วันนี้ (28 มิ.ย.) กรณีเกิดประเด็นร้อนเรื่องภายใน ม.นครพนม หลังมีความขัดแย้งกันอย่างหนักเรื่องการบริหารภายใน เนื่องจากทีมผู้บริหารมีนโยบายที่จริงจัง รวดเร็ว และปราศจากการทุจริต จึงเป็นที่ขัดใจของกลุ่มบุคลากรบางกลุ่ม และกลุ่มบุคคลภายนอกที่คอยหาประโยชน์จากมหาวิทยาลัย โดยยังคงยึดติดกับผลประโยชน์และวิธีคิดแบบเดิม จนนำไปสู่ศึกล้มอธิการบดี และแย่งชิงอำนาจในการบริหารภายในองค์กร
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง คบ.73/2564 ชี้มูล รมว.อว.ออกคำสั่ง อว.103/2563 อาจมิชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งล้างบางกรรมการสภามหาวิทยาลัย และแต่งตั้งคณะบุคคลมาทำหน้าที่นายกสภาและกรรมการสภามหาวิทยาลัย และมีการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่มาทำหน้าที่แทน เวลาก็ผ่านมานานกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มากไปกว่านั้นยังทำให้ปัญหาบานปลายยืดเยื้อ ก่อให้เกิดความเสียหายยากต่อการเยียวยาแก้ไข ถึงแม้จะได้ตัวรักษาราชการแทนอธิการบดีท่านใหม่มา ก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้นาน จนต้องขอลาออกถึง 2 คนแล้ว
นอกจากนี้แล้ว กรณี รมว.อว.ได้มีคำสั่งให้ ม.นครพนม แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง กล่าวหาว่า ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก อดีตรักษาราชการแทนอธิการบดี (ผู้ผ่านการสรรหาเป็นอธิการบดี ตั้งแต่ปี 2561) ทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีสั่งให้นำเครื่องบินของ ม.นครพนม ขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาต ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อ 2 มิถุนายน 2559 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน
บัดนี้ได้ข้อยุติแล้วโดยผลการสอบ คกก.มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำของ ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก ไม่เป็นความผิดตามข้อกล่าว และเห็นควรยุติเรื่อง จึงเป็นผลให้ ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ เดินหน้าทวงขอความเป็นธรรม โดยจะใช้ช่องทางด้านกฎหมายเพื่อเรียกร้องศักดิ์ศรี และต้องการกลับมาทำหน้าเป็นอธิการบดี ม.นครพนม เพื่อพิสูจน์ผลงานของตนเองต่อไป
