xs
xsm
sm
md
lg

“บวรศักดิ์” วอนรัฐอย่าบ้าจี้ห้ามส่งออกวัคซีน หวั่นถูกฟ้องหลังอาน-สยามไบโอไซแอนซ์ขาดความน่าเชื่อถือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักกฎหมายดัง “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ค้านหมอศิริราชเคลื่อนไหวให้รัฐห้ามการส่งออกวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์ ชี้แม้ผลดีวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่ผลเสียเพียบ ตั้งแต่ตระบัดสัตย์ ยันถูกเอกชนฟ้องนับพัน นับหมื่นล้าน เป็นแกะดำอาเซียน ลามไปถึงสยามไบโอไซแอนซ์ขาดความน่าเชื่อถือ แนะตั้งสติ ตัดสินใจอย่างไรต้องรับผิดชอบ

วันนี้ (13 ส.ค.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นักกฎหมายชื่อดัง อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และอดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Borwornsak Uwanno ถึงกรณีที่มีข้อเสนอจาก ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เคลื่อนไหวผ่าน Change.org ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีน ห้ามการส่งออกวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ ให้ประเทศอื่นเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ประเทศไทยมีวัคซีน 20-30 ล้านโดส ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า มีโอกาสที่จะควบคุมการระบาดและลดความสูญเสียได้ดีขึ้น ความว่า

“ผมไม่เคยเขียนเฟซบุ๊กยาวๆ แต่วันนี้ต้องทำเพื่อให้คิดกันดีๆ ให้รอบด้าน ก่อนที่จะตัดสินใจทำตามที่บางคนเสนอให้รัฐบาลใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงทางวัคซีนฯ มาตรา 18 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง สั่งกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

ผมพยายามส่งสัญญาณให้คนรอบข้างผู้มีอำนาจมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่า หัวหน้ารัฐบาล และ รมว.สาธารณสุข ควรทำ 2 เรื่องเท่านั้นในเวลานี้ คือ หาวัคซีนมาฉีดให้มากที่สุด และเตรียมการเรื่อง post COVID recovery (การเยียวยาฟื้นฟูหลังโควิด) ให้พร้อม เมื่อโรคระบาดผ่านไป เราจะได้ฟื้นตัวเร็วที่สุด แต่คงไม่ไปถึงผู้มีอำนาจ วันนี้เราจึงเผชิญกับสภาพการระบาดหนักเช่นนี้

ก่อนจะตัดสินใจบริหารตามเสียงด่าอย่างที่เป็นมา ขอได้โปรดพิจารณาข้อดีข้อเสียของการทำตามข้อเสนอนั้นอย่างรอบคอบ

ถ้าห้ามหรือจำกัดการส่งออกแอสตร้าเซนเนก้า ข้อดีก็คือ 1. เราอาจมีวัคซีนฉีดเพิ่มขึ้น 2. คนป่วยอาการหนักอาจน้อยลง แต่การระบาดจะลดลงหรือหมดไปยังไม่รู้แน่ เพราะหลายประเทศที่ฉีดเกินครึ่งประชากร ก็กลับมาติดใหม่มากมาย เช่น อิสราเอล อังกฤษ 3. หมอและบุคคลากรการแพทย์คงเบาแรงลง 4. ห้องไอซียู เตียง เครื่องช่วยหายใจคงเพิ่มขึ้น

แต่ข้อเสียก็มีมากไม่แพ้กัน คือ รัฐบาลอาจต้องรับผิดหลายด้านเพิ่ม จากความรับผิดทางสังคมที่ถูกกระหน่ำด่าอยู่ในโซเชียลฯ และความรับผิดทางการเมืองในสภาที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ

1. ความรับผิดทางหลักศาสนาที่ยึด “สัจจะ” เป็นคุณธรรมสำคัญ เพราะรัฐบาลไปทำสัญญากับสยามไบโอไซเอนซ์ผิดพลาดเองโดยสั่งวัคซีนน้อยกว่าที่ควร บัดนี้จะมาใช้อำนาจฝ่ายเดียวที่รัฐบาลมีบังคับเขาแทน ภาษาหยาบหน่อยก็เรียกว่า “ตระบัดสัตย์”

2. ความรับผิดในแง่รัฐธรรมนูญ รัฐบาลกำลังละเมิดหลักนิติธรรมตามมาตรา 3 วรรคสอง และมาตรา 26 และละเมิดหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 53 ที่กำหนดให้ “รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” เพราะแทนที่จะเคารพกฎหมายเกี่ยวกับสัญญา รัฐกลับละเมิดสัญญาเสียเอง อันถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างชัดแจ้ง

3. ความรับผิดทางกฎหมายปกครอง เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจฝ่ายเดียวไปกระทบสัญญาทำให้เอกชนเสียหายที่ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “fait du prince” หรือ ทฤษฎี การกระทำของเจ้าผู้ปกครอง รัฐบาลทำได้ก็จริง แต่สยามไบโอไซแอนซ์ได้รับความเสียหาย เพราะส่งมอบวัคซีนให้คู่สัญญาในต่างประเทศไม่ได้ ถูกคู่สัญญานั้นเรียกค่าเสียหายเท่าใด รัฐบาลไทยก็ต้องถูกศาลปกครองพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหายนั้นให้บริษัทเต็มจำนวน ซึ่งไม่รู้จำนวนค่าเสียหายจริงเวลานี้อาจเป็นพันล้าน หมื่นล้านบาทก็ได้

4. ความรับผิดระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยไม่ให้ส่งออกวัคซีนไปยังประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆ ที่มาทำสัญญากับบริษัทไปแล้ว ประเทศเหล่านั้นเขาเดือดร้อน เราก็จะเป็นแกะดำตัวใหญ่ในอาเซียนและในวงการระหว่างประเทศ

5. ความน่าเชื่อถือในประเทศไทย ในการลงทุนที่พยายามทำกันมาแทบตายเพื่อขยับฐานะใน Ease of Doing Business (ความสะดวกในการทำธุรกิจ) ก็ดี ใน Governance Indicator (ตัวบ่งชี้การกำกับดูแล) ของธนาคารโลก (World Bank) ก็ดี Indicator of Competitiveness (ตัวบ่งชี้ความสามารถในการแข่งขัน) ของ Mdi ก็ดี จะหายวับไป เพราะไม่รักษาสัญญา ไม่มีสัจจะ ไม่น่าลงทุน

6. ต่อไป สยามไบโอไซแอนซ์ไปทำสัญญากับใคร ก็ไม่มีใครอยากคบค้าด้วย เพราะทำแล้ว รักษาสัญญาไม่ได้

ทั้งหมดนี้คือข้อดีข้อเสีย ท่านที่มีอำนาจ และท่านที่คิดจะเสนออะไรอีก กรุณาเอาไปตั้งสติ ตรึก และ ตรอง ให้รอบคอบ รอบด้าน นะครับ

เมื่อคิดดีแล้ว จะตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่ว่า แต่ต้องรับผิดชอบ ในผลการตัดสินใจกระทำนั้นนะครับ

ขอบพระคุณมากที่อ่านยาวๆ

บวรศักดิ์ อุวรรณโณ”



กำลังโหลดความคิดเห็น