รถหนูไม่รู้เป็นอะไรค่ะ! นักข่าวสายทหารดัง “วาสนา นาน่วม” ขายฮอนด้าซื้อมาสด้า CX5 เมื่อ 2 ปีก่อน เจอกลิ่นน้ำมันคลุ้ง แบตฯ อ่อนสตาร์ทไม่ติด แถมหัวฉีดน้ำมันพัง ข้องใจสงสัยเอารถเก่ามาขาย ระบุ “รถอาจจะดี แต่เราโชคไม่ดีมาเจอคันนี้”
วันนี้ (13 มี.ค.) เฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์ข้อความระบุว่า “บทเรียน จากการขับ Mazda CX5 อดทนมา 2 ปีกว่า กับ Mazda กับรถ CX-5 ไม่ปริปากบ่น แต่ขับไปๆ มีแต่ปัญหา เข้าศูนย์ซ่อมตลอด จนแอบคิดว่า รถคันนี้เป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือว่าเป็นรถที่มีคนคืนมา แล้วเอามาขายเราหรือเปล่า หรือเป็นรถ Test drive หรือ Demo ที่เขาพูดกันหรือเปล่า
แรกๆ ก็ทนมา แต่เริ่มหมดความอดทน รถที่เพิ่งใช้มา 2 ปีกว่า ขับมา 36,000 กม. ต้องซ่อมตลอด ล่าสุดโช๊ครั่ว ต้องเปลี่ยนโช๊ค รออะไหล่มา 1 เดือน ทั้งๆ ที่ขับแต่ใน กทม. - นนทบุรี ไม่เคยไปลุยอะไรที่ไหน แถมมีข่าวร้ายว่าคอมเพรสเซอร์แอร์เสียอีก คอยล์มีปัญหา ต้องเอารถมาเข้าศูนย์ฯ ทางศูนย์แจ้งว่าต้องใช้เวลา 1 วันเต็ม
ความจริงแอร์ไม่เย็นมานานแล้ว แต่ด้วยความที่ขับรถคนเดียว เปิดแอร์ไม่เย็นมาก เพราะขี้หนาว แต่เวลาแดดแรงๆ นี่แอร์ร้อนเลย สู้ไม่ไหว แต่ก็ปล่อยมา ดีที่ซื้อประกันอะไหล่ไป 24,000 บาทต่อปี จึงไม่ต้องจ่ายค่าอะไหล่ แต่ก็แปลกใจว่า ตอนซื้อมีโปรโมชันประกันอะไหล่ 2 หรือ 3 ปีไม่มั่นใจ จำไม่ได้ แต่พนักงานบอกว่า หมดประกันแล้ว ซื้อเถอะคุ้ม ก็เชื่อเขา จ่ายไป 24,000 บาท
เอ่ยปากถามน้องพนักงานว่า “น้องคะ รถพี่แค่ 2 ปีกว่า ทำไมโช๊ครั่ว แถมแอร์เสียอีก นี่พี่ซื้อรถป้ายแดงนะ” น้องๆ ได้แต่ยิ้ม ไม่มีใครให้คำตอบ
ที่เริ่มไม่อยากทน เพราะการนำรถเข้าซ่อมบ่อยๆ มันเสียเวลาการทำงานมาก เพราะเรามีรถคันเดียว ไม่มีรถสำรอง และทำให้เสียสุขภาพจิตว่า ขับไปรถจะเสีย หรือดับกลางทางมั้ย รถคันนี้มาเป็นรถของเราแล้ว เราก็รัก ก็ซ่อมกันไป แต่หากย้อนดู 2 ปีที่ผ่านมา เข้าซ่อมตลอด และมีแต่ปัญหา
เดิมเราขับรถฮอนด้า CRV ใช้มา 7 ปี เริ่มชักหวั่นๆ ว่ารถจะเสีย และจะต้องพาพ่อออกไปต่างจังหวัดบ้าง กลัวรถเสียกลางทาง สงสารพ่อ เลยตัดสินใจจะซื้อรถใหม่ เลยขายฮอนด้า แล้วมาซื้อรถ Mazda CX 5 คันนี้ ราคา 1.4 ล้านนิดๆ ไม่มีความรู้เรื่องรถเลย ไม่เคยศึกษาเรื่องรถ Mazda แค่ชอบรูปลักษณ์ภายนอก เพราะชอบขับสูงๆ หน่อย ไม่ชอบรถเก๋ง
ก็เลยเดินเข้าไปที่โชว์รูม Mazda วงเวียนพระราม 5 ที่เป็นศูนย์บริการด้วย ไปดูรถครั้งแรก เพราะเป็นเส้นทางผ่านกลับบ้านทุกวัน ไม่รู้จักใครเลย Walk-in เข้าไป ดูแล้วก็ชอบด้านหลัง แต่ไม่ชอบด้านหน้าเท่าไหร่นัก แต่เพราะปรับฮอนด้าโฉมใหม่ก็ไม่ชอบ เลยต้องซื้อ Mazda
ไปเจอเซลส์ขายรถชื่อ “อิ๊ด” คุยไปคุยมา เริ่องโปรโมชันของศูนย์ด้วย เลยตกลงใจว่าจะซื้อ จองรถเลย อิ๊ดบอกว่าอาจต้องรอรถเป็นเดือน เพราะขายดี คิวผลิตเยอะมาก อันนี้จริง คนไทยหันมาใช้มาสด้ากันมากขึ้น แต่สัก 2-3 อาทิตย์ อิ๊ดโทร.มาบอกว่า “ได้รถแล้ว” ตอนนั้นในใจไม่ได้คิดอะไรเลยว่าทำไมเร็ว แต่ก็ดี จะได้ขับรถใหม่เร็วๆ กลัวรถฮอนด้าที่ขับอยู่จะเสีย ก่อนที่จะส่งให้คนที่ซื้อต่อ
ปกติเราเป็นคนสะเพร่า ไม่รอบคอบอยู่แล้ว ซื้อรถใหม่ ก็วางใจ คงไม่มีอะไร ขับมาได้ 1 วัน อ้าว ทำไมช่องกระจกร้าว ... รออะไหล่แล้วเข้าศูนย์ฯ ไปเปลี่ยน ต่อมาไม่กี่วันกลิ่นน้ำมันคลุ้งเหม็นมาก ... น้องๆ นักข่าวนั่งรถไปทำข่าวด้วยกันวันนั้นยังบอกว่ารีบเข้าศูนย์ ถาม “นี่รถใหม่เหรอนี่” ตอนนั้นคิดในใจว่า อะไรวะเนี่ย
โทร.แจ้งอี๊ด อิ๊ดบอกว่า “สงสัยเราเติมน้ำมันเต็มถังเกินไป” หรือไม่ก็ใช้น้ำมันที่มันแรงไปหรือเปล่า ตอนนั้นเติมน้ำมัน V power (เชลล์) ก็เลยเปลี่ยนเติมโซฮอลล์ 95 ปตท. ก็ยังเหม็นคลุ้ง คือกลิ่นน้ำมันไม่ได้เข้าห้องโดยสาร แต่กลิ่นจากข้างนอกน้ำมันคลุ้งมาก แบบกลัวว่า ถ้าใครสูบบุหรี่ใกล้ๆ รถ ถังน้ำมันจะระเบิดหรือเปล่าวะ ทนขับมา ... แต่เวลาขับรถจอดในบ้านก็จะกลัวว่า รถจะระเบิดมั้ย เพราะกลิ่นน้ำมันคลุ้งมาก
ในระหว่างนั้น ติดต่ออิ๊ดไม่ได้ จู่ๆ อิ๊ดลาออก ไลน์ไปติดตามเรื่องเช็คน้ำมัน 3,000 บาท ตามโปรโมชัน และเช็กคืนค่ามัดจำรถป้ายแดง อี๊ดไม่บอกว่าลาออกแล้ว แต่บอกว่าจะประสานน้องที่โชว์รูม Mazda พระราม 5 ให้ ก่อนที่เราจะมารู้ว่า อิ๊ดลาออก ตอนนั้นไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าอี้ดคงมีปัญหา หรือจังหวะจะเปลี่ยนงานพอดี
ที่สุดก็เอารถเข้าศูนย์ ครั้งที่ 1 เปลี่ยน Chacoal ที่กรองกลิ่น แต่ก็ยังไม่หาย แล้วก็เข้าศูนย์ครั้งที่ 2 อีกครั้ง เปลี่ยนอะไรอีกไม่รู้ กลิ่นน้อยลง แต่ก็ยังมีอยู่ ไอ้เราก็อดทน เพราะไม่มีรถใช้ ก็ทนขับมาแบบเสียวๆ ทั้งหมดต้องมีนัดหมาย รออะไหล่ รอเราเองว่าง เวลาก็ล่วงเลยไป พอเข้าศูนย์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามวงรอบ ก็บอกพนักงานว่า รถพี่ยังมีกลิ่นน้ำมันอยู่เลย
ต่อมาเอาเข้าศูนย์อีก พนักงานบอกว่า หาสาเหตุไม่เจอ เพราะมันไม่เกิดอาการมีกลิ่นออกตอนมาศูนย์ ไว้เวลามีกลิ่นให้รีบมาที่ศูนย์ด่วน แต่เราทำงาน มีกลิ่นก็อดทนไป ไม่มีเวลาเอารถเข้าศูนย์ ทนใช้มาแบบหวั่นๆ ใจ ตอนนั้นทางศูนย์ฯ แจ้งให้เราเข้ามาเปลี่ยนอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ เพราะรุ่นนี้มีปัญหา ต้องเปลี่ยนทุกคัน ก็มาศูนย์อีก
ต่อมาขับรถไปทำข่าว ทอ. ตอนรถติด แต่พอจะออกรถดับกลางทางเลย น้องนักข่าวที่นั่งไปด้วยคนเดิมๆ ก็ตกใจ นี่รถพี่ รถใหม่นะ ทำไมดับ? รถติดยาวเลย ตกใจก็ตกใจ หาทางเริ่มต้นสตาร์ทใหม่ ปิดระบบ i-stop กดมั่วๆ เออ มันติดแฮะ ขับเข้าไปทำข่าวใน ทอ. แต่ไม่สบายใจตลอดว่า ขากลับจะสตาร์ทติดมั้ย ขากลับ ต้องนิมนต์หลวงปู่เอี่ยมช่วยให้รถสตาร์ทติดด้วยเถิด ขอให้ผ่านวันนี้กลับบ้านได้ พรุ่งนี้จะเอาเข้าศูนย์ หลวงปู่เอี่ยมช่วยรถสตาร์ทติด ขับกลับบ้าน
เช้ามารีบเอารถเข้าศูนย์ Mazda พระราม 5 หลังจากที่ตอนที่รถเสียโทร.ปรึกษาพนักงานไว้แล้ว มาถึงรอคิวนาน เพราะรถที่มาล้วนมีนัดหมายเวลาแล้ว เราเข้ามาเพราะรถเสีย เลยไม่มีคิว รอไปครึ่งวัน ขอบคุณช่างที่เอาเวลาช่วงพักทานข้าว มาเช็ครถให้ แล้วแจ้งว่าแบตเตอรี่อ่อน งงดิ ที่เคยขับรถมาแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งใช้ได้ราว 2 ปี เลยเปลี่ยนแบตฯ ไป 2,400 บาท
พนักงานบอกว่า ระบบ istop มันกินแบตฯ เพราะเวลารถติด เราจอดรถใส่เกียร์ว่าง เครื่องยนต์จะดับ แล้วใช้แบตฯ เลี้ยงแอร์ พอเราเหยียบเบรคอีกทีเครื่องก็ติด ระบบนี้คนตกใจอย่าขับ เพราะเหมือนจะต้องสตาร์ทรถบ่อยๆ เหมือนตอนที่ซื้อ ไม่รู้ว่ารถรุ่นนี้ใช้ istop เราเคยตกใจมาแล้ว เปลี่ยนก็ไม่ได้ ซื้อแล้ว แรกๆ พยายามกดปุ่มไม่ใช่ i stop มันก็กลับมาเหมือนเดิม เริ่มไม่มั่นใจว่าระบบนี้จะดีมั้ย ประหยัดน้ำมันจริง แต่กินแบตฯ มาก พนักงานบอกปีละ 1 ก้อน โอเค ปีละก้อนนะ ใกล้ๆ เวลาจะได้เปลี่ยน
เล่าข้ามมาอีก 10 เดือน เครื่องดับอีก กลางสะพานเลยจ้า คิดดู ... ปล่อยไหลลงสะพาน มาพอจะหลบข้างทางได้ครึ่งคัน ยังขวางถนนอยู่ ทางไปตลาดมีแค่ 2 เลน โควิดฯ ทำให้ไม่มีใครลงมาช่วยเราเข็นรถเลย! มีแต่คนบีบแตรด่า และมองหน้าเมื่อขับผ่านไป โชคดีที่มัดผมใส่แมสก์ ไม่มีใครจำเราได้ ไม่งั้นคงด่าหนักกว่าที่เจอ ใครจะอยากรถเสียวะ
คิดในใจ พยายามขอให้หลวงปู่ช่วย แต่คราวนี้ไม่เป็นผล เปิดประตูลงจากรถ ... เข็นเองคนเดียวก็ได้วะ เข็นด้วย บังคับพวงมาลัยด้านคนขับด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเราผ่านจุดนั้นมาได้ จอดข้างทาง รอสักพัก เพราะสันนิษฐานว่าเป็นที่แบตฯ หรือเปล่า เฮ้ย! ยังไม่ถึงปี เลยนะ รอสักครึ่งชั่วโมงสตาร์ท ติด กราบขอบคุณลุงป้าที่เราไปจอดรถเสียขวางหน้าร้าน
เอารถเข้าศูนย์ฯ อีก คราวนี้ไม่ใช่แบตฯ หมดอย่างเดียว แ...มเอ้ย หัวฉีดน้ำมันไม่ฉีด! ป๊าด! อะไรวะ ชีวิตกู เปลี่ยนแบตฯ อีก 2,400 บาท ยังไม่ทันครบปีเลย เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันอีก
ข้ามกลับมา ... ในช่วงปีแรกที่ซื้อรถ กระจกมองข้าง 2 ข้าง ... พับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทนใช้มา ... จนฝั่งซ้ายนิ่งสนิท เปิดปิดไม่ได้ ฝั่งขวาก็มีอาการนิดหน่อย ด้วยความเป็นคนขี้เกรงใจ ก็เอารถเข้าศูนย์ฯ เปลี่ยนมอเตอร์แค่ข้างเดียว ก่อนที่ เดือนต่อมาต้องไปเปลี่ยนกระจกอีกข้าง เฮ้อ!
แล้วที่ตัวเองลืมไปเลยคือ ตอนซื้อติดระบบเซนเซอร์รอบคัน ... แรกๆ มันก็เตือนตลอดเวลารถอื่นเข้าใกล้จนน่ารำคาญ แต่จู่ๆ ระบบนี้ก็หายไปเลย ไม่มีเสียงเตือนมาเป็นปีแล้ว ไม่แค่นั้น ความที่เป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก ไม่โวยวาย ตอนซื้อมา ... ดูเลขไมล์ก็หลายสิบกิโลเมตรอยู่ จำไม่ได้ แต่คิดในใจว่า คงใช้ขับตอนเคลื่อนย้ายรถ
ไม่แค่นั้น หน้าจอในรถมันมีรอยเนื้อใน คือเวลาใช้รถมีแสงจะมองไม่เห็น แต่พอดับเครื่องจะเห็นเลยว่าหน้าจอมีรอยจากภายใน เป็นริ้วๆ หน้าจอ ... แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร ทนใช้มา ไม่แค่นั้น ย้อนกลับไปแรกที่ซื้อมา ฟิล์มหน้ารถก็ร่อนย่น อันนี้ คงเป็นเรื่องของบริษัทฟิล์มที่ดีลกับโชว์รูม เอาฟิล์มคุณภาพไม่ดีมาให้ เปลี่ยนฟิล์มหน้ารถใหม่
ต่อมาเปลี่ยนกระจกหน้ารถเลยฮะ! ไม่รู้โดนอะไร โดนหินดีดใส่หรือเปล่า มาเห็นอีกที มีจุดร้าว ก็คิดในใจว่า ทำไมบอบบางเช่นนี้ เฮ้อ! ชีวิตฉัน จนทุกวันนี้ กลิ่นน้ำมันก็ยังมาเยือนในบางวันโดยไม่รู้สาเหตุ จนปัญญาของช่าง! แต่ก็แค่นั้น
เราเองก็ไม่เคยคิดว่ารถเราเป็นอะไร ทำไมปัญหาเยอะ ขับรถใหม่แทนที่จะสบายใจ กลับหวั่นใจ จนที่สุด น้องๆ และเพื่อนๆ นักข่าวบอกว่า ทนขับมาได้ยังไง เสียเวลา เสียสุขภาพจิต รถเรา เรารักรักนะ ไม่อยากให้มีปัญหาถึงขั้นคืนรถ หรืออะไร แต่ปัญหามันเยอะ เกินเยียวยา นี่เสียงสตาร์ทรถ เริ่มรู้สึกหลวมๆ และเร่งไม่ค่อยขึ้น
เห็นทีว่าคงต้องดำเนินการเริ่องนี้อย่างจริงจัง เพราะอดทนมา 2 ปีกว่าแล้ว ความจริงเราไม่ควรปล่อยมานานขนาดนี้ แต่เพราะทำงานทุกวัน ไม่มีเวลา แก้ปัญหาให้ตัวเอง เลือกที่จะอดทนใช้มา แต่ดูแววว่าเดี๋ยวนั่นนี่ก็จะเสียอีกหรือเปล่า รถ Mazda CX5 อาจจะดี แต่เราโชคไม่ดีมาเจอคันนี้ ที่อาจเอารถมีปัญหามาหลอกขาย เราก็เป็นคนโง่ ที่อดทนมากเสียด้วย จึงปล่อยให้ยาวนานมาจนตอนนี้!”
ทั้งนี้ ล่าสุดวาสนา ได้เผยความคืบหน้าล่าสุดว่าทางมาสด้า ได้ติดต่อกลับมาแล้ว โดยแจ้งเบื้องต้นว่าจะเร่งตรวจสอบให้ พร้อมแจ้งว่ารถคันนี้ยังอยู่ในประกันอะไหล่ ซึ่งทางตนเองก็ตกใจเพราะได้จ่ายค่าประกันอะไหล่ไปแล้ว 24,000 บาท โดยตนขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกัน และขอบคุณมาสด้าอีกครั้งที่ใส่ใจลูกค้าด้วย พร้อมทิ้งท้าย รอติดตามผลค่ะ”
น.ส.วาสนา ยังคอมเมนต์ว่า “ก็ว่าจะคุยกับทางศูนย์ให้ตรวจสอบให้ค่ะ เสียงานเสียการมาหลายครั้ง เพราะรถเสีย รถดับ และต้องเอารถซ่อม ... ปล่อยมานานเพราะมัวแต่ทำงานค่ะ แต่ดูทางศูนย์ฯ ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ค่ะ น้องๆ พนักงาน ไม่รู้จักวาสนาหรอกค่ะ ถ้าไม่ใช่คอการเมือง เพราะฉะนั้น ก็จะได้รับการดูแลเท่าลูกค้าคนอื่นค่ะ พอโช๊คเสีย แอร์พัง หัวฉีดน้ำมันเสีย รถดับนี่ ไม่กล้าไปไหนค่ะ อยู่แต่ใน กทม.- นนทบุรี ไม่กล้าออก ตจว. ใครมีประสบการณ์ใช้รถรุ่นนี้ แลกแปลี่ยน ข้อมูลกันได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”