สาวขายอาหารปรุงสุกติดโควิด-19 ในงานวันเคานต์ดาวน์ของร้านวอร์มอัพคาเฟ่ เชียงใหม่ ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวขอโทษต่อสังคม ยอมรับผิดทุกอย่าง เผยไม่รู้จริงๆ ว่าตนเองติดเชื้อ วอนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดเข้าตรวจหาเชื้อได้ฟรีที่โรงพยาบาลลานนา
จากกรณีที่มีการเปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายที่ 50 ของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าเป็นหญิงไทย อายุ 25 ปี อาชีพขายอาหารปรุงสุกในตลาดนัด โดยพบว่าที่ผ่านมาได้ออกไปใช้ชีวิตตามสถานบันเทิงต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ร้านดีซี ร้านท่าช้าง ร้านอินฟินิตี้ ร้านวอร์มอัพ และร้านพริตตี้ เอ็กซ์คลูซีฟ คลับ และพบว่าคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้ออกไปเคานต์ดาวน์ที่ร้านวอร์มอัพ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ตั้งแต่ 20.30-01.00 น. ทำให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศสั่งปิดสถานบันเทิง 5 แห่ง เป็นเวลา 3 วัน และให้พนักงานของร้านกักตัวเอง 14 วัน
ล่าสุดวันนี้ (5 ม.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “AP AP” ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากงานเคานต์ดาวน์ใน จ.เชียงใหม่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษสังคมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่าตนเองไม่ทราบว่าติดเชื้อ และไม่รู้ว่าติดเชื้อจากสาเหตุใด อย่างไรก็ตาม วอนคนที่ได้สัมผัส หรืออยู่ใกล้ชิดเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลลานนา ฟรี ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“หนูขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จริงๆ ค่ะ ไม่ได้ตอบใครหรือรับสายใครต้องขออภัยนะคะ ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตปกติ กินข้าวลำอย่างเก่าเลย ไม่มีอาการใดๆ แสดงออกเลย
ใครที่หนูแจ้งไปไม่ถึง หรือยังไม่ได้ได้ติดต่อไป สามารถไปตรวจหาเชื้อโควิดได้ฟรี ที่ รพ.ลานนา และ รพ.นครพิงค์ โดยเเจ้งว่าคุณคือผู้ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หนูต้องออกมาขอโทษผู้ใหญ่ พี่ๆ เพื่อน น้อง รวมไปถึงเจ้าของกิจการ ทุกๆ กิจการ ทุกพื้นที่ที่ ทุกสถานที่หนูได้ไปค่ะ เพราะว่าตัวหนูเองไม่รู้จริงๆ หนูไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ จนถึงวันที่ 3 รู้สึกไม่สบายก็ไปตรวจค่ะ และทีมแพทย์ยังไม่ได้ระบุค่ะว่าติดมาจากไหน
ไทม์ไลน์ 14 วันของหนู มีละเอียดมากกว่าข่าวที่แถลงออกไปนะคะ ข้อมูลของหนูได้ย้อนไป 14 วัน จนถึง 1 เดือนค่ะ โดยการเข้าดูแชตที่เคยคุยกับเพื่อน แม่ และแฟน ซึ่งหนูย้อนแชตไปอ่านหนูก็รู้แล้วว่าไปไหนทำอะไรบ้าง หนูจะบอกแม่และแฟนตลอดพร้อมภาพประกอบ และรูปภาพที่ถ่ายไว้ในมือถือซึ่งเป็นคนชอบถ่ายภาพอยู่แล้วค่ะ หนูใช้ภาพ และแชตตามที่บอกให้ปากคำกับทางกรมควบคุมโรคค่ะ ยืนยันว่าเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ สถานที่ที่หนูไปก็บอกทุกร้านค่ะ ถ้าใครต้องการเพิ่มเติมแบบละเอียดสามารถติดต่อกับกรมควบคุมโรคได้เลยค่ะ หนูใช้เวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีผลเป็นบวก นั่งคุยไทม์ไลน์ของหนูกับกรมควมคุมโรคค่ะ คุยผ่านโทรศัพท์ เลยไม่สามารถรับสายใครได้
วันที่ 3 มกราคม รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ก่อนเข้าบ้านเลยแวะตรวจที่ รพ.ค่ะ ทีแรกแพทย์แจ้งว่าเป็นไข้เลือดออก ตัวหนูเองได้ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19
วันที่ 4 มกราคม นอนอยู่บ้านทั้งวัน จนเวลา 16.50 น. กรมควบคุมโรคโทร.มาแจ้งว่าพบว่าผลเป็นบวกค่ะ (ซึ่งก็ยังไม่ได้เห็นเอกสารยืนยันนะคะ) ทีมแพทย์เข้ามารับที่บ้านค่ะและนำไปรักษาตัวต่อที่ รพ.นครพิงค์
ปกติหนูเป็นคนเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ชอบเที่ยว ดื่ม สังสรรค์กับเพื่อน และบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวหนูที่ไปเที่ยวด้วยกันหนูได้แจ้งครบทุกคนให้ไปตรวจแล้วค่ะ บางส่วนผลออกแล้ว ผลเป็นลบค่ะ หนูมีเพื่อนหลายกลุ่มค่ะ ซึ่งตัวหนูเองได้แจ้งกับคนที่ใกล้ชิดกับหนูทุกคน และการบอกต่อให้
หนูมีอาชีพค้าขาย จริงค่ะ ทำกับที่บ้าน คนทำอาหารเป็นคุณพ่อ และแม่ค่ะ ส่วนตัวหนูเองไม่ได้เป็นคนปรุงอาหารแต่อย่างใดค่ะ และที่ไม่มีตลาดเมืองใหม่หรือร้านขายของสดในไทม์ไลน์ เพราะหนูมีร้านประจำมาส่งของที่บ้านค่ะ และเคลียร์บิลเป็นรายอาทิตย์ๆ ไป แม่หนูจึงไม่เดินทางไปที่ตลาดเมืองใหม่ค่ะ ส่วนตัวหนูเองไปขายที่ตลาดค่ะตามที่แจ้งค่ะ ระหว่างที่ขายหนูสวมหน้ากากตลอดเวลาค่ะ
มีคนบอกว่าหนูทำงานเป็น PR /Entertain ใช่มั้ย เที่ยวขนาดนั้น เพราะไทม์ไลน์ของหนูมีแต่สถานบันเทิง ไม่ได้ทำงานประเภทนั้นค่ะ เพียงแค่หนูมีคนรู้จักเยอะแยะมากมาย เวลาไปเที่ยวก็เจอคนเยอะแยะ
ถามว่าทำไมในไทม์ไลน์ถึงไม่มีแฟนหนู แฟนหนูทำงานที่ต่างจังหวัดค่ะ เขาเป็นคนขยัน เก็บสะสมวันหยุดให้ได้นานที่สุดแล้วเขาจะถึงจะหยุด นับได้ก็ 58 วันแล้วค่ะที่ไม่ได้เจอ เขาจึงไม่อยู่ในไทม์ไลน์ ส่วนคนที่บอกว่าหนูติดมาจากแฟนหนูไม่เป็นความจริงค่ะ
ส่วนการรักษาโรคโควิด-19 เป็นไปตามกระบวนการของทีมแพทย์ค่ะ ได้รักษาตัวอยู่ในห้องความดันลบค่ะ อยู่คนเดียว ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้นอกจากจะต้องฉีดยา หรือ X-ray ทีมแพทย์จะสวมชุดแบบที่เราเคยเห็นค่ะ
หมอได้ชี้แจงว่าการที่เราติดเชื้อนั้น ไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น หนูอาจจะติดจากเงิน จากพื้นที่บางจุดที่มีเชื้ออยู่ โดยทุกคนไม่สามารถรับเชื้อได้ทุกคน บางคนรับเชื้อมาแพร่สู่เรา แต่เขาก็อาจจะไม่เป็นค่ะ แต่หนูอาจจัได้รับเชื้อมาแล้วเป็น เพียงเพราะหนูเองอาจจะเป็นช่วงที่ภูมิต้านทานต่ำพอดี หนูจึงได้รับเชื้อ
หนูยอมรับผิดค่ะ และหนูเองพูดความจริงทุกอย่างไปที่ไหนทำอะไรยังไงบ้าง
และขอบคุณกำลังใจจากทุกคนค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆ ส่วนคนที่นำเรื่องไปพูดโดยที่ไม่รู้ความจริง ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้หนูได้รู้แล้วว่าใครเป็นยังไง โดยเฉพาะคนใกล้ตัวที่หนูและแม่ได้ซัปพอร์ตให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด เขาได้นำเรื่องของหนูไปพูดต่อโดยไม่เป็นความจริงซึ่งมันเป็นเรื่องที่รู้สึกแย่มากค่ะ”
คลิก - อ่านโพสต์ต้นฉบับ