“ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงประเด็นมีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์มาในประเทศ ฉีดให้สถานทูตสหรัฐฯ เหตุใดไม่แจ้งกระทรวงพาณิชย์ เผยพบพิรุธมีคนไม่เกี่ยวข้องสถานทูตได้ฉีดวัคซีนด้วย
จากกรณี ทวิตเตอร์ @YuttapongOffic1 ของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “วัคซีนโควิด ของ บริษัท : Pfizer เข้ามาประเทศไทย แล้ว, ใคร? ว่า ไม่มี หรือ ไม่จริง, ประยุทธ์ออกมายืนยัน ด้วย #Pfizer #วัคซีนโควิด #วัคซีนไฟเซอร์ #ประยุทธ์แก้โควิดเหลว”
ต่อมา พบว่า เป็นภาพบัตรบันทึกการฉีดวัคซีน (COVID-19 Vaccination Record Card) ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) และระบุว่า เป็นการฉีดวัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ระบุหน่วยบริการว่า “Medical Unit U.S. Emabssy, Bangkok” หรือ หน่วยบริการทางการแพทย์ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ทำให้ชาวเน็ตต่างออกมาตำหนิการโพสต์ข้อความและภาพของนายยุทธพงศ์ เพราะวัคซีนของไฟเซอร์ไม่ได้ฉีดให้บุคคลทั่วไป แต่เป็นการฉีดวัคซีนเฉพาะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ทางการทูต
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ เผยว่า ตนเองเตรียมแถลงข่าวฯ ที่ พรรค พท. เวลา : 10.00 น. วันที่ 9 พ.ค.64, ชี้แจงฯ ว่า ทำไม? ถึงต้องเอาสีเหลือง ออกจากแผนที่ประเทศไทย กรณี มีการใช้ วัคซีนโควิด ของ บ.Pfizer, ทั้งๆ ที่มีการนำวัคซีนดังกล่าว ถูกนำมาใช้ เป็น : Emergency use
ล่าสุด วันนี้ (9 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งโต๊ะแถลง ถึงประเด็นข้อถกเถียงถึงวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ได้เข้ามายังประเทศไทยหรือยังและกรณีการลบแผนที่ประเทศไทยออกจากประเทศที่ใช้วัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ หลังหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ สหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นแผนที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์
นอกจากนี้ นายยุทธพงศ์ ยังได้ตั้งคำถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการที่มีการนำวัคซีนมาฉีดให้เจ้าหน้าที่ในสถานทูต ซึ่งเจ้าตัวมองว่า คซีนโควิดจัดหมวดเป็นสินค้าควบคุม ไม่สามารถใช้เอกสิทธิ์นำเข้ามาได้ และการนำเข้าวัคซีนจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการจัดหาวัคซีนที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน วัคซีนโควิดเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งเป็นโรคระบาดต้องเป็นไปตามกฎหมายประเทศนั้นๆ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีเอกสิทธิทางการทูตคุ้มครอง การนำเข้าต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังให้ทราบ
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเอกสารการนำเข้าไฟเซอร์ที่ระบุชัดเจนว่า มีการนำเข้ามาใช้จำนวนมาก ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่นาย สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้เคยออกมาเปิดเผยข้อมูล ทำให้ตนคาดน่าจะมีการนำเข้ามากกว่า 4,000 โดส และเชื่อว่าน่าจะมีการกระจายไปสู่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานทูตอเมริกาที่ขอเอาไปฉีด เพราะถ้าดูจากจำนวนบุคลากรในสถานทูตอเมริกา มีไม่ถึง 4,000-5,000 คนอย่างแน่นอน แม้จะรวมกับคนขับรถ แม่บ้าน และคนสวนเเล้วก็ตาม โดยจะเห็นได้จากใบบันทึกประวัติการฉีด ถ้าเป็นคนไทยจะระบุ วัน เดือน ปีเกิด แต่ถ้าเป็นคนอเมริกัน จะใช้เดือน วัน และปีเกิด ซึ่งตรวจสอบไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ตนเองต้องการให้รัฐบาลเร่งนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 หลังจากที่พบสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ พบการฉีดวัคซีนไปทั้งสิ้น 1.8% จากประชากรทั้งหมดของประเทศ และพบผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เพียง 4.6 แสนคน หากจะฉีดให้ได้ 100 หรือ 200 ล้านโดส ภายในปีนี้ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศจะต้องฉีดเฉลี่ยนวันละ 4 แสนคน ขณะที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นที่ฉีดวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ คำนวณว่าวันหนึ่งฉีดวัคซีนได้เพียงประมาณ 1,000 คนเท่านั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดไทม์ไลน์ออกมาเลยว่า คุณจะเริ่มฉีดที่ไหน เมื่อไหร่ ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร็ว