เชียงใหม่ - สาววัย 25 ผู้ติดเชื้อโควิดรายที่ 50 ของเชียงใหม่โพสต์ขอโทษทำคนทั้งเมืองเดือดร้อน ยันไม่รู้ว่าติดเชื้อมาจากไหน ให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวนโรคแจงไทม์ไลน์ละเอียดยิบ ตัดพ้อขอความเห็นใจ “ปล. หนูเป็นโควิด-19 ค่ะ ไม่ใช่โจรยิงกราด”
จากกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายล่าสุดเป็นรายที่ 50 ซึ่งเป็นหญิง อายุ 25 ปี อาศัยอยู่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อาชีพขายอาหารปรุงสุกตามตลาดนัด และยังมีพฤติกรรมชอบเที่ยวสถานบันเทิง โดยเฉพาะช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และเป็นช่วงเสี่ยงของการแพร่โรคระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2564 พบว่าในไทม์ไลน์นอกจากขายอาหารตามตลาดนัดแล้วยังเที่ยวสถานบันเทิงถึง 5 แห่งด้วยกัน และยังพบว่ามีการเดินทางออกนอกจังหวัดเชียงใหม่ไปจังหวัดลำปาง และจังหวัดแพร่ พักค้างคืนที่จังหวัดแพร่ก่อนเดินทางกลับเชียงใหม่
ล่าสุดวันนี้ (5 ม.ค. 64) หญิงสาวรายนี้ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงเรื่องต่างๆ รวมทั้งมีการกล่าวขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่าตนเองไม่รู้ว่ารับเชื้อมาจากที่ไหน ซึ่งได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของตัวเองแบบละเอียดยิบ ย้อนหลังไปถึง 14 วันแก่ทีมสอบสวนโรคด้วย โดยข้อความที่โพสต์ระบายมีผู้แชร์ต่อไปอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ก็มีผู้มาให้กำลังใจ ดังนี้
หนูขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จริงๆ ค่ะ
- ไม่ได้ตอบใครหรือรับสายใครต้องขออภัยนะคะ
- ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตปกติ กินข้าวลำอย่างเก่าเลย ไม่มีอาการใดๆ แสดงออกเลย
- ใครที่หนูแจ้งไปไม่ถึง หรือยังไม่ได้ติดต่อไป สามารถไปตรวจหาเชื้อโควิดได้ฟรี ที่ รพ.ลานนา และ รพ.นครพิงค์ โดยแจ้งว่าคุณคือผู้ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
- หนูต้องออกมาขอโทษผู้ใหญ่ พี่ๆ เพื่อน น้อง รวมไปถึงเจ้าของกิจการทุกๆ กิจการ ทุกพื้นที่ ทุกสถานที่ที่หนูได้ไปค่ะ เพราะว่าตัวหนูเองไม่รู้จริงๆ หนูไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ จนถึงวันที่ 3 รู้สึกไม่สบายก็ไปตรวจค่ะ และทีมแพทย์ยังไม่ได้ระบุค่ะว่าติดมาจากไหน
- ไทม์ไลน์ 14 วันของหนูมีละเอียดมากกว่าข่าวที่แถลงออกไปนะคะ ข้อมูลของหนูได้ย้อนไป 14 วัน จนถึง 1 เดือนค่ะ โดยการเข้าดูแชตที่เคยคุยกับเพื่อน แม่ และแฟน ซึ่งหนูย้อนแชตไปอ่านหนูก็รู้แล้วว่าไปไหนทำอะไรบ้าง หนูจะบอกแม่และแฟนตลอดพร้อมภาพประกอบ และรูปภาพที่ถ่ายไว้ในมือถือซึ่งเป็นคนชอบถ่ายภาพอยู่แล้วค่ะ หนูใช้ภาพ และแชตตามที่บอกให้ปากคำกับทางกรมควบคุมโรคค่ะ ยืนยันว่าเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ สถานที่ที่หนูไปก็บอกทุกร้านค่ะ แต่ไม่ได้ลองชุดที่ร้านใดเลยค่ะ ถ้าใครต้องการเพิ่มเติมแบบละเอียดสามารถติดต่อกับกรมควบคุมโรคได้เลยค่ะ หนูใช้เวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่ทราบข่าวว่ามีผลเป็นบวก นั่งคุยไทม์ไลน์ของหนูกับกรมควมคุมโรคค่ะ คุยผ่านโทรศัพท์ เลยไม่สามารถรับสายใครได้
- วันที่ 3 มกราคม รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ก่อนเข้าบ้านเลยแวะตรวจที่ รพ.ค่ะ ทีแรกแพทย์แจ้งว่าเป็นไข้เลือดออก ตัวหนูเองได้ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19
- วันที่ 4 มกราคม นอนอยู่บ้านทั้งวัน จนเวลา 16.50 น. กรมควบคุมโรคโทร.มาแจ้งว่าพบว่าผลเป็นบวกค่ะ (ซึ่งก็ยังไม่ได้เห็นเอกสารยืนยันนะคะ) ทีมแพทย์เข้ามารับที่บ้านค่ะและนำไปรักษาตัวต่อที่ รพ.นครพิงค์
- ปกติหนูเป็นคนเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ชอบเที่ยว ดื่ม สังสรรค์กับเพื่อน และบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวหนูที่ไปเที่ยวด้วยกันหนูได้เเจ้งครบทุกคนให้ไปตรวจแล้วค่ะ บางส่วนผลออกแล้ว ผลเป็นลบค่ะ
- หนูมีเพื่อนหลายกลุ่มค่ะ ซึ่งตัวหนูเองได้แจ้งกับคนที่ใกล้ชิดกับหนูทุกคน และการบอกต่อให้
- หนูมีอาชีพค้าขายจริงค่ะ ทำกับที่บ้าน คนทำอาหารเป็นคุณพ่อ และแม่ค่ะ ส่วนตัวหนูเองไม่ได้เป็นคนปรุงอาหารแต่อย่างใดค่ะ และที่ไม่มีตลาดเมืองใหม่หรือร้านขายของสดในไทม์ไลน์ เพราะหนูมีร้านประจำมาส่งของที่บ้านค่ะ และเคลียร์บิลเป็นรายอาทิตย์ๆ ไป แม่หนูจึงไม่เดินทางไปที่ตลาดเมืองใหม่ค่ะ ส่วนตัวหนูเองไปขายที่ตลาดตามที่แจ้งค่ะ ระหว่างที่ขายหนูสวมหน้ากากตลอดเวลาค่ะ
- มีคนบอกว่าหนูทำงานเป็น PR /Entertain ใช่มั้ย เที่ยวขนาดนั้น เพราะไทม์ไลน์ของหนูมีแต่สถานบันเทิง ไม่ได้ทำงานประเภทนั้นค่ะ เพียงแค่หนูมีคนรู้จักเยอะแยะมากมายเวลาไปเที่ยวก็เจอคนเยอะแยะ
- ถามว่าทำไมในไทม์ไลน์ถึงไม่มีแฟนหนู แฟนหนูทำงานที่ต่างจังหวัดค่ะ เขาเป็นคนขยัน เก็บสะสมวันหยุดให้ได้นานที่สุดแล้วเขาถึงจะหยุด นับได้ก็ 58 วันแล้วค่ะที่ไม่ได้เจอ เขาจึงไม่อยู่ในไทม์ไลน์ ส่วนคนที่บอกว่าหนูติดมาจากแฟนหนูไม่เป็นความจริงค่ะ
- ส่วนการรักษาโรคโควิด-19 เป็นไปตามกระบวนการของทีมแพทย์ค่ะ ได้รักษาตัวอยู่ในห้องความดันลบค่ะ อยู่คนเดียว ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้นอกจากจะต้องฉีดยาหรือ X-ray ทีมแพทย์จะสวมชุดแบบที่เราเคยเห็นค่ะ
- หมอได้ชี้แจงว่าการที่เราติดเชื้อนั้นไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น หนูอาจจะติดจากเงิน จากพื้นที่บางจุดที่มีเชื้ออยู่ โดยทุกคนไม่สามารถรับเชื้อได้ทุกคน บางคนรับเชื้อมาแพร่สู่เรา แต่เขาก็อาจจะไม่เป็นค่ะ แต่หนูอาจจะได้รับเชื้อมาแล้วเป็น เพียงเพราะหนูเองอาจจะเป็นช่วงที่ภูมิต้านทานต่ำพอดีหนูจึงได้รับเชื้อ
- หนูยอมรับผิดค่ะ และหนูเองพูดความจริงทุกอย่างไปที่ไหนทำอะไรอย่างไรบ้าง
- และขอบคุณกำลังใจจากทุกคนค่ะ ขอบคุณจากใจจริง ส่วนคนที่นำเรื่องไปพูดโดยที่ไม่รู้ความจริง ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้หนูได้รู้แล้วว่าใครเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนใกล้ตัวที่หนูและแม่ได้ซัปพอร์ตให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด เขาได้นำเรื่องของหนูไปพูดต่อโดยไม่เป็นความจริงซึ่งมันเป็นเรื่องที่รู้สึกแย่มากค่ะ
ปล.หนูเป็นโควิด-19 ค่ะ ไม่ใช่โจรยิงกราด ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ // 5 มกราคม 2564
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและแชร์ต่อไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างแสดงความเห็นอกเห็นใจและเอาใจช่วยให้หายป่วยโดยเร็ว