ส่องโซเชียลมีเดีย “ฟอร์ด-ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี” แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก หลังไม่มาพบอัยการตามนัดและจะออกหมายจับ พบโพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อ 21 มี.ค. หลังม็อบรีเด็มผ่านไป แต่แชร์ข้อความของคนอื่นเมื่อเกือบ 2 ทุ่ม 25 มี.ค. ก่อนหายไปเช่นกัน แต่เพจ “เยาวชนปลดแอก” ยังมีอยู่ ชี้ ยังมีทีมงานเคลื่อนไหวอยู่ หนึ่งในนั้นคือ “ใบไหม เกศกนก” ล่ามของกลุ่ม
วันนี้ (2 เม.ย.) จากกรณีที่แกนนำและแนวร่วมเครือข่ายผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร และกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกอบด้วย น.ส.ภัสราวลี หรือ มายด์ ธนกิจวิบูลย์ผล น.ส.จุฑาทิพย์ หรือ อั๋ว ศิริขันธ์ นายชนินทร์ หรือ บอล วงษ์ศรี นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ มารายงานตัวอัยการ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ตามที่พนักงานสอบสวน สน.บางโพ นัดส่งตัวพร้อมสำนวนให้อัยการ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายฯ มาตรา 215 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีผู้ต้องหาจัดชุมนุมและปราศรัยในกิจกรรม “ไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา” ที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563
ปรากฏว่า นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด อายุ 24 ปี แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า เยาวชนปลดแอก บัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่เข้าพบอัยการตามนัด ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นายทัตเทพ ลี้ภัยไปแล้ว แต่ น.ส.จุฑาทิพย์ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องรอสอบถามเจ้าตัวอีกที ขณะที่อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 4 ผู้ต้องหาในวันที่ 21 พ.ค. 2564 ส่วนนายทัตเทพที่ไม่มารายงานตัว พนักงานสอบสวน สน.บางโพ เตรียมยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไปภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังบัญชีทวิตเตอร์ @fordtattepruang ของนายทัตเทพ ปรากฏว่า ได้โพสต์ข้อความสุดท้ายเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ระบุว่า “ตำรวจคือวิชาชีพที่น่ารังเกียจและขยะแขยง” ข้อความต่อมา “ตำรวจ ทหาร และพวกกลุ่มปกป้องสถาบันที่ออกมาทำร้ายผู้ชุมนุม ไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือลงโทษใดๆ ความยุติธรรมในบ้านเมืองตกอยู่ในสภาพนี้ หากเรามีมนุษยธรรมและสำนึกพลเมืองเราจะไม่อาจทน ignoreได้ Ignore = หนุนเผด็จการ Ignore = สนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน Ignore = สันดานทาส” และ “ตั๋วช้างทำให้เลื่อนยศเป็นขั้นๆ ตั๋วหมาใบเดียวได้เป็นพลอากาศเอก” พร้อมติดแฮชแท็ก #ม็อบ20 มีนา ซึ่งกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารีเด็ม (REDEM) ที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นายทัตเทพ ได้รีทวีตข้อความของผู้ใช้ทวิตเตอร์ @iBoate และ @Norasate_Lawyer ของนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ก่อนที่จะเงียบหายไป
ส่วนเฟซบุ๊ก Tattep Ruangprapaikitseree เฉพาะที่เผยแพร่สาธารณะ พบว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. เวลา 20.59 น. ได้แชร์ข้อความขอรับบริจาคเงินของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Poramin Rassameesawas ก่อนจะเงียบหายไปเช่นกัน ขณะที่เฟซบุ๊ก James Panumas ของ นายภาณุมาศ สิงห์พรม หรือ เจมส์ แฟนหนุ่ม นายทัตเทพ พบว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. เวลา 09.29 น. ได้แชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sarayut Tangprasert หรือ นายศรายุทธ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ประชาไท ก่อนจะเงียบหายไป
ส่วนอินสตาแกรม @fordtattep พบว่า ได้โพสต์ภาพสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นภาพเจ้าตัวกำลังมองไปยังดวงอาทิตย์ พร้อมข้อความระบุว่า “24 years. Thank for all blessings.” (อายุ 24 ปีแล้ว ขอบคุณทุกคำอวยพร) ส่วนอินสตาแกรม @james_panumas ของนายภาณุมาศ พบว่าได้โพสต์ภาพสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ก “เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH” ยังคงโพสต์ความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ข้อความสุดท้ายโพสต์เมื่อเวลา 10.01 น. ของวันนี้ (2 เม.ย.) กล่าววิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารในเมียนมา รวมทั้งเคยโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 31 มี.ค. เวลา 19.22 น. กรณีที่อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องคดีมาตรา 110 แก่นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ และเมื่อวันที่ 28 มี.ค. เวลา 14.45 น. กรณีสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เวลา 18.13 น. ได้โพสต์ข้อความ “แนวทางของ REDEM” สาระสำคัญก็คือ แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีแกนนำปราศรัย แต่การเคลื่อนไหวของ REDEM ก็มีทีมงานพร้อมช่วยเหลือและจัดการการชุมนุม ที่ผ่านมา หากเป็นชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน จะถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลัง และการดักทำร้ายผู้ชุมนุม ทีมงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะนำข้อบกพร่องและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากปัญหาข้างต้นไปปรับปรุงแก้ไขในการเคลื่อนไหวต่อไป
โดยในการชุมนุมครั้งต่อไป REDEM ได้นำปัญหาเหล่านั้นมาวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไข ซึ่งนำมาสู่ Protocol ทั้ง 3 ข้อ คือ การต่อสู้ที่ไม่เน้นตัวบุคคล มวลชนเป็นเจ้าของร่วมกัน ภายใต้เงื่อนไขของการไม่มีแกนนำ แต่มีการจัดการจากทีมงานที่อยู่หน้างาน รวมถึงการประสานการเคลื่อนไหวกับผู้ชุมนุมผ่าน Telegram และ Facebook 2. หลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่พร้อมปกป้องตนเองและผู้ชุมนุมคนอื่นหากเกิดอันตราย และยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ thepeople.co ได้สัมภาษณ์ น.ส.เกศกนก วงษาภักดี หรือ ใบไหม บัณฑิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า เป็นล่ามของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และเป็นผู้รายงานสถานการณ์ชุมนุมผ่าน facebook live แฟนเพจ ‘เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH’ โดยระบุว่า คนที่ทำเบื้องหลังกราฟิกของกลุ่มคือ นายภาณุมาศ หรือ เจมส์ จะคอยให้ทีมช่วยกันหาว่ามวลชนคุยอะไรกันอยู่ ทำยังไงให้การประชาสัมพันธ์เป็นภาษาเดียวกับมวลชนให้ได้มากที่สุด อย่างเจมส์เขาก็จะตัดต่อเก่งมาก เขาจะอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา มีอะไรแป๊บหนึ่งเขาก็จะเอาคอมพิวเตอร์มาตัดต่อตรงนั้นเลย