ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เร่งสืบสวน “ป้า brio หัวร้อน” ขับรถชน จยย.แล้วหนี เตรียมดำเนินคดีหากพบทำผิดจริง จะอ้างป่วยทางจิตไม่ได้ ด้านเพื่อนบ้านติดกับบ้านป้าประกาศขายทั้ง 2 หลัง เอือมระอาโดนด่าทุกวัน โดยไม่รู้สาเหตุ
จากกรณี น.ส.ศศิณัฐ ฮวดใจรักษ์ อายุ 24 ปี ถูกรถเก๋งยี่ห้อ Honda Brio สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1 กน 7018 กทม.ชนท้ายรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 6 กว 5174 กทม ถูกชนเเล้วหนีพร้อมด้วยลูกวัย 3 ขวบ โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดบริเวณแยกซอยวัดโบสถ์ดอนพรหม ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าเเจ้งความไว้ที่ สภ.บางใหญ่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวคนขับมาดำเนินคดี ซึ่งพบว่าคนขับรายนี้เป็นหญิงสาวที่ชาวโลกออนไลน์รู้จักกันดีจนเรียกกันว่า “ป้า brio หัวร้อน” เพราะมักขับรถเก๋ง ฮอนด้า รุ่นบีโอ้ คันนี้ไปปาดหน้า ปาดหลัง ปาดซ้าย ปาดขวา บีบแตรใส่ชาวบ้าน บางทีก็เปิดกระจกด่า บางครั้งมีอุบัติเหตุก็ขับหลบหนี จนชาวบ้านเอือมระอา เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่เคยดำเนินการอะไรได้ ที้งๆที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้หลายโรงพัก จนมาล่าสุดก่อเหตุในพื้นที่ สภ.บางใหญ่
ทางด้าน พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนไชยนันท์ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายเล่าว่าขับรถมาตรงจุดเกิดเหตุ เเละถูกคู่กรณีเฉี่ยวชนท้าย ทำให้เกิดความเสียหายเเละเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้ตนกำลังเเจ้งฝ่ายสืบสวนให้ไปดูกล้องวงจรปิด ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงไหม และต้องส่งรถตรวจเพื่อดูร่องรอยการเฉี่ยวชน ถ้าเกิดการเฉี่ยวชนจริงผู้ชนจะมีความผิด คือ การหลบหนี เเละขับรถประมาท ซึ่งจะตรวจสอบอีกครั้งว่าเคยมีคดีทำผิดมาหรือไม่เเละจะมีการเพิ่มโทษตามกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถอ้างได้ว่าป่วยทางจิต ตามกฎหมายเเล้วสามารถดำเนินคดีได้เลย
ขณะที่ นางสาวดาว ขอสงวนนามสกุล ซึ่งเคยมีบ้านติดกับป้าหัวร้อนรายนี้ กล่าวว่า ตนเองต้องย้ายบ้านหนีคุณป้า Brio ส่วนตัวแล้วไม่เคยมีปัญหากับป้า แต่ป้าชอบเข้ามาหาเรื่อง เเละหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว ไม่ชอบให้ใครมายืนคุยกันหรือหัวเราะเพราะป้าคิดว่าคนคุยกันเรื่องป้า และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งพฤติกรรมเป็นเเบบนี้ทุกวัน ก่อนออกไปทำงานก็ต้องด่าก่อน เย็นกลับบ้านมาก็ด่าอีกครั้ง จะมีอยู่ช่วงนึงที่ป้าเครียดเเละไม่หลับไม่นอน ออกไปขับรถข้างนอก ซึ่งน้องสาวเป็นคนเห็นว่าป้าเปิดกระจกรถเเล้วกรี๊ด ซึ่งตนเคยอยู่ติดกับบ้านป้ามาก่อน เเละตอนนี้ต้องย้ายออกมาเพราะอยู่ไม่ได้ ตกกลางคืนป้าจะเคาะฝาผนัง และทุ่มของลงพื้น ซึ่งตนสะดุ้งตื่นเป็นประจำ ซึ่งป้าอาศัยอยู่กับลูกชาย เคยมีครั้งหนึ่งตนเอียงหูฟัง ได้ยินลูกชายพูดว่า เคาะให้มันประสาทแดกไปเลย ซึ่งป้าเเละลูกมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือเเม่หาเรื่องลูกถ่ายคลิป ตนอยู่บ้านนั้นมา 7 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ น้องสาวเป็นคนอยู่เเต่อยู่ไม่ได้ ตนจึงเข้าไปอยู่บ้านนี้เเทน ซึ่งไปอยู่ข้างบ้านป้าอาทิตย์เเรกก็โดนตะโกนด่าเลย เเละไม่เข้าใจเหมือนกันว่าป่าจะด่าเพื่ออะไร เพราะไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ซึ่งเป็นบ้านของป้าหัวร้อนรายนี้ พบว่า ประตูบ้านปิด ไม่มีคนอยู่ สอบถามเพิ่อนบ้านใกล้กัน คือ นายจำรัส ทัศนา อายุ 67 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาป้าจะด่าโดยไม่มีสาเหตุ เเละขับรถเร็วมาก เปิดกระจกด่าคนอื่นไปทั่ว คนบริเวณนี้จะโดนด่ากันหมดด้วยคำหยาบคาย เช่น สถุน ชั้นต่ำ ซึ่งป้าอยู่มานานเเล้ว ทั้งหมู่บ้านจะรู้กันหมดว่าโรคจิต สนามบริเวณหน้าบ้านป้าเป็นของส่วนรวมถ้ามีคนเข้าไปก็ด่า เเละไม่ให้เข้าไป ซึ่งตอนนี้บ้านติดกับบ้านป้าประกาศขายทั้ง 2 หลัง เพราะไม่มีใครอยากอยู่ต้องมารับกรรมโดนด่าทุกวัน โดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเพื่อนำตัวไปรักษา ซึ่งขณะนี้ป้าอยู่ในระหว่างการเรียกตัวไปคุมประพฤติ เป็นเวลา 3 ปี เเละให้รายงานทุกๆ 3 เดือน และเมื่อวานตนนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ป้าได้ยกเท้าให้ตนโดยไม่รู้สาเหตุเพราะตนไม่เคยเข้าไปยุ่ง ทุกคนรู้กันดีแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเอือมระอากันไปหมดทั้งหมู่บ้านแล้ว