นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา อัปเดตความเคลื่อนไหวกรณีฟ้องร้อง “ไบร์ททีวี” พาดหัวบิดเบือน และชาวเน็ตอีก 40 ราย จากการคอมเมนต์ด้วยข้อความที่หยาบคาย
จากกรณี นริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย มอบหมาย ศชอ.ฟ้องไบร์ททีวีพาดหัวบิดเบือนข่าวอแมนด้าชวดมงกุฎนางงามจักรวาลโยงสถาบันเบื้องสูง แถมฟ้องคนที่คอมเมนต์ด้วยข้อความที่หยาบคายพ่วงด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Fuangrabil Narisroj" อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการฟ้องร้อง "ไบร์ททีวี" โดยได้ระบุข้อความว่า
"ขออัปเดตรายงานสถานการณ์ให้เพื่อนๆทราบครับว่า ตอนนี้ทาง ศชอ.ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลบุคคลต่างๆ ที่ใช้ถ้อยคำหมิ่นประมาทผม (เอาเฉพาะตัวจี๊ด ตัวกลั่น) จากการแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จของ Bright TV ที่พาดหัวข่าวแบบ "ปั้นน้ำเป็นตัว" ซึ่งเข้าข่ายผิด ม.14 พ.ร.บ.คอมพ์อย่างชัดเจน ในชั้นนี้มีรวมประมาณ 40 กว่าคนแล้ว ซึ่งมีทั้งอดีตนักร้องสาวชื่อดัง / ศึกษานิเทศก์ / นักธุรกิจ / นศ. / ติ่งนางงาม เป็นต้น
ความเสียหายที่เกิดจากการจงใจพาดหัวข่าวบิดเบือน สร้างความเสียหายให้กับผมกระจายไปทั่วโลก ผมได้รับรายงานจากเพื่อนๆ ร่วมอาชีพของผม จากชุมชนไทยที่กระจายตัวไปทุกภูมิภาคต่างๆ ของโลก ซึ่งมีคนที่อ่านแค่พาดหัวข่าวแล้วหมิ่นประมาทผมมากมาย ในชั้นนี้ ขอจัดการ 40 กว่าคนแรกนี้ก่อน เพื่อให้พวกเขาได้รู้สำนึกว่าราคาของการหมิ่นประมาท Bully นั้นมันมีราคาแพงแค่ไหน
ทั้งนี้ ผมได้ยืนยันและย้ำกับทางทีมทนายของ ศชอ.ไปแล้วว่า ผมขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ไม่มียอมความ และเรียกร้องค่าเสียหายในอัตราสูงสุดเท่าที่จะทำได้ในทุกกรณี อย่าหาว่าผมใจร้าย หรือเลือดเย็น เพราะการศึกครั้งนี้พวกคุณเป็นฝ่ายเปิดฉากเล่นก่อนด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย หวังเอาผมไปเป็นเหยื่อบูชายัญ นึกว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาก็แค่ยกกระเช้าเหมือนคราวที่นักร้องคนหนึ่งเคยทำแล้วเจ๊ากันไป แต่ครั้งนี้มันสร้างความเสียหายกับเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของผมแบบประเมินค่ามิได้
พวกคุณต้องได้รับผลจาก "กรรม" ที่ทำไว้กับผมครับ!!!! ขอยืมคำพูดจากละครเรื่อง "ล่า" ที่คุณหมิว ลลิตา ปัญโญภาส เล่นมาใช้อีกครั้งว่า " อ ย่ า เ พิ่ ง รี บ ต า ย......ฉั น เ พิ่ ง เ ริ่ ม " หมายเหตุสำหรับคนที่อาจตกข่าวคดีนี้ขอสรุปให้ฟังอีกที โดยผมทราบจากคนในวงการสื่อที่เคยทำงานกับสำนักข่าวนี้ว่า ปัจจุบันกอง บก.ข่าวจ้างเด็กจบใหม่อ่อนด้อยประสบการณ์และคะนองมาทำงานเป็นส่วนใหญ่ และเนื่องจากคงเห็นว่าผมเป็น influencer แนวรักชาติบ้านเมือง ก็เลยจัดการแปลงสารบทความที่ผมเขียนกลางๆ เขียนสนับสนุนเพจนางงามหนึ่งที่บอกว่าการเป็นนางงามจะต้อง call out ได้ (ซึ่งผมเห็นด้วยนะ) โดยผมเขียนเสริมว่า call out อย่างไรให้ดู smart ไม่ให้ดูว่าเรา take side และมีความตั้งใจแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ เขียนแค่นี้จริงๆ
แต่สำนักข่าวโดยพวกเด็กชั่วโมงบินต่ำคิดง่ายๆ กะเอาผมเป็น ”เหยื่อ” ขึ้น “แท่นบูชายัญ” เพื่อให้เพื่อนๆ ติ่งนางงาม 3 กีบของพวกเขามารุมเชือดด้วยการพาดหัวแบบพลิกประเด็นไปว่า “ทูตชี้ว่าอะแมนด้าชวดตกรอบเป็นเพราะไม่รักสถาบัน” !!! ซึ่งมันไม่มีข้อความไหนที่ผมเขียนประโยคนี้หรือเอ่ยชื่ออะแมนด้าเลย! และผมคงไม่โง่พอที่จะเขียนแบบนั้น!!! มัน absurd มากที่สุด
ทั้งหมดเกิดจากการคะนองและด้อยประสบการณ์ /การไม่รู้จักกาลเทศะ /การไม่มีจริยธรรมและจรรยาบรรณของเด็กกอง บก.ข่าวนี้ ทุกอย่างเลยกลายเป็นบูมเมอแรงเข้าหาตัวพวกเขาหมด! ผมต้องการให้เรื่องของผมเป็น case study สำหรับ นศ.ที่เรียนด้านสื่อสารฯ เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ต่อไปครับ!"