xs
xsm
sm
md
lg

แปลไม่ดีหรือเปล่า ? “ผศ.ดร.วรัชญ์” ยัน รัฐบาลจัดงบสนับสนุนวัคซีนฝีมือคนไทยเต็มที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษา ศบค. ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กยืนยัน รัฐบาลอัดงบสนับสนุนวัคซีนฝีมือคนไทยเต็มที่ แต่งบล่าช้าตามขั้นตอนราชการไทย

จากกรณี เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษา ศบค. โพสต์ข้อความอัปเดตความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฝีมือคนไทย 2 ยี่ห้อ จากคณะแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชฯ จุฬาฯ ปีหน้าลุ้นได้ใช้

ต่อมา พบว่าเพจ “Origimon” ได้นำเสนอบทความที่มาจากการสัมภาษณ์ ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม หัวหน้าโครงการวัคซีนโควิดของไทย ChulaCov19 ในวารสาร Nature โดยในตอนหนึ่ง ได้ระบุคำสัมภาษณ์ของคุณหมอเกียรติว่า “ประสบกับปัญหาการสนับสนุนของรัฐบาลในเรื่องทุนวิจัย” ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากเข้าใจว่า รัฐบาล “ไม่สนับสนุน” ทุนวิจัยโครงการนี้

ทำให้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.ต้องออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Warat Karuchit” อธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นปัญหา รัฐบาลไม่สนับสนุนเกี่ยวกับทุนวิจัยวัคซีนโควิดของไทย ที่มีการเสนอคลาดเคลื่อนไปมากของเพจ “Origimon” โดย “ผศ.ดร.วรัชญ์” ได้ระบุข้อความว่า

“รัฐบาลไม่สนับสนุนทุนวิจัยโครงการวัคซีนไทย ChulaCov 19 จริงหรือ?

จากการที่เพจ Origimon ได้นำเสนอบทความที่มาจากการสัมภาษณ์ ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม หัวหน้าโครงการวัคซีนโควิดของไทย ChulaCov19 ในวารสาร Nature โดยในตอนหนึ่ง ได้ระบุคำสัมภาษณ์ของคุณหมอเกียรติ ว่า “ประสบกับปัญหาการสนับสนุนของรัฐบาลในเรื่องทุนวิจัย” ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากเข้าใจว่า รัฐบาล “ไม่สนับสนุน” ทุนวิจัยโครงการนี้ ซึ่งหากเข้าไปดูบทความต้นฉบับแล้ว คำที่คุณหมอให้สัมภาษณ์นั้นคือ

“As we are an academic centre, the majority of support is from the government. We had interesting preclinical results as early as May 2020, but it took almost six months to get the funds to start human trials.”

หรือแปลได้ว่า “ในฐานะศูนย์ทางวิชาการ เงินสนับสนุนส่วนใหญ่นั้นมาจากรัฐบาล เราได้ผลเบื้องต้นที่น่าสนใจตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 แต่ใช้เวลาเกือบ 6 เดือนในการได้รับทุนเพื่อเริ่มการทดลองในคน" ซึ่งเมื่ออ่านบทสัมภาษณ์ต้นฉบับแล้วก็จะเห็นว่า มีรายละเอียดที่ค่อนข้างต่างกันแล้ว ที่บทความของเพจ Origimon ได้ใช้คำที่อาจทำให้เข้าใจต่างออกไป

แล้วความเป็นจริงเป็นอย่างไร?

ข้อเท็จจริงก็คือ โครงการนี้ ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ผ่านทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (National Vaccine Institute - NVI) และสภาวิจัยแห่งชาติ (วช.) รวมกับงบกลาง รวมทั้งหมด 375.273 ล้านบาท แต่การเบิกงบประมาณของราชการ ย่อมมีขั้นตอนต่างๆที่เราเข้าใจดี จึงต้องอาศัยเงินบริจาคเพิ่มเติม ทั้งกองทุนศตวรรษที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัทและภาคประชาชนต่างๆ ในระหว่างที่รอเบิกงบประมาณจากรัฐ แต่ไม่ได้ขาดงบประมาณแต่อย่างใด

ส่วนอุปสรรคใหญ่จริงๆ ที่คุณหมอเกียรติให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐ กลับไม่ใช่เรื่องเงินทุน แต่เป็นเรื่องการหาโรงงานที่มีเทคโนโลยีในการผลิต ซึ่งกว่าจะหาได้ก็เดือนธันวาคม อันที่จริง โครงการวัคซีน ChulaCov19 นั้น เท่าที่ผมเห็น ได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค. (ซึ่งผมเข้าประชุมด้วย) มาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มต้น กลางๆปีที่แล้ว และนำเสนอความก้าวหน้าตั้งแต่การทดลองในลิงจนถึงตอนนี้ รวมถึงโครงการของบริษัทใบยาด้วย และรัฐบาลก็ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งทั้งสองโครงการ และที่ประชุมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่เคยปิดกั้นหรือลังเล เพราะเป็นของไทยเอง และก็เป็นที่น่าดีใจที่ทั้งสองโครงการมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก ของ ChulaCov19 กำลังจะทดลองในคน คาดว่าคุณภาพเทียบเท่าไฟเซอร์ โมเดอร์นา แต่เก็บรักษาง่ายกว่าอีกด้วย ส่วนของบริษัทใบยา คาดว่าจะเริ่มทดลองได้ในเดือน ส.ค. นี้

จึงสรุปได้ว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนโครงการวิจัยวัคซีนไทย ChulaCov19 อย่างเต็มที่ และเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะช่วยเสริมความมั่นคงทางวัคซีนให้กับประเทศไทยในระยะยาวได้เป็นอย่างมาก ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมวิจัยทุกท่านครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น