“สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ” ผู้บริหารทีวีบูรพา เผยกรณี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” นักธุรกิจต้มตุ๋นออกรายการคนค้นฅน ขอรับผิดชอบแทนน้องๆ เห็นควรระงับเผยแพร่คลิปรายการทั้งหมด และลงข้อความชี้แจง ระบุถือเป็นบทเรียนในการทำงาน ขณะที่โฆษกกองทัพบกกำลังตรวจสอบ หากพบพร้อมดำเนินการทันที
วันนี้ (15 พ.ค.) สืบเนื่องมาจากกองปราบปรามเปิดปฏิบัติการ “ปิดเกส์ คนเหนือโลก” บุกทลายเครือข่ายของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อายุ 45 ปี ประธานโครงการ "คืนคุณแผ่นดิน" หลังร่วมกับพวกเปิดบริษัทในลักษณะเครือข่ายใหญ่ หลอกนักลงทุนจนสูญเงินนับพันล้านบาท ซึ่งขณะนี้นายประสิทธิ์ยังคงหลบหนี ขณะที่เฟซบุ๊กคณะก้าวหน้าได้ออกมาแฉว่านายประสิทธิ์เป็นเจ้าของเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operations) หรือไอโอ ของกองทัพและเอกชนที่เกี่ยวข้อง และยังเคยแจ้งความเอาผิด น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น
เฟซบุ๊กส่วนตัว “Suthipong Thamawuit” ของนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้บริหารบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ผู้ผลิตรายการคนค้นฅน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ยังไงๆ รายการคนค้นฅนกับผมก็คงแยกกันไม่ขาด เกิดอะไรขึ้นกับรายการคนค้นฅน หรือคนค้นฅนทำให้เกิดอะไรขึ้น ยังไงคนก็นึกถึงผม
กรณีคุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ก็เช่นกัน ตอนเห็นข่าวเมื่อเช้า (เสาร์ 15 พ.ค.) ระหว่างการเดินทางไปต่างจังหวัด ผมร้อง "กูว่าแล้ว" อยู่ในใจ เมื่อวานเพิ่งจะเพ่งโทษคนอื่นว่า “ตัวดี” หยกๆ วันนี้โดนเองซะแล้ว
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ ถึงธรรมแล้วก็ก๊อปข่าวและส่งข้อความให้ทีมงานทันที
พร้อมคำถาม (โดยนัยคือสั่งนั่นแหละ) ให้หารือกันว่าจะแสดงความรับผิดชอบกันอย่างไร
ผลก็คือ มีความเห็นร่วมกันในเบื้องต้นว่าให้เอาเรื่องที่เกี่ยวกับคุณประสิทธิ์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ออนไลน์ และลงข้อความชี้แจง แสดงเจตนารมณ์และความรับผิดชอบ ทั้งต่อผู้ชม และคุณประสิทธิ์
เรื่องคุณประสิทธิ์ถูกกล่าวหา จะจริงจะเท็จ จะดีจะชั่วอย่างไร ตอนที่ทำรายการนั้นสุดที่จะรู้และรับผิดชอบได้จริงๆ ครับ ที่พอรับผิดชอบได้ก็คืองานที่เกี่ยวข้องกับรายการ ที่เหมือนเอาของเก๊ ของไม่ดี มาบอกชาวบ้านว่าของดี
เรื่องนี้ตัวผมเองในฐานะพี่ใหญ่ขอรับผิดชอบแทนน้องๆ กับความบกพร่องในแง่ที่เป็นส่วนหนึ่งที่อนุญาตให้เกิดคอนเทนต์นี้ขึ้นมา ขออภัยและยอมรับคำตำหนิครับ แต่เชื่อเถอะครับไม่ได้มีเจตนาต้มตุ๋นหรอกครับ
พูดแบบไม่อาย ทำงานมาจนหัวหงอกแล้ว เอาเข้าจริงก็ใจอ่อนเพราะความสัมพันธ์ (โดยสมยอม) ไม่รู้หรอกครับว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือ แลกค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกับสื่ออื่นๆ อีกมากมายนั่นแหละครับ
ความจริงผมเป็นคนที่ห่างออกมาแล้ว ผมเห็นใจทีมงาน ทั้งทีมรายการและฝ่ายขาย โดยเฉพาะคุณสุขสันต์ (กมล สันติโรจน์) ซึ่งเป็นคนทำรายการ เพราะผมเหมือนเป็นคนผลักไส ยัดเยียดหน้าที่นี้ไปให้น้อง
กลับมาจากกอง เมื่อถามว่าเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้ ความจริงก็ทำให้คิดอะไรในใจอยู่ตั้งแต่ตอนนั้น แต่นั่นแหละครับ บางเหตุผลบวกกับความไม่แข็งแรงของใจก็ทำให้เดอะโชว์มัสโกออน
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา กรรมของผม ผมก็รับไป กรรมของรายการ รายการก็รับไป กรรมของคุณประสิทธิ์ คุณประสิทธิ์ก็รับไป
ขอให้ความผิดพลาดเป็นบทเรียนบทหนึ่งเพื่อการแก้ไข ทั้งกาย วาจา ใจ ให้ดีขึ้นของทุกคน
ปล. สำหรับผู้ที่พยายามส่งลิงก์รายการตอนคุณประสิทธิ์มา
- ถ้าเพื่อเหน็บแนม ตอดนิดตอดหน่อย ไม่มีราคาและไม่มีผลอะไรหรอกครับ
- ถ้าเพื่อตั้งคำถาม สงสัย ผมตอบตามที่เขียนมาข้างบนครับ นั่นคือความจริง
- ถ้าเพื่อกระตุกเตือน ทักท้วง ขอขอบพระคุณและน้อมรับความบกพร่องครับ ได้บทเรียนกันทุกคนครับ ทำให้ต้องถี่ถ้วนในการทำงานมากขึ้น
- ถ้าเพื่อสนุก คะนองปาก คะนองมือ ที่เป็นอยู่มันเสื่อมพออยู่แล้วครับ”
ด้านทีมงานรายการคนค้นฅนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า “สืบเนื่องจากกรณีมีข่าวเรื่องการฉ้อโกงของคุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ซึ่งรายการคนค้นฅนเคยนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับงานด้านจิตอาสาและพัฒนาชุมชน ของคุณประสิทธิ์ไปเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 และ 9 สิงหาคม 2563 นั้น รายการคนค้นฅนเป็นรายการที่มีเจตนานำเสนอเรื่องราวของบุคคลหรือกลุ่มคนที่ให้ข้อคิด สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นต้นแบบให้แก่ผู้คนในสังคมมาตลอดระยะเวลาร่วม 20 ปี ความตั้งใจนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ในกรณีนี้ ทางรายการและทีมงานขอน้อมรับความบกพร่อง ถือเป็นบทเรียนในการทำงาน และจะพยายามตรวจสอบการทำงานให้รอบคอบยิ่งขึ้น เบื้องต้น รายการคนค้นฅนขอระงับการเผยแพร่เทปของคุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก จากสื่อออนไลน์ทั้งหมดของบริษัท จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการพิสูจน์ทางกฎหมาย ขออภัยท่านผู้ชม รวมทั้งคุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ไว้ ณ ที่นี้ด้วย”
ขณะที่ พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดินถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งนายประสิทธิ์เคยยอมรับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการข่าวสารของกองทัพหรือไอโอว่า การไอโอของกองทัพนั้นเคยมีการชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนที่มีการร้องเรียนว่าอาจมีกำลังพลของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจในขบวนการของนายประสิทธิ์นั้น ทางกองทัพบกกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ถ้าพบว่ามีกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องก็พร้อมดำเนินการทันที