วันนี้ (16 ม.ค.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาร่างกฎกระทรวง จำนวน 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 64 ประกอบด้วย ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้หมู่เกาะกระ ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าว และจะเข้าสู่กระบวนการประกาศต่อไป ส่วนร่างกฎกระทรวงกำหนดให้เกาะโลซิน ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการ โดย ทส. จะได้รับข้อเสนอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาก่อนเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม ร่างกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับนี้ กระทรวง ทส. ได้ศึกษาและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งเจตนารมณ์ของการออกกฎกระทรวง คือ การสงวน รักษา ทรัพยากรทางทะเลที่มีค่าของทั้งสองพื้นที่ไว้ก่อนจะได้รับผลกระทบหรือถูกรบกวนจากกิจกรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามทิ้งขยะมูลฝอย การกระทำที่ทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรทางทะเล การทำเหมืองแร่ การขุดและถมทะเล การทำประมงที่ไม่เหมาะสม การท่องเที่ยวที่ไม่สะท้อนถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า กฎหมายไม่ได้บังคับอะไรที่เกินเลย หรือสร้างผลกระทบต่อการดำรงวิถีชีวิตอันดีของชุมชน เราเพียงป้องกันมิให้เกิดผลกระทบทางลบ เป้าหมาย คือ ความสมบูรณ์และความยั่งยืนของตัวทรัพยากร มิใช่การกีดกันและสร้างความขัดแย้ง เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เพียงแต่ขอให้ฉุกคิดว่าทรัพยากรทางทะเลเป็นสมบัติของชาติที่มีค่า การตรากฎหมายนี้ขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาให้คงอยู่กับเราอย่างสมบูรณ์และยั่งยืนตลอดไป
ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวเสริมว่า ตนได้ริเริ่มให้สำรวจและศึกษาพื้นที่หมู่เกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช และ เกาะโลซิน จ.ปัตตานี โดยได้ยกร่างกฎกระทรวงพร้อมกำหนดมาตรการในการจัดการพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง พร้อมผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวได้ถูกเสนอผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว แสดงให้เห็นว่า กฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ได้ผ่านกระบวนการคิดและกลั่นกรองและยอมรับจากประชาชน ตลอดจนนักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิมาอย่างรอบคอบแล้ว ตนเชื่อมั่นว่า เมื่อกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ได้ประกาศบังคับใช้ เราจะสามารถรักษาทรัพยากรทางทะเล รวมถึงรักษาสมดุลของระบบนิเวศได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตนจะเร่งรัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ติดตามและดำเนินการตามกระบวนการประกาศเป็นกรณีเร่งด่วน ต่อไป
ส่วนทาง นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของทั้ง 2 พื้นที่ พบว่า มีความสมบูรณ์ของแนวปะการัง มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศ นอกจากนี้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลหายาก โดยเฉพาะบริเวณเกาะโลซิน ที่พบฉลามวาฬ กระเบนราหู ปลากว่า 116 ชนิด เป็นต้น สำหรับกฎกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ประกาศโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 และได้เสนอผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กรมอยู่ระหว่างการเร่งสำรวจพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมและจำเป็นที่จะต้องประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล เพื่อการคุ้มครองและป้องกันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้คงอยู่อย่างยั่งยืน