xs
xsm
sm
md
lg

"ผศ.ดร.วรัชญ์" รับพบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้จริง แต่ไม่ได้มาจากเรือนจำ จ.นราธิวาส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 "ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต" สรุปข้อสงสัยเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ยืนยันไม่ได้พบผู้ป่วยภายในเรือนจำ จ.นราธิวาส แต่พบจากคลัสเตอร์ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Warat Karuchit" สรุป กรณีโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ หลังมีข่าวการระบาดในเรือนจำ จ.นราธิวาส ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดย ผศ.ดร.วรัชญ์ได้สรุปเรื่องราวดังกล่าวออกมาเป็น 6 ข้อดังนี้

"1. ข่าวที่บอกว่ามีการติดเชื้อในเรือนจำ จ.นราธิวาส ไม่เป็นความจริง

2. กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ทีมสืบสวนโรคชื่อ CONI ตรวจรหัสพันธุกรรม แล้วพบว่าตัวอย่างที่ได้จากคลัสเตอร์ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้จริง แต่ไม่ได้บอกจำนวนผู้ติดเชื้อ

3. คลัสเตอร์เกาะสะท้อนนั้นมีการตรวจคัดกรองมาตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. รวมมากกว่า 500 คน และพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก (ยอดสะสมประมาณ 60 คน) ทำให้ทางจังหวัดสั่งปิดทั้ง 9 หมู่บ้านของตำบลเกาะสะท้อนมาตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. จึงไม่มีคนเข้าออกตำบลนี้มา 10 กว่าวันแล้ว

4. แม่ทัพภาคที่ 4 ยังไม่ยืนยันว่าเป็นโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้จริงหรือไม่

5. โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้มีแนวโน้มทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลง แต่จากการวิจัยพบว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สามารถป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ 100% (ส่วนซิโนแวคยังไม่มีการศึกษา แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก็เชื่อว่าวัคซีนทุกตัวสามารถจะช่วยลดความรุนแรงของทุกสายพันธุ์ได้)

6. มีแนวโน้มว่าสายพันธุ์นี้สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าเดิม แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าจะทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นกว่าสายพันธุ์อื่น"

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจาก "กรมราชทัณฑ์" แล้วว่า โควิดสายพันธุ์แอฟริกาที่เกิดขึ้นเป็นคลัสเตอร์ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสนั้น ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากในปัจจุบัน เรือนจำจังหวัดนราธิวาสไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อได้รับการรักษาจนหายหมดทุกรายแล้ว และไม่ปรากฏยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม จึงขอเรียนพี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิด

เรือนจำจังหวัดนราธิวาสยังคงถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซ้ำอีก พร้อมทั้งได้ฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 ส่วนหนึ่งแล้ว และได้ขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสให้ครอบคลุมสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังทุกคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น