รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยกำลังมีปัญหา แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งสร้างความร้าวฉานไปถึงระดับครอบครัวแล้ว โดยมีเหตุผลมาจากความต้องการเอาชนะกันในทางการเมือง เผยอนาคตประเทศไทยน่าเป็นห่วงแล้ว
วันนี้ (15 ก.ค.) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Harirak Sutabutr” ระบุข้อความถึง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าเป็นแพทย์คนหนึ่งที่ทำงานหนักและเป็นผู้ที่น่าเห็นใจที่สุดคนหนึ่งในวงการแพทย์ นอกจากนี้ ยังได้ระบุอีกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นความแตกแยกในสังคมไทย ระหว่างผู้ที่เห็นด้วยกับรัฐบาลกับผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล จนส่งผลไปถึงระดับครอบครัวแล้ว ทั้งนี้ รศ.หริรักษ์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
“ขณะนี้ผู้ที่ทำงานหนักและเป็นผู้ที่น่าเห็นใจที่สุดในวงการแพทย์คงไม่พ้น คุณหมอยง ภู่วรวรรณ ผู้ซึ่งพยายามเรียกร้องให้ประชาชนรีบไปรับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องเกี่ยงว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อใด ด้วยเหตุนี้ คุณหมอยงต้องเผชิญกับการถูกโจมตีด้วยถ้อยคำหยาบคายใน social media จากฝ่ายชู 3 นิ้ว ที่โจมตีรัฐบาล และโจมตีวัคซีนทุกตัวที่รัฐบาลจัดหามาได้ในระยะแรกนี้
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่สมควรถูกตำหนิมากที่สุดคือผู้ที่เข้าไปเติมข้อความที่เป็นเท็จในประวัติของคุณหมอยงใน wikipedia ว่าเป็นเซลส์ขายวัคซีน Sinovac ให้กับรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งยังนำไปเผยแพร่ใน social media ต่างๆ ทำให้มีผู้เข้าใจผิดเข้ามาด่าคุณหมอยงกันอย่างสาดเสียเทเสีย นำความเสื่อมเสียมาสู่คุณหมอยงอย่างมาก
ในที่สุดตำรวจก็สามารถสืบจับผู้ที่กระทำผิดได้ เป็นชายหนุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 24 ปี เพิ่งเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง ขณะกำลังถูกควบคุมตัวที่บ้านของตัวเอง ชายคนนี้ยังแสดงท่าทีไม่ยี่หระ และยกมือชู 3 นิ้วอย่างภาคภูมิใจในการกระทำของตน จนคุณแม่ของผู้ต้องหาคนนี้ถึงกับพูดว่า “อยากให้มีปัญหามากกว่านี้หรือ”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะจับกุม สะท้อนให้เห็นถึงความร้าวฉานและเกลียดชังกันระหว่างคนไทยด้วยกัน ลึกลงไปจนถึงระดับครอบครัว สั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ และลูก
การกระทำของชายหนุ่มผู้นี้ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมทั่วไปถือเป็นการกระทำที่เลวร้ายอย่างถึงที่สุด เพราะเป็นการทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายร้ายแรงด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ แต่ก็ไม่เห็นมีใครในฝ่าย 3 นิ้ว ออกมาตำหนิการกระทำครั้งนี้ เหมือนอย่างที่ตำหนิคุณหมอยงเลย
นอกจากไม่มีคำตำหนิแล้ว ยังไม่พอ ล่าสุด ส.ส.ผู้ทรงเกียรติคนหนึ่งจากพรรคก้าวไกล กลับยังคงโพสต์โจมตีคุณหมอยงด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม มีคำว่า “ระยำ” แม้ไม่เอ่ยชื่อเพราะนำหน้าเพียงคำว่า “หมอ” แต่ทุกคนรู้ว่าหมายถึงใคร และนำคลิปที่คุณหมอยงเคยขึ้นเวที กปปส.มาให้ดูในโพสต์เดียวกัน เพื่อจะบอกพวกเดียวกันว่าคุณหมอยงเป็นพวก กปปส. เป็นฝ่ายตรงข้าม เชื่อถือไม่ได้
ในทางกลับกัน คุณหมออีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นแพทย์นักธุรกิจ กำลังได้รับกำลังใจจากกลุ่ม 3 นิ้ว ดังใน page ของ นายธนวัฒน์ วงศ์ชัย ซึ่งมีจำนวนคนติดตามเหยียบล้าน ได้ขอแรงทุกคนให้ช่วย save หมอบุญ ที่ออกมาวิจารณ์องค์การเภสัชกรรมเพื่อความเป็นธรรม ซึ่งกำลังจะถูกองค์การเภสัชกรรมฟ้อง และบอกว่าหมอเดียวที่จะให้ความเคารพคือหมอบุญ ไม่ใช่หมอยง
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประเทศเรามีความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะเหตุผลทางการเมือง จนถึงขั้นที่ไม่แยกแยะว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ใครก็ตามที่ทำสิ่งเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตัวเองถือเป็นความถูกต้องเสมอ ใครก็ตามทำสิ่งที่เป็นผลเสียต่อฝ่ายตัวเอง หรือไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายตัวเองต้องการ ย่อมเป็นความผิดที่ต้องช่วยกันโจมตีให้เสียหายโดยไม่เลือกวิธีที่ใช้
ความต้องการเอาชนะกันในทางการเมือง ถึงกับทำให้เรามองข้ามหลักจริยธรรมที่สมควรต้องยึดมั่นกันไปหมดแล้วหรือ เช่นนั้น คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสังคมที่ดีขึ้น จะแตกต่างจากนักการเมืองน้ำเน่าที่ตัวเองรังเกียจอย่างไร
น่าเป็นห่วงอนาคตของประเทศไทยจริงๆ”