วานิช แคช (Vanish Cache) ประกาศให้บริการบนมาร์เกตเพลซของอาลีบาบา คลาวด์ เปิดทางลูกค้าอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) สามารถใช้งานได้ มั่นใจขยายตลาดโตเร็วเพราะฐานผู้ใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานในรูปแบบบริการ (Infrastructure-as-a-Service (IaaS)) ของอาลีบาบาที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และยังเป็นรายใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิกจากรายงานของการ์ตเนอร์ ซึ่งมีอยู่ 69 แห่ง ใน 23 เมืองยุทธศาสตร์หลักในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
Varnish Cache นั้นเป็นซอฟต์แวร์ระบบเปิดสำหรับงานด้านพร็อกซี่ขาเข้าในการให้บริการ HTTP (reverse HTTP proxy) ซึ่งมีเว็บไซต์ใช้งานหลายล้านแห่งเพื่อช่วยให้การทำงานของเว็บเร็วขึ้น และช่วยจัดการแคชข้อมูล ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Varnish cache ไว้ที่ด่านหน้าของเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการ HTTP หรือข้อมูลบนเว็บปกตินั่นเอง และยังสามารถปรับการติดตั้งได้ทั้งส่วนของเนื้อหาคอนเทนต์ หรือจะเป็นความเร็วในการให้บริการให้เร็วขึ้นได้ตั้งแต่ 300-1,000% และยังสามารถลดภาระการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ได้สูงสุดถึง 99% ทำให้เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงได้แม้ว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์กำลังประมวลผลด้านต่างๆ อยู่ ส่งผลให้ผู้ใช้งานเว็บได้รับประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจตลอดเวลา
โซลูชัน Varnish Edge Cloud ซึ่งได้ผนวกความสามารถเข้ากับ Intel Select Solution ทำให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดถึง 200 กิกะบิตต่อวินาทีต่อโหนด เทียบความสามารถในเชิงประสิทธิภาพแล้วถือว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยความสามารถในการรองรับผู้ใช้งานถ่ายทอดสดวิดีโอความละเอียดสูงได้พร้อมกันถึง 40,000 คน ที่การเข้ารหัสความเร็ว 5 เมกะบิตต่อวินาที
Vanish Cache พร้อมใช้งานบนอาลีบาบา คลาวด์ ด้วยการกำหนดค่าการติดตั้งเบื้องต้นไว้แล้ว ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วกว่าที่เคยติดตั้งมาก่อน การใช้ Varnish Cache บนระบบคลาวด์ ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์ หรือจ่ายค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลในการลงทุนระบบ
หนึ่งในประโยชน์หลายด้านของบริการนี้ ประกอบด้วย ประสิทธิภาพการทำงานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในระดับสูงและขยายระบบได้ตามต้องการ ทำให้การบริการทั้งด้านเว็บไซต์ ชุดคำสั่งในการทำงาน (API) และวีดีโอ เร็วขึ้นถึง 300% ด้วยการทำแคชข้อมูลเก็บเอาไว้ และเป็นการป้องกันความกังวลตั้งแต่ต้นในการช่วยให้การให้บริการทางด้านเว็บนั้นไม่ตกอยู่ในภาวะแรงกดดัน
ขณะเดียวกัน ระบบจะมีเสถียรภาพและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ลดภาระการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในระบบได้ถึง 99% ในการจัดการทราฟฟิกที่พุ่งสูงขึ้น ง่ายต่อการปรับทราฟฟิกให้สมดุลและปรับขนาดข้อมูลในการทำแคชเพื่อตอบสนองกับปริมาณการรับส่งข้อมูลได้ตลอดเวลา
ที่สำคัญยังครบจบ ตอบทุกข์โจทย์ความต้องการ เพราะเป็นโซลูชันครบวงจรที่ทำให้การทำงานบนเว็บใช้งานง่าย ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ที่มีมาพร้อมสรรพ ประกอบด้วย แคชคอนเทนต์ พร็อกซี่ขาเข้า การทำโหลดบาลานซ์ เกตเวย์สำหรับให้บริการชุดคำสั่งของแอปพลิเคชัน (API Gateway) เว็บเซิร์ฟเวอร์ และการเข้ารหัสข้อมูลระดับ SSL ทั้งหมดนี้ทำบนราคาที่คาดการณ์ได้ จ่ายเฉพาะทรัพยากรระบบที่ใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
นอกจากนี้แล้ว Varnish Cache บนอาลีบาบา คลาวด์ยังมีจุดเด่นอีกข้อ คือ ผู้ใช้งานระบบสามารถเลือกติดตั้ง Points-of-Presence (POPs) หรือจุดหน้าด่าน ณ ที่ใดก็ได้ ที่เป็นจุดที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถส่งคอนเทนต์ให้กลุ่มเป้าหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากที่สุด
หนึ่งในจุดเด่นหลักที่มีอยู่ใน Varnish Cache คือการได้ผนวกเอาความสามารถในการประมวลผลในแบบ edge computing มาแล้วในตัว โดยฟังก์ชันนี้เรียกว่า Varnish Configuration Language หรือ VCL ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ หรือแอดมินระบบสามารถปรับแต่งขนาดของแคชให้เหมาะกับความต้องการจริงของระบบ และยังสามารถเพิ่มเติมได้ตามต้องการ VCL ยังช่วยกำหนดนโยบายการทำงานโดยตรงจากเซิร์ฟเวอร์และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เสริมประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นแล้ว ในอนาคตผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มเติมความสามารถของ Varnish Cache ได้ผ่านทางโมดูลการทำงาน (VMODS) ที่จะออกมาเพิ่มเติมในอนาคต