วันนี้ (15 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องจากกิจกรรมคาร์ปาร์ก (Car Park) หรือคาร์ม็อบและไฮด์ปาร์ก (Car Mob + Hyde Park) โดยหัวขบวนนำโดยขบวนรถจักรยานยนต์ พร้อมกับขอให้ผู้ร่วมขบวนบีบแตรเป็นระยะ เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการร่วมกันขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่นำโดย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มีจุดประสงค์เพื่อขยายแนวร่วมประชาชนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีจุดนัดหมาย 3 จุด ได้แก่ 1. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2. แยกราชประสงค์ 3. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศเมื่อเวลา 17.07 น. คฝ.ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งมีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ โดยอยู่นอก 3 เส้นทางของกิจกรรมคาร์ปาร์กในวันนี้ ผู้ชุมนุมบางส่วนอยู่ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง บริเวณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งขวาง โดยเกิดการปาประทัด นอกจากนี้ มีความพยายามปาถุงปลาร้าไปที่หลังตู้คอนเทนเนอร์ ต่อมามีรายงานว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง
ต่อมาเมื่อเวลา 17.47 น. รถจีโน่ได้ขับขึ้นมาบริเวณสะพานแยกสามเหลี่ยมดินแดงและฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา พร้อมปล่อยคลื่นเสียงแอลแรด (LRAD) ใส่ผู้ชุมนุมบริเวณถนนด้านล่างก่อนจะถอยกลับไป และกลับมาอีกครั้งในเวลา 17.51 น. และถอยกลับไป ด้านผู้ชุมนุมพยายามระดมปาของและประทัดตอบโต้ หลังจากที่รถจีโน่ได้ถอยออกไปผู้ชุมนุมได้ขยับแนวขึ้นมาใกล้คอนเทนเนอร์
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินทางเข้าพื้นที่ โดยกล่าวกับผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าวว่า เราไม่ต้องสนใจตำรวจ แต่เราต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนที่สัญญากับเขาว่าจะเลิกกิจกรรมในเวลา 18.00 น. ตนมาร้องขอกับพี่น้อง และน้องๆ ทุกคน มาด้วยรัก มาด้วยความห่วงใย ถ้าไม่รักคงไม่มายืนกับพี่น้องตรงนี้ วันนี้ขอให้ฟังตนสักคำ
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า “ปรบมือฉลองชัยชนะ แล้วเรียกพี่น้องแนวหน้าเรากลับมาก่อน ผมจะพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ยุติ แต่ขอให้พี่น้องแนวหน้าถอยออกมาตั้งหลักข้างๆ กันตรงนี้ก่อน เมื่อสถานการณ์มีความมืดเข้ามา ทัศนวิสัยอาจทำให้เกิดความเสียหาย เป้าหมาย และภารกิจวันนี้เราไม่ได้ประกาศจะผ่านที่นี่ หรือแสดงสัญลักษณ์ที่นี่เลย เราชนะแล้วตั้งแต่ที่แยกราชประสงค์ และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เราไม่ได้เอาชนะ คฝ. แต่มาเอาชนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้พี่น้องเดินทางกลับได้เลย อยู่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อฝ่ายประชาชนทั้งสิ้น”
จากนั้นเมื่อเวลา 19.15 น. สถานการณ์บริเวณแยกดินแดงยังคงตึงเครียดเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นกลุ่มอาชีวะยังคงปะทะกับเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด ขณะเดียวกันป้อมควบคุมสัญญาณจราจรของ สน.ดินแดง ที่ใต้ด่วนดินแดงที่ถูกเผาไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ยังเหลือโครงสร้างอยู่ ยังไม่มีการรื้อโครงสร้างออก กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำเก้าอี้พลาสติกของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำมานั่งชั่วคราวในการอำนวยการจราจร พร้อมกันนั้นได้หาเศษขยะ ท่อนไม้หรือเชื้อเพลิงที่พอหาได้จุดไฟเผาซ้ำอีกรอบ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าระงับเหตุอีกครั้งโดยการยิงแก๊สน้ำตา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศล่าถอยไปตั้งหลัก จากนั้นเวลา 19.30 น. มวลชนจุดพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจบนทางด่วนโต้กลับแก๊สน้ำตา
ทั้งรายงานข่าวแพิ่มเติมว่า ล่าสุดเวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนตั้งแถวเรียงหน้ากระดานไล่กระชับพื้นที่เข้าสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันมวลชนได้ตอบโต้ด้วยการยิงพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มมวลชนที่ยังไม่ยอมยุติการชุมนุมนี้ ได้รวมตัวอยู่บริเวณหน้าแฟลตดินแดง และก่อเหตุจุดประทัดและ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแถวเป็นแนวหน้ากระดานและค่อยๆ เคลื่อนกำลังเข้ากระชับพื้นที่บริเวณหน้าแฟลตดินแดงต่อเนื่อง
