“ปานเทพ” แนะกิน “ฟ้าทะลายโจร” ทันทีที่เริ่มมีอาการให้ทันใน 4 วัน ป้องกัน “โควิด” ลงปอด ปริมาณแนะนำ 6 กรัมต่อวัน แบ่งกิน 4 ครั้งต่อวัน หากภายในหนึ่งวันครึ่งอาการไม่ดีขึ้นให้เพิ่มเป็นสองเท่าตัว
วันที่ 19 ก.ค. 2564 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “กินฟ้าทะลายโจรอย่างไร ไม่ให้เชื้อลงปอด ?”
อ.ปานเทพกล่าวว่า นับตั้งแต่วันนี้ถ้าเกิดอาการดังนี้ให้กินฟ้าทะลายโจรเลย ไม่ต้องรอผลตรวจ อ่อนเพลีย อ่อนล้า จากนั้นก็ไอ และเจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการเหล่านี้จะสำแดงใน 4 วันแรกที่ได้รับเชื้อ เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ไม่มีไข้ ที่สำคัญเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ปวดศีรษะ
ตอนนี้รอผลตรวจ รอคิวเกิน 4 วัน มีสิทธิ์มากที่จะลงปอด ถึงจุดนั้นฟ้าทะลายโจรอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ควรใช้โดยเร็วทันที
เราต้องรู้เท่าทันโรคร้ายนี้ ถึงจะหยุดกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนภายใน 4 วัน ยึดตามกรมการแพทย์แผนไทยให้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สถานการณ์จริงไม่เป็นอย่างนั้น ผู้ป่วยแตกต่างกัน จำนวนเชื้อไม่เหมือนกัน ชนิดของเชื้อไม่เหมือนกัน ออกฤทธิ์ไม่เท่ากัน และมนุษย์มีความไม่เหมือนกัน ตัวแปรสุดท้าย คุณภาพฟ้าทะลายโจรไม่เท่ากัน
ตอนนี้ฟ้าทะลายโจรที่ใช้ในตลาด มี 3 แบบ 1. สารสกัด ลักษณะเป็นผงสีน้ำตาล ข้อดีไม่ต้องกินหลายเม็ด เหมาะสำหรับคนกินมากไม่ได้ ข้อเสียคือไม่ครบส่วน ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ ความเต็มส่วนจากธรรมชาติ จะมีไม่ครบเท่าแบบผงหยาบ 2. ผงหยาบจากลำต้น จะมีสีเขียวอ่อน ยุคหลังๆ คุุณภาพดีมาก ใช้ได้ ไม่ต้องเกี่ยง 3. ทำจากใบล้วน หายากสุด จะมีสีเขียวเข้ม
ปริมาณแนะนำในการใช้ อย่างที่บอก 4.8 กรัมต่อวัน ใช้กับเรือนจำกรุงเทพ ยังชนะยาฟาวิพิราเวียร์ แต่ถ้าเราจะกินในสถานการณ์โรคระบาดมากๆ ไม่เห็นว่าการกินน้อยปลอดภัย แนะนำให้ยึดขั้นต่ำสุดของหวัดธรรมดา คือ ให้กิน 6 กรัมต่อวันเบื้องต้น คือ หากเป็นแคปซูลละ 400 มก. กิน 4 เม็ดต่อครั้ง และ 4 ครั้งต่อวัน เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
ถ้ารสของมัน 4 ไปไม่ถึง ภายในหนึ่งวันครึ่งไม่ดีขึ้น ให้เพิ่มเป็นสองเท่าตัวในวันที่ 2-3 ทันที โดยนับวันเริ่มต้นใหม่ 1-5 ซึ่งกำเดาเกิดขึ้นใน 4 วันเท่านั้น ต้องสยบให้อยู่ สยบให้ได้ นี่เป็นปริมาณขั้นสูงสุดของไข้หวัดธรรมดา ถ้ากินตามนี้ได้มันจะต้องดีขึ้นในวันที่ 3-5 อย่างชัดเจน
อ.ปานเทพกล่าวอีกว่า ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยพูดถึงรสยาไว้ ฟ้าทะลายโจรคือราชาแห่งความขม ขมกว่าบอระเพ็ด แปลว่าการใช้ยาเย็นและขม คือรสยาลดกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนลง ไม่ใช่รสยาที่ใช้ได้ทุกเวลา ต้องใช้กับช่วงเวลาแรกและต้องเร็ว ดังนั้นฟ้าทะลายโจรจึงตอบสนองกับรูปรสยาในช่วงการเป็นระยะแรกเท่านั้น
ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย รสขม มีสรรพคุณแก้ทางโลหิตและดี แก้กำเดา แก้ไข้ต่างๆ บำรุงน้ำดี เจริญอาหาร ช่วยย่อยอาหาร แต่แสลงกับหัวใจพิการ โรคลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ เพราะเมื่อลดธาตุไฟลง ก็เกิดลมได้ง่าย ฉะนั้น ในการกินเยอะๆ ก็ต้องเอารสเผ็ดร้อนเข้าช่วยแก้โรคลมจุกเสียด ซึ่งก็คือรสเผ็ดร้อน ตัวที่มีฤทธิ์ต้านโควิด ก็มี ขิง กระชาย เพียงแต่กระชายปั่นไม่ค่อยได้ผล ต้องสกัด แต่ขิงควรใช้
อ.ปานเทพกล่าวด้วยว่า คนจำนวนหนึ่งต้องการสกัดเอาสารสกัดออกมา เสียดายอย่างยิ่ง ไฟเบอร์ในสมุนไพร คืออาหารที่ช่วยระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ทำไมต้องสกัดทิ้ง ตนสนับสนุนให้กินผงบด กินให้ทันใน 4 วัน ถ้าไข้ลงแล้ว สลับมากินฤทธิ์ร้อนได้ พอครบ 5 วันก็หยุด ถ้าอยากกินกระชาย ขิง หลังจากนั้นตามสบาย กระทั่งทรงตัว
นอกจากนั้น ใบสด สิ่งที่ของแห้งไม่มีทางทดแทนได้เลย คือ ความสดที่มีเอนไซม์ตามธรรมชาติ ภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านแค่เจ็บคอเด็ดใบกลืนเลย ตนไม่สามารถยืนยันว่าต้องกินเท่าไหร่ในการต้านโควิด แต่สามารถใช้ 1 ขยุ้ม ต้มน้ำดื่มทั้งวัน อาจท้องเสีย แต่จะสามารถลดไข้ได้ใน 2-3 วัน
