นายแพทย์ สิทธิพงศ์ ฬาพานิช น้องชายของหมอแอ้ม บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ที่เพิ่งจากไปโดยการติดเชื้อโควิด-19 แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ออกมาโพสต์ข้อความระบุ โควิดคร่าชีวิตบุคคลสำคัญของครอบครัวไปแล้ว 3 ชีวิต ชี้ถึงเวลาแล้วหรือไม่กับการแก้กฎให้ รพ.เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. เพจ “AVELA Clinique” โดย นายแพทย์ สิทธิพงศ์ ฬาพานิช หรือหมอเตี๋ยว น้องชาย “หมอแอ้ม” หรือ นาวาอากาศเอก หญิง แพทย์หญิง สรัญยา ฬาพานิช บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต หลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มแล้ว ได้โพสต์ข้อความพูดถึงการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงในครั้งนี้ว่า
“เคสพี่สาวผม (น.อ.หญิง ดร.พญ.สรัญยา ฬาพานิช) เป็นแพทย์ที่แม้จะฉีดวัคซีนไปแล้วก็ยังติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต ครอบครัวเราเสียชีวิตจากโควิดตอนนี้สามชีวิตครับ คือคุณแม่ เมื่อ 25/7 คุณพ่อ 31/7 แล้วก็พี่สาว เมื่อวานนี้ ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะพูดความรู้สึก และความต้องการที่เห็นสถานการณ์โควิดในประเทศปัจจุบันนี้
ผมเองไม่อยากจะโทษวัคซีนใดๆ ว่าดีหรือไม่ดี เพราะหลายยี่ห้อฉีดครบก็มีเสียชีวิตครับ แต่โดยหลักทางวิชาการที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศทั่วโลกนั้น ชนิด mrna หรือ subunit protien น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในเบื้องต้นนี้ครับ และแม้ว่าวัคซีนที่น่าจะครอบคลุมทุกเชื้อน่าจะเป็นล็อตของปีหน้า แต่เรารอแบบนั้นไม่ได้นะครับ เราต้องมีวัคซีนที่มาตรฐานจำนวนมากกว่าที่มีตอนนี้ครับ ปัญหาของเราคือ “กฎที่ออกว่า ใครจะซื้อต้องผ่านหน่วยงานรัฐ” ผมเองไม่มั่นใจในเรื่องกฎหมายเท่าไรนัก
แต่ผมคิดว่า ถ้าเราสามารถออกกฎแบบที่ราชกิจจาฯ ที่ให้สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์นำเข้าได้ ก็น่าจะออกให้บรรดาโรงพยาบาลเอกชน หรือองค์กรเอกชน สามารถนำเข้าได้ ถ้าไม่เชื่อใจโรงพยาบาลเอกชนที่ใด ก็ผ่านตัวสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ก็น่าจะเป็นสมาคมใหญ่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้นะครับ การนำเข้าวัคซีนที่ยอมรับในต่างประเทศมามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ในทุกๆ ทาง โดยไม่ต้องอาศัยกฎเกณฑ์ผ่านหน่วยงานรัฐ น่าจะอนุโลมให้ใช้ในสถานการณ์ที่คนไทยได้ฉีดวัคซีนเพียง 25% (นี่คือรวมเชื้อตายและ mrna) ของประชากร เพราะวัคซีนยิ่งเยอะ (โดยเฉพาะพวก mrna และ Subunit Protein) มันก็จะยิ่งดีไม่ใช่หรือครับ
มันน่าจะถึงเวลาที่เราควรแก้บางกฎ เพื่อให้คนไทยได้วัคซีน “ที่มาตรฐาน” ที่จะพอป้องกันตัวเองได้ อย่างน้อยเราก็พอมองเห็นทางสว่างข้างหน้าครับ ผมเชื่อว่าถ้าออกกฎที่แก้ได้ จะมีบริษัท หรือโรงพยาบาลมากมาย หรือแม้แต่หน่วยงานใดๆ ที่จะยินดีติดต่อเอง และเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว เพราะเราเสียเวลามามากเกินไปแล้วครับ กับคำว่า รอ วัคซีนที่มาตรฐานครับ เปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ นำเข้าวัคซีนเองเถอะครับ มีมากดีกว่ามีไม่พอนะครับ นายแพทย์ สิทธิพงศ์ ฬาพานิช (หมอเตี๋ยว)”