ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขออภัยจัดหาวัคซีนโควิด-19 ได้ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ เร่งเจรจาจัดหาวัคซีนรุ่น 2 รองรับไวรัสกลายพันธุ์ ตั้งเป้าส่งมอบไตรมาส 1 ของปี 65 พร้อมเตรียมเข้าร่วมโคแวกซ์เพื่อจัดหาวัคซีนปี 2565 เพิ่มเติมจากที่เจรจากับผู้ผลิตวัคซีนโดยลำพัง
วันนี้ (21 ก.ค.) นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนสถาบันวัคซีนแห่งชาติที่ทำหน้าที่ในการเจรจาจัดหาและติดต่อกับผู้ผลิตวัคซีน เราพยายามหาช่องทางจองซื้อวัคซีนล่วงหน้า แม้ว่าจะเป็นวัคซีนที่อยู่ขั้นตอนการวิจัย ก็ได้มีการหาช่องทางจนกระทั่งมีการออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติมาตรา 18(4) ที่จะเปิดให้สถาบันวัคซีนฯ ทำหน้าที่ในการจองวัคซีนล่วงหน้าที่อยู่ในขั้นการวิจัย จึงเป็นที่มาที่ทำให้เราสามารถจัดหาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่เป็นการจองล่วงหน้า ตั้งแต่เริ่มต้นในเดือน ส.ค. 2563 และจำนวนวัคซีนที่ได้เป็นจำนวน 61 ล้านโดส และในแต่ละครั้งในการเสนอการจัดหาวัคซีนใดๆ ก็ตาม เมื่อเรามีข้อมูลจากการได้เจรจาพูดคุยกับผู้ผลิตวัคซีน ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงาน และคณะกรรมการจัดหาวัคซีน เพื่อให้เกิดการตัดสินใจในเชิงการบริหาร เพราะว่าไม่สามารถดำเนินการได้โดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เนื่องจากมีความเกี่ยวพันในเรื่องงบประมาณ ความผูกพันด้านสัญญาจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ เป็นที่มาที่การจัดหาวัคซีนไม่ทันตามจำนวนที่ควรจะเป็นได้ ทั้งหมดเป็นข้อจำกัดที่มี จึงขออภัยที่สถาบันวัคซีนจัดหาวัคซีนได้ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์
นพ.นคร กล่าวอีกว่า ต่อไปข้างหน้าสถาบันวัคซีนฯ ที่จะดำเนินการในความรับผิดชอบ คือ การจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมทั้งในปีนี้ และปีหน้า โดยเฉพาะปีหน้าเป็นการเร่งรัดการจัดหาวัคซีนโดยพิจารณาดำเนินการกับผู้ผลิตวัคซีนที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่สามารถตอบสนองกับไวรัสกลายพันธุ์ได้ โดยเป้าหมายเพื่อให้มีการส่งมอบได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เร่งดำเนินการ เพราะไม่สามารถรอเวลาได้ จึงต้องจองวัคซีนล่วงหน้า ภายใต้การจัดหาวัคซีนก็จะมีข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย
อย่างไรก็ตาม เรียนให้ทราบว่า เรายังอยู่ในขั้นตอนของการเข้าร่วมกับโครงการโคแวกซ์ แต่ยังไม่ได้มีการลงนามในการทำความร่วมมือการจัดหาวัคซีนร่วมกัน โดยสถาบันวัคซีนฯ ได้เตรียมการเริ่มเจรจา และส่งข้อความประสานงานหน่วยงานที่ชื่อว่า กาวี ในการที่ขอเจรจาจัดหาวัคซีนร่วมกันกับโคแวกซ์ โดยมีเป้าหมายในการได้รับวัคซีนปี 2565 เพิ่มเติมจากการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนโดยลำพัง ทั้งนี้ เมื่อมีข้อสรุปชัดเจน จะนำเสนอผ่านคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง
นพ.นคร ยังกล่าวอีกว่า ข้อแนะนำในการสนับสนุนการวิจัยในประเทศ ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี ก็จะมีการแสวงหาความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในต่างประเทศที่จะมีความประสงค์ในการขยายการผลิตวัคซีนในแบบฟอร์มอื่นๆ ซึ่งอยู่ในช่วงของการเร่งรัดแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการร่วมดำเนินการ ประสานงานที่จะดูทิศทางการดำเนินงานร่วมมือกับต่างประเทศ และการวิจัยวัคซีนต้นแบบของประเทศที่ได้มีการสนับสนุนอยู่ทั้งรูปแบบ mRNA วัคซีนของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การเภสัชกรและอื่นๆ โดยอยู่ระหว่างรอผลวิจัย