ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ยื่นหนังสือสอบถามการยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบอัยการรับเงินจาก “เสี่ยกำพล-นิภา-ป๋าติ๊ก” ผู้ต้องหาและจำเลยคดีวิคตอเรียซีเครท กว่า 100 ล้านบาท ขณะที่รองเลขาธิการ ป.ป.ช.เผยเรื่องอยู่ในกระบวนการ
วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. โดยมีนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. และโฆษก ป.ป.ช.รับเรื่อง
นายรณสทธิ์บอกว่า มีหลักฐานยืนยันว่ามีข้าราชการอัยการคนหนึ่งได้รับเงินโอนเข้าบัญชีจากนายกำพล และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ และนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก สองผู้ต้องหา และจำเลยคดีอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท และเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เข้าให้ปากคำพร้อมมอบหลักฐานเส้นทางการเงิน ในกรณีสงสัยว่ามีเจ้าพนักงานข้าราชการระดับสูงเรียกรับหรือรับสินบนจากผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ในสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท กว่า 100 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว จึงประสงค์ขอทราบผลการดำเนินการ และความคืบหน้าจาก ป.ป.ช.
ขณะที่นายนิวัติไชยบอกว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องไปรวบรวมข้อมูลในคำร้องที่ผู้ร้องได้ชี้แจงมาแล้ว รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าคำร้องมีมูลพอที่จะดำเนินการไต่สวนต่อไปหรือไม่
นายรณสิทธิ์เปิดเผยว่า เราเห็นความผิดปกติมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามายุ่งเหยิงในคดี เข้ามาพัวพันเรียกรับผลประโยชน์ตั้งแต่ช่วงแรก โดยเป็นหลักฐานที่เราได้จากบุคลากรภายใน ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปพัวพันการใช้ดุลพินิจในการสั่งคดี ส่อให้เห็นข้อสงสัยว่าท่านมีเจตนาอย่างไรถึงเข้าไปช่วย ยิ่งเห็นได้ชัดเจนในคดีวิคตอเรียซีเครท ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นางนิภา และนายธนพล ภายหลังอัยการทำความเห็นไม่ฟ้องตามที่ทั้ง 2 คนร้องขอความเป็นธรรม และอธิบดีดีเอสไอไม่ทำความเห็นแย้ง ทำให้คดีในส่วนนางนิภา และนายธนพลเป็นที่สุด อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนกำลังหาช่องทางรื้อคดีในส่วนนางนิภา และนายธนพล เพราะศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องนายกำพล นางนิภา และนายธนพล เป็นคำพิพากษานอกสำนวน