“กรณิศ” แฉที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ฉวยโอกาสคลัสเตอร์คลองเตย กั๊กบัตรตรวจ-ฉีดวัคซีน เพื่อนำไปแจกเอง หวังโกยคะแนนนิยม ปูทางลงสมัคร ส.ก. ลั่นวิกฤตตอนนี้ควรพักเรื่องประโยชน์ส่วนตน ถ้าหยุดคลัสเตอร์คลองเตยไม่ได้จะเป็นปัญหาใหญ่มาก
วันที่ 11 พ.ค. 2564 นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “เบื้องหลังการเมือง ฮุบอำนาจ สกัดโควิด คลัสเตอร์คลองเตย ?”
โดย นางกรณิศ กล่าวว่า เดิมทีแผนที่วางไว้จะมีการฉีดวัคซีนให้ชุมชนคลองเตย 5 จุด แล้วจุดที่นำเสนออยู่ใจกลางคลองเตยเลย แต่กลับถูกยกเลิก เพราะ กทม. จัดสถานที่ใหม่ 3 แห่ง และบางที่อยู่ไกล คนในชุมชนต้องนั่งรถไปไม่สามารถเดินเท้าได้ เสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นไปอีก
แล้ว 3 จุดมันไม่เพียงพอ จากแผนเดิม 500 คนต่อจุด มี 5 จุด รวมเป็น 2,500 คนต่อวัน แต่นี่ลดมาเหลือ 3 จุด ตั้งเป้าจุดละพันคน แต่เกิดปัญหาไม่สามารถทำได้ทัน ทำให้มีผู้ตกหล่น
นางกรณิศ กล่าวอีกว่า การที่ กทม.มาทำแบบนี้ ไม่ถึงกับว่ามีผลเสีย ที่ถ้ารับฟังแต่แรก การบริหารจัดการน่าจะง่ายกว่านี้ ตอนนี้เพิ่มจุดคัดกรองเป็น 4 จุด ก็ยังน้อยเกินไป บัตรคิวที่ให้ไป ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของแต่ละชุมชนเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก แล้วอีก 10 วันที่เหลือ ถ้าเปอร์เซ็นต์ตรวจคัดกรองยังได้เท่านี้ ไม่มีทางที่จะได้ถึง 60-70% แน่นอน ต้องขยายจุดตรวจ และจุดฉีดวัคซีนให้มากกว่านี้ เพื่อหยุดคลัสเตอร์คลองเตยให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะพี่น้องในชุมชนยังต้องออกไปประกอบอาชีพตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งอาจแพร่กระจายเชื้อให้กว้างออกไป
เมื่อถามถึงปัญหาแย่งซีนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นางกรณิศ กล่าวว่า ปัญหาแย่งซีนกัน มาจากการร้องเรียนของประชาชนเรื่องบัตรคิว วันแรกของการตรวจคัดกรอง และฉีดวัคซีน ประชาชนตื่นตัวมาก บัตรคิววันแรกต้องได้ 1 พันคน แต่เขตชี้แจงมาว่าให้ผู้นำชุมชนเท่านั้น 39 ชุมชน ก็คือ 39 คน เหลืออีก 900 กว่าไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน ผู้นำชุมชนจึงมาร้องตน วันรุ่งขึ้นสำนักงานเขตก็ให้บัตรคิวมา แต่ที่ไม่ถูกต้อง คือมีชุมชนหนึ่ง สำนักงานเขตแจ้งว่าจะได้รับบัตรตรวจ 450 ใบ แต่มีตัวแทนของบุคคลที่ 3 ไปรับบัตรทั้งหมดจากสำนักงานเขต เพื่อไปให้ผู้นำชุมชน จาก 450 ใบที่ควรจะได้ เหลือแค่ 150 ใบ ผู้นำชุมชนจึงปฏิเสธว่าถ้ามีแค่นี้ไม่เอา เพราะประกาศกับชาวบ้านไปแล้ว คนที่เอาบัตรไปจึงเอาที่เหลือมาคืน บอกว่ามันตกหล่น มันมีพิรุธแล้ว ตนถามไปที่เขตทำไมไม่แจกบัตรให้ผู้นำชุมชนโดยตรง แล้วให้เขาไปบริหารจัดการเอง แต่ช่วงแรกก็ไม่โปร่งใสแล้ว มีบุคคลที่สามมารับบัตรคิวแล้วไปแจกจ่าย ภาวะวิกฤตแบบนี้ไม่ควรทำแบบนี้เพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
นางกรณิศ กล่าวอีกว่า พอเราออกข่าว เขตก็ปรับตัว มีการเรียกผู้นำชุมชนไปรับที่เขตได้ แต่ก็ยังไม่ชี้แจงว่าแจกบัตรให้ใครบ้าง แต่ละชุมชนได้รับบัตรแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น คนในคลองเตยรู้ดีว่าใครเอาบัตรไป แล้วยังมีการสร้างความเหลื่อมล้ำ บางชุมชนเป็นอาคารสูง ได้บัตรคิวเยอะมากจนเหลือทิ้ง แต่ชุมชนแออัดได้ไม่พอ
เมื่อถามถึงสาเหตุมาจากความขัดแย้งกับบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก.ในเขตคลองเตยหรือไม่ นางกรณิศ กล่าวว่า เขาประกาศตัวว่าจะลง และตอนนี้ก็เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.