xs
xsm
sm
md
lg

“บวรศักดิ์”ยกข้อดี-เสีย ก่อนใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงทางวัคซีนฯ จำกัดส่งออกแอสตร้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก Borwornsak Uwanno ระบุว่า ผมไม่เคยเขียนเฟซบุ๊กยาวๆ แต่วันนี้ต้องทำเพื่อให้คิดกันดีๆ ให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจทำตามที่บางคนเสนอให้รัฐบาลใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงทางวัคซีนฯ มาตรา 18 วรรคหนึ่ง(2) และวรรค 2 สั่งกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีน Astra

ผมพยายามส่งสัญญาณให้คนรอบข้างผู้มีอำนาจมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่าหัวหน้ารัฐบาล และ รมว.สธ.ควรทำ 2 เรื่องเท่านั้นในเวลานี้คือ หาวัคซีนมาฉีดให้มากที่สุด และเตรียมการเรื่องpost COVID recoveryให้พร้อม เมื่อโรคระบาดผ่านไปเราจะได้ฟื้นตัวเร็วที่สุด แต่คงไม่ไปถึงผู้มีอำนาจ วันนี้เราจึงเผชิญกับสภาพการระบาดหนักเช่นนี้ ก่อนจะตัดสินใจบริหารตามเสียงด่าอย่างที่เป็นมา ขอได้โปรดพิจารณาข้อดีข้อเสียของการทำตามข้อเสนอนั้นอย่างรอบคอบ

ถ้าห้ามหรือจำกัดการส่งออก Astraข้อดีก็คือ

1.เราอาจมีวัคซีนฉีดเพิ่มขึ้น

2.คนป่วยอาการหนักอาจน้อยลง แต่การระบาดจะลดลงหรือหมดไปยังไม่รู้แน่ เพราะหลายประเทศที่ฉีดเกินครึ่งประชากร ก็กลับมาติดใหม่มากมายเช่นอิสราเอล อังกฤษ

3.หมอและบุคคลากรการแพทย์คงเบาแรงลง

4.ห้องไอซียู เตียง เครื่องช่วยหายใจคงเพิ่มขึ้น

แต่ข้อเสียก็มีมากไม่แพ้กันคือ รัฐบาลอาจต้องรับผิดหลายด้านเพิ่มจากความรับผิดทางสังคมที่ถูกกระหน่ำด่าอยู่ในโซเชียล และความรับผิดทางการเมืองในสภาที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ

1.ความรับผิดทางหลักศาสนาที่ยึด
“สัจจะ”เป็นคุณธรรมสำคัญ เพราะรัฐบาลไปทำสัญญากับสยามไบโอไซเอนซ์ผิดพลาดเองโดยสั่งวัคซีนน้อยกว่าที่ควร บัดนี้จะมาใช้อำนาจฝ่ายเดียวที่รัฐบาลมีบังคับเขาแทน ภาษาหยาบหน่อยก็เรียกว่า”ตระบัดสัตย์”

2.ความรับผิดในแง่รัฐธรรมนูญ รัฐบาลกำลังละเมิดหลักนิติธรรมตามมาตรา3วรรค2 และมาตรา26และละเมิดหน้าที่ของรัฐตามมาตรา53 ที่กำหนดให้ “รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด”เพราะแทนที่จะเคารพกฎหมายเกี่ยวกับสัญญา รัฐกลับละเมิดสัญญาเสียเอง อันถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างชัดแจ้ง

3.ความรับผิดทางกฎหมายปกครอง เมื่อรัฐบาลใช้อำนาจฝ่ายเดียวไปกระทบสัญญาทำให้เอกชนเสียหายที่ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “fait du prince”หรือ ทฤษฎี การกระทำของเจ้าผู้ปกครอง รัฐบาลทำได้ก็จริง แต่สยามไบโอไซเอนส์ได้รับความเสียหายเพราะส่งมอบวัคซีนให้คู่สัญญาในต่างประเทศไม่ได้ ถูกคู่สัญญานั้นเรียกค่าเสียหายเท่าใด รัฐบาลไทยก็ต้องถูกศาลปกครองพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหายนั้นให้บริษัทเต็มจำนวน ซึ่งไม่รู้จำนวนค่าเสียหายจริงเวลานี้อาจเป็นพันล้าน หมื่นล้านบาทก็ได้

4.ความรับผิดระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยไม่ให้ส่งออกวัคซีนไปยังประเทศอาเซียนและประเทศอื่นๆที่มาทำสัญญากับบริษัทไปแล้ว ประเทศเหล่านั้นเขาเดือดร้อน เราก็จะเป็นแกะดำตัวใหญ่ในอาเซียนและในวงการระหว่างประเทศ

5.ความน่าเชื่อถือในประเทศไทยในการลงทุนที่พยายามทำกันมาแทบตายเพื่อขยับฐานะในease of doing business ก็ดี ใน governance indicator ของworld bank ก็ดี indicator of competitiveness ของ Mdiก็ดี จะหายวับไป เพราะไม่รักษาสัญญา ไม่มีสัจจะ ไม่น่าลงทุน

6.ต่อไปสยามไบโอฯไปทำสัญญากับใคร ก็ไม่มีใครอยากคบค้าด้วย เพราะทำแล้ว รักษาสัญญาไม่ได้

ทั้งหมดนี้คือข้อดีข้อเสีย ท่านที่มีอำนาจ และท่านที่คิดจะเสนออะไรอีก กรุณาเอาไปตั้งสติ ตรึกและตรองให้รอบคอบ รอบด้าน

เมื่อคิดดีแล้ว จะตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่ว่า แต่ต้องรับผิดชอบ ในผลการตัดสินใจกระทำนั้น ขอบพระคุณมากที่ทนอ่านยาวๆ