รมว.ทส.ย้ำ เทคโนโลยีช่วยเสริมการทำงาน แต่การดูแลทรัพยากรเป็นหน้าที่ของทุกคน ด้าน “กรมทะเล” ร่วมมือ GISTDA เตรียมขยายผลติดตามทรัพยากรทางทะเลอื่น
วันนี้ (25 ม.ค.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นงานที่ต้องอาศัยเทคนิค ความรู้และความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยในการบริหารจัดการ และการตัดสินใจเชิงนโยบาย ซึ่งโดยส่วนตัว ตนเป็นคนที่สนใจงานด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว และอย่างที่เห็นได้ชัดเจน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ร่วมมือกับ GISTDA ในการติดตามสถานการณ์พื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพและป่าชายหาดทั่วประเทศ ซึ่งผลการศึกษาสรุปว่า เรามีพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพเพิ่มขึ้นกว่า 2 แสนไร่ ถ้าเราให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจคงใช้เวลานานอีกทั้งความถูกต้องแม่นยำอาจจะไม่เทียบเท่า
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตนจะหารือกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. เพื่อหาแนวทางการขยายผลการดำเนินงานกับทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ ด้วย หากสามารถรายงานสถานการณ์ได้แบบ Real Time ได้ จะช่วยให้การบริหารจัดการและการตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ตนอยากฝากไว้ ก็คือ “เทคโนโลยีทำให้เราทำงานง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น แต่การดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์ ยังเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ต่อให้เทคโนโลยีจะดีหรือทันสมัยมากมายขนาดไหน ถ้าเราทุกคนไม่ร่วมแรงร่วมใจกันลงมือทำ ทรัพยากรก็คงไม่สามารถคงอยู่ได้ยั่งยืนอย่างแน่นอน”
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า นับจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการและวิจัยด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ GISTDA ตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 ทั้ง 2 หน่วยงานได้ร่วมมือกันศึกษา สำรวจทรัพยากรป่าชายเลน คงสภาพของประเทศไทย พบว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพกว่า 1,737,020 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ประมาณ 2 แสนไร่ ซึ่งตนเชื่อว่าส่วนสำคัญเกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่ช่วยกันปลูกและดูแลผืนป่าชายเลนให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จของการศึกษา กรมและ GISTDA ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานส่วนกลางและในพื้นที่กว่า 100 คน
โดยเป็นการประชุมแบบผสมผสานทั้งแบบในห้องประชุม และ Video Conference
“สำหรับอนาคต กรม ทช. ได้กำหนดแผนความร่วมมือต่อเนื่อง เพื่อขยายผลไปยังทรัพยากรทางทะเลอื่นๆ เช่น การติดตามสถานภาพปะการังและหญ้าทะเล การสำรวจและติดตามสัตว์ทะเลหายาก และสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งทะเลทั่วประเทศ ต่อไป”
ส่วนทาง นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กล่าวเสริมว่า งานด้านการติดตามและสำรวจทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทาง GISTDA ได้ให้ความสำคัญและรวบรวมฐานข้อมูลและภาพถ่ายทางดาวเทียมไว้จำนวนมาก ทำให้มีความพร้อมในการศึกษาและติดตามสถานการณ์ รวมถึง การเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งการทำงานร่วมกับ ทช. ช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้งานฐานข้อมูลให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการดำเนินงานร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว ทาง GISTDA ได้จัดทำ Marine and Coastal GI Application และสถานีเรดาร์ชายฝั่ง เพื่อติดตามสถานการณ์กระแสผิวน้ำหน้าทะเล จำนวน 7 พื้นที่ และตรวจติดตามเหตุการณ์สำคัญทางทะเลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับ ทช. ได้วางแผนเตรียมขยายผลการดำเนินงาน เพื่อติดตามสถานการณ์ทรัพยากรใต้ทะเล และสถานการณ์สำคัญอื่นๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป