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยกิโลกรัมละกว่า 10 บาทแล้ว ด้วยความอัดอั้นตันใจของตัวเองในฐานะเกษตรกรชาวสวนลำไยที่เชื่อว่าทุกคนรู้สึกเดือดร้อนไม่ต่างกันจึงตัดสินใจเทลำไยที่นำไปขายทิ้งทั้งหมด เพราะต้องการจะส่งเสียงสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นออกไปให้ถึงรัฐบาล ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและหน่วยงานเกี่ยวข้องได้รับรู้และลงมาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เคยมาลงพื้นที่หาเสียงในอำเภอพร้าวและรับปากกับชาวบ้านไว้หลายอย่าง แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังประสบปัญหาอยู่
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเวลานี้ไม่คาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือใดๆ และทำได้เพียงช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด โดยตัวเองมีลำไยที่ปลูกอยู่ประมาณ 20 ไร่ และกำลังเก็บเกี่ยว เวลานี้ต้องใช้แรงงานคนในครอบครัวทั้งหมดเพราะไม่มีเงินจ้างแรงงาน และหากขายได้ราคาเท่าไรก็ต้องยอมรับสภาพไปตามนั้นแม้ว่าจะต้องขาดทุนก็ตาม ส่วนกรณีคลิปที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้นไม่กังวลใดๆ ว่าจะกระทบตำแหน่งกำนัน เพราะเป็นการพูดตามความจริง