อุทยานแห่งชาติไทรโยค เผยการจับผู้ต้องหา พ.จ.อ.พิสนุ สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ลักลอบล่านกเงือก พบของกลางนกเงือก 7 ซาก กาเหว่า 2 ซาก นกเขียวคราม 1 ซาก พร้อมอาวุธปืน และยาบ้าพร้อมอุปกรณ์เสพยา และกัญชาอัดแท่ง
วันนี้ (5 ก.พ.) เพจ “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้ผเปิดเผยว่า “เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จับผู้ลักลอบล่านกเงือก พบของกลางนกเงือก 7 ซาก กาเหว่า 2 ซาก นกเขียวคราม 1 ซาก พร้อมอาวุธปืน และยาบ้า
นายนิพนธ์ จำนงค์ศิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจอุทยานแห่งชาติไทรโยค (ส่วนกลาง) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันปฏิบัติงานออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตามที่มีผู้หวังดีแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ท้องที่บ้านไทรโยคใหญ่ หมู่ที่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เวลา 09.47 น. คณะเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง พบรถยนต์ยีห้อ ISUZU สีเทา หมายเลขทะเบียน บบ 5145 กาญจนบุรี จอดอยู่บริเวณไร่ซึ่งเป็นพื้นที่ในความรับผิดชอบอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงได้นำกำลังดักซุ่มเพื่อสังเกตการณ์ พบเห็นบุคคลชาย จำนวน 1 คน กำลังนั่งและใช้อาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิดซุ่มยิงสัตว์ป่าอยู่บริเวณโคนต้นไทร คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อม พร้อมทั้งได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้
จากการตรวจสอบและตรวจค้นตัวในเบื้องต้นบุคคลชายคนดังกล่าวระบุว่า ตนคือ พันจ่าเอก พิสนุ อายุ 41 ปี สังกัดหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งในมือด้านขวาถืออาวุธปืนเดี่ยวยาวลูกกลด ขนาด .22 LR พร้อมแม็กกาซีน ภายในรังเพลิงมีลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด ลักษณะพร้อมใช้งาน ตรวจสอบภายในแม็กกาซีน พบลูกกระสุนปืนขนาด .22 บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน จำนวน 7 นัด ตรวจค้นที่ตัวพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พกอยู่เอวด้านหลัง ตรวจสอบภายในอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ไม่พบลูกกระสุนปืนภายในรังเพลิง
ตรวจสอบภายในแม็กกาซีน พบลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. บรรจุอยู่ภายในแม็กกาซีน จำนวน 6 นัด ใกล้กันพบซากนกเงือก จำนวน 7 ซาก ซากนกกาเหว่า จำนวน 2 ซาก ซากนกเขียวคราม จำนวน 1 ซาก มีดพกสั้นจำนวน 1 เล่ม ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน พร้อมอุปกรณ์กระเป๋าคาดเอวสีม่วง ตรวจค้นภายในกระเป๋าคาดเอวสีม่วงพบยาบ้าอยู่ในซองซิ๊ปล๊อกพลาสติกสีขาว จำนวน 4 เม็ดครึ่ง พร้อมอุปกรณ์เสพยา และกัญชาอัดแท่ง และคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว
เบื้องต้น ยอมรับว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของตน ตรวจพบอาวุธปืนเดี่ยวลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 14 นัด มีดพกสั้นจำนวน 3 เล่ม มีดพล้าโต้ยาว จำนวน 1 เล่ม หม้อแปลงสำหรับช๊อตปลา จำนวน 1 ตัว แร้วดักสัตว์ป่า (แร้วคอม้า) จำนวน จำนวน 23 อัน แร้วดักสัตว์ป่า (จิก) จำนวน 31 อัน ไฟฉายคาดหัว 1 อัน ของกลางทั้งหมดอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับรับทราบว่าผู้ถูกจับได้กระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) ฐาน ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ประกอบมาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 (3) หรือ (4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 19 (7) ฐาน นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป ประกอบมาตรา 45 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 19 (7) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มาตรา 56 บรรดาไม้ สัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดที่มีอยู่ในอุทยานแห่งชาติฯ ที่บุคคลได้มาจากการกระทำความผิด หรืออาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใดๆ ที่บุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ตามมาตรา 19 (1) (2) (4) (5) (7) หรือ (10)
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 ฐาน ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกอบมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 17 ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว ประกอบมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ข้อหา มียาเสพติด(กัญชา) ยาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหา เสพยาติด(กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ดำเนินคดีและนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
คลิกโพสต์ต้นฉบับ