จับอีก! พรานล่านกกก นกผู้ปลูกป่าที่หายาก

ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง รวบ 3 พรานป่าพร้อมหลักฐานเป็นอาวุธปืน และซากสัตว์ พบซากนกกก นกเงือก 1 ใน 13 ชนิดของประเทศไทย

นกกก หรือนกกะวะ หรือนกกาฮัง (Great Hornbill, Buceros bicornis) นกเงือกชนิดที่ใหญ่ที่สุด มีความยาวลำตัวประมาณ130-150 เซนติเมตร มีปีกสีดำพาดเหลือง ปลายปีกขาว ไม่มีขนปกคลุมใต้ปีกหางสีขาวพาดดำ เป็นสัตว์คุ้มครองที่มีค่าหายาก ยังคงมีสถานะของการอนุรักษ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์

นกกกได้ชื่อว่าเป็นนกผู้ปลูกป่า จากวิถีการใช้ชีวิต กินเมล็ดพันธุ์ไม้ป่าหลายชนิด และมนุษย์ยังใช้เป็นเครื่องสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ซึ่งในช่วงนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์) ถือเป็นเป็นฤดูกาลหาคู่ ผสมพันธุ์ และหารังเพื่อขยายพันธุ์


นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สบอ. 12 (นครสวรรค์) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ จำนวน 5 คน ของหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขณะลาดตระเวนถึงบริเวณป่าห้วยตะเคียน หมู่ที่ ต.คอกควาย อ.บ้านไร่ จ. อุทัยธานี ในพื้นที่ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบรอยเท้าผู้ต้องสงสัยจำนวน 1 คน จึงทำการแกะรอยติดตาม จนกระทั่งเช้าวันที่ 23 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 10.00 น. ได้พบจุดพักนอน และพบชาย 3 คน กำลังนั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่สังเกตุเห็นอาวุธปืนยาว จำนวน 2 กระบอก วางไว้ข้างตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการโอบล้อมและแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อพบเจอของกลางต้องสงสัย จึงได้เชิญตัวชายทั้ง 3 คน พร้อมของกลางที่สงสัยมาตรวจสอบและให้ถ้อยคำ ณ ที่ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบอุปกรณ์ลักลอบล่าสัตว์ และซากสัตว์ป่า ประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ปืนลูกกรด 1 กระบอก พร้อมอุปกรณ์เก็บเสียง กล้องส่อง และเครื่องกระสุน ปืนสั้น 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ซากนกกก จำนวน 1 ซาก ซากลิง จำนวน 1 ซาก ซากไก่ป่า จำนวน 1 ซาก ซากกระรอก จำนวน 1 ซาก ทราบชื่อชายทั้ง 3 คนจากการสอบสวนในภายหลัง คือ นายอำนาจ อายุ 48 ปี นายวิโรจน์ อายุ 33 ปี และนายทะเวศ อายุ 64 ปี ทั้ง 3 คน มีภูมิลำเนาอยูใน จ.อุทัยธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ. บ้านไร่ เพื่อลงโทษตามกฏหมายต่อไป

ด้าน นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมพรานป่าได้ 3 คน ในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทุกแห่ง จัดเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพ แบ่งเป็นชุดย่อยๆ 5-8 คน เดินลาดตระเวนตรวจป่าเข้าไปนอนในป่าคราวละ 5-7 คืน ชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ของหน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ชุดนี้เริ่มออกลาดตระเวนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 จนวันที่ 3 ของการออกลาดตระเวนจึงได้มาพบพรานป่าและรวบตัวไว้ได้ดังกล่าว

ข้อมูลอ้างอิง ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช