พบยูทูปเบอร์ที่ชื่อว่า Boomz Channel สำนึกผิด หลังแค้นแทน “รุ้ง ปนัสยา” โดน “ปลาวาฬ” ไม่เห็นด้วยขึ้นเวทีพาดพิงสถาบันกษัตริย์ รีวิวเท็จโรงแรมศรีพันวา ก็อปข้อความทวิตเตอร์ไทย-อังกฤษ-จีนลง Google Maps ทำการท่องเที่ยวภูเก็ตพังซ้ำโควิด-19 พนักงานนับพันเดือดร้อน เจ้าตัวสำนึกแต่ไม่มีเงินล้าน ชดใช้แค่ 2 หมื่น คู่กรณีเห็นแก่มนุษยธรรม ขออย่าทำร้ายใครอีก
วันนี้ (21 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ได้โพสต์วิดีโอคลิปยูทูปเบอร์ที่ชื่อว่า Boomz Channel หรือนายณัฐวุฒิ สุรทิน หรือบูม ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กล่าวขอโทษนายวรสิทธิ์ อิสสระ หรือปลาวาฬ ผู้บริหารและโรงแรมศรีพันวา หลังจากที่ออกมาโจมตีนายวรสิทธิ์ ด้วยการให้รีวิว 1 ดาวแก่โรงแรม เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม อ่านแถลงการณ์พาดพิงสถาบันกษัตริย์ โดย ศชอ.กล่าวว่า เคสนี้เกิดขึ้นจากการเข้าไปรีวิวเป็นเท็จ ให้ร้ายแก่โรงแรมศรีพันวา เมื่อปลายเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ศชอ.ได้รับการติดต่อจากทางโรงแรมศรีพันวาเพื่อทำการประเมิน สืบค้นข้อมูลผู้กระทำความผิด ให้การปรึกษาและประสานงาน ช่วยดำเนินการทางกฎหมาย
โดยในช่วงแรก ศชอ.ได้ติดตามข้อมูลที่เพียงพอต่อการดำเนินคดีมากถึง 300 กว่าราย แต่ด้วยความเมตตาของทางผู้บริหารศรีพันวาที่ประสงค์จะแจ้งความร้องทุกข์เพียงหนึ่งท่าน คือ Youtuber เจ้าของช่อง “Boomz Channel” ซึ่งได้กระทำผิดในฐานะที่เป็น Influencer มีผู้ติดตาม Follower มากกว่า 34.5K subscribers โดยมีผู้เคยรับชมผลงานของเขามากกว่า 7M View ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายได้เกือบสิ้นสุดแล้ว ผู้กระทำผิดได้รับการยอมความและให้อภัย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเปิดเผยตัวและบอกเล่าเรื่องราวที่ได้กระทำผิด เพื่อเป็นอุทาหรณ์และให้เยาวชนตระหนักรู้ว่าทุกการกระทำบนโลกออนไลน์จะต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง มีคุณธรรม และศึกษาเรื่องราวต่างๆ ให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป
ด้านนายณัฐวุฒิ สุรทิน ผู้ต้องหากล่าวว่า “คลิปวิดีโอนี้เป็นประสบการณ์ตรงของบูม ที่อยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับฟัง เนื่องด้วยปลายปีที่แล้ว คุณปลาวาฬโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยกับการขึ้นเวทีประท้วงของฝ่ายม็อบ บนแพลตฟอร์มยูทูป โดยการไลฟ์สด ต่อมาเกิดกระแสบูลลี่คุณปลาวาฬในโซเชียลฯ ยังลามมาถึงแบรนด์ศรีพันวา เป็นโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ที่คุณปลาวาฬเป็นผู้บริหารอยู่ ทั้งที่คุณปลาวาฬแค่เพียงแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น บูมเองก็ได้ทำการก็อปปี้ข้อความในทวิตเตอร์ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน ลงไปรีวิวในกูเกิลแมป โดยใช้แอ็กเคานต์ของยูทูป มีส่วนทำให้คะแนนรีวิวจาก 5 ดาวของโรงแรมศรีพันวา ลดเหลือ 1-2 ดาว ซึ่งตอนนั้นเองบูมทำไปด้วยความคึกคะนอง อิงกระแส อิงการเมือง ที่มีกระแสสังคมแบนศรีพันวา ซึ่งการกระทำครั้งนั้นไม่คาดคิดว่าจะไปทำร้ายใคร เป็นแค่ความคึกคะนองสนุกสนานในช่วงเวลานั้น
จนกระทั่งวันถัดไปเกิดฉุกคิดตระหนักว่า สิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ดี เป็นการเฟกรีวิวลงไปโดยใช้ข้อมูลไม่จริงจากโซเชียลฯ จะทำการลบแก้ไข ตอนนั้นข้อมูลทุกอย่างก็หายไปหมดแล้ว บูมคิดว่าเรื่องมันจะจบแล้ว เหตุการณ์มาถึงช่วงธันวาคม ท้ายปีนะครับ ผมได้รับทราบข้อมูลมาจากญาติว่าบูมโดนหมายเรียก ตอนนั้นหมายเรียกที่โดนก็คือ ข้อหาหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาจากจังหวัดภูเก็ต ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนแจ้งความ สอบถามไปสอบถามมาก็ได้เรื่องว่าเป็น สภ.วิชิต นาทีนั้นบูมตกใจมาก เห้ย เราทำอะไรผิดลงไป มันมีเหตุการณ์ช่วงกันยายนนี่แหละที่เราไปเฟกรีวิวใส่โรงแรมศรีพันวา นึกถึงคำที่แม่เตือนขึ้นมา เห้ย คำพูดของแม่มันเป็นจริงแล้ว กับการกระทำผิดลงไป ตอนนั้นคิดในใจว่าเจอเรื่องยุ่งเข้าแล้ว ไม่คิดว่าการกระทำในอดีตจะส่งผลกระทบต่อบูมมาถึงช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นช่วงปีใหม่พอดี ในใจคิดแค่ว่าไม่น่าไปยุ่งกับกระแสเลย คิดไปต่างๆ นานาว่า เห้ย เขาจะทำอะไร เขาจะเอาเราเข้าคุกหรือเปล่า เขาจะเรียกค่าเสียหายเรามากขนาดไหน
จนมาถึงวันที่เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต พี่ตำรวจให้คุยกับพี่พนักงานจากโรงแรมศรีพันวา เพื่อเจรจาพูดคุยเกี่ยวกับข้อความที่บูมไปพิมพ์ ซึ่งพี่ๆ เขาก็บอกว่า การกระทำของบูมที่บูมโพสต์เฟกรีวิวลงไปในกูเกิลแมป ส่งผลให้ทางโรงแรมเสียหาย และต้องการให้บูมได้บทเรียนว่าสิ่งที่บูมกระทำผิด เป็นตัวอย่างให้กับสังคม ให้กับคนที่ยังทำแบบบูมตามกระแส จากนั้นเขาก็เล่า มันกระทบต่อพนักงานหลายร้อย หลายพันชีวิต ครอบครัวของพนักงานที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ต้องมากระทบจากการกระทำของบูม ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับบูม พี่ๆ พนักงานเขาสร้างชื่อเสียงมานาน กว่าจะมาเป็นโรงแรมศรีพันวาในวันนี้ ซึ่งพี่ๆ เขาเล่าไป บูมก็สำนึกผิดไปกับสิ่งที่ทำว่า การกระทำเล็กๆ ของบูมมันส่งผลต่อคนมากมาย อีกทั้งพี่ๆ เขา พนักงานช่วยกันสร้างกว่าจะมีชื่อเสียงระดับโลก เมื่อคิดถึงทะเลจะคิดถึงภูเก็ต เมื่อคิดถึงภูเก็ตชาวต่างชาติจะคิดถึงศรีพันวา ฉะนั้นการกระทำของบูมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำลายการท่องเที่ยวของไทย เกิดผลกระทบวงกว้าง ทั้งเศรษฐกิจที่โดนพิษโควิดอยู่แล้ว กลับมาเจอการกระทำแบบบูม เหมือนเป็นการซ้ำเติมคนที่โดนพิษจากโควิดอยู่แล้ว ให้มันหนักเข้าไปอีก
บูมเองฟังก็เสียใจจริงๆ ไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบมากมายขนาดนี้ ทางโรงแรมศรีพันวาเองต้องเสียทั้งรายได้และชื่อเสียง ทนายต้องการให้บูมชดใช้จำนวนเงินหลายล้านบาท ซึ่งทางบูมและครอบครัวไม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาชดใช้ได้ จึงขอชดใช้เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ทางโรงแรมเองก็มองเห็นถึงหลักมนุษยธรรม ที่บูมเองต้องดูแลแม่และครอบครัว จึงไม่ติดใจในจำนวนเงินส่วนนี้ พี่ๆ เขาขอให้บูมไม่ไปทำร้ายใครอีก ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น และใช้ความจริงในการนำเสนอข้อมูลจริง ไปศึกษามาให้จริง ก่อนจะพิมพ์ ก่อนจะโพสต์ ก่อนจะแชร์ เพราะผลกรรมที่บูมได้กระทำไว้มันส่งผลกระทบต่อบูมโดยตรง และครอบครัว ซึ่งต่อไปบูมอาจจะไม่ได้โชคดีแบบนี้ อาจจะต้องติดคุก เสียเงินเสียทองมากกว่านี้ เสียเวลา เสียอนาคตอีกมากมาย กับการกระทำที่ไม่ได้ไตร่ตรอง บูมอยากจะบอกว่า ถ้าเราทำถูกต้องจะทำให้เราปลอดภัย สุดท้ายบูมต้องกราบขอโทษคุณปลาวาฬและชาวศรีพันวาทุกท่าน กับการกระทำของบูม บูมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ต่อจากนี้จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น จะไม่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน จะคิดก่อนจะพิมพ์ จะกลั่นกรองข้อความ ข้อมูลทุกอย่างบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คให้ถี่ถ้วน และจะไม่ทำเหมือนเหตุการณ์นี้อีกแล้ว ขอขอบคุณโอกาสที่ให้กับบูมได้ปรับปรุงตัว แก้ไขในสิ่งที่ผิด และเมตตายอมความให้บูม บูมต้องขอโทษและกราบขอบคุณ ณ ที่นี้”
ชมคลิป คลิกที่นี่