xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์แก้ คุก 50 ปี อดีต ผจก.วิคตอเรียซีเครท กับพวก ค้ามนุษย์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีค้ามนุษย์ อาบอบนวดวิคติเรียซีเครท หมายเลขดำ คม. 26/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 และเด็กสาวผู้เสียหายรวม 3 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย ผู้จัดการสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ นายชัยณรงค์ อันสุข นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หจก.อมรินทร์ ออนเซน น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ และ บริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ที่นายศรัทธาธรรม เป็นผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานร่วมกันสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อค้ามนุษย์ ในการค้าประเวณี ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4, 6, 9, 10, 52 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 4, 9, 11 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 มาตรา 14, 27 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 283 ทวิ

สืบเนื่องจาก เมื่อระหว่างต้นเดือนธันวาคม 2560 - 12 มกราคม 2561 พวกจำเลยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ค้ามนุษย์ โดยวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นธุระจัดหาหญิงสาวชาวไทย 2 คน และชาวเมียนมา 7 คน อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการค้าประเวณี เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น โดยอัยการยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

คดีนี้ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 พิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 1 นายบุญทรัพย์ จำเลยที่ 2 นายชัยณรงค์ จำเลยที่ 3 นายเอกณพัชร์ จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นพนักงานเชียร์แขก มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาฯ ให้จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน

ส่วน น.ส.ศศิธร หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย

สำหรับ หจก. อมรินทร์ ออนเซน จำเลยที่ 5 และ บจก.เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำเลยที่ 7 ที่เป็นนิติบุคคลให้เช่าสถานที่ ก็พิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยที่ 1-4 และ 6 มาจากเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลางเพื่อฟังคำพิพากษา

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า พวกจำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป้นกระทงความผิดไป จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 68 ปี จำคุกจำเลยที่ 3-4 คนละ 62 ปี 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 6 รวม 68 ปี ปรับ 8,000 บาท และให้ปรับจำเลยที่ 5 จำนวน 3,978,666 บาท กับจำเลยที่ 7 จำนวน 3,970,666 บาท โดยตามกฎหมายแล้วให้ลงโทษจำคุกได้สูงสุดคนละ 50 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมที่เป็นเด็กสาวผู้เสียหายที่ 2-3 คนละ 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง