ศาลอนุญาตถอนฟ้องคดี “รังสิมันต์” นำคนอยากเลือกตั้งไล่รัฐบาล คสช. 10 ก.พ. 2561 เหตุจำเลยอื่นศาลวินิจฉัยให้ยกฟ้องหมดแล้วและอัยการไม่อุทธรณ์
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความคดีแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ชุด RDN50 หมายเลขดำที่ อ.1197/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และร่วมกันมั่วสุมชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน ในที่สาธารณะ ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 กรณีจำเลยกับพวกจัดชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ภายในเดือน พ.ย. 2561 และต่อต้านรัฐบาล คสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2561 โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
ในวันนี้ อัยการโจทก์, นายรังสิมันต์ จำเลย เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้อัยการได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องนายรังสิมันต์ จำเลย
คดีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2562 ศาลมีคำสั่งให้นำคดีหมายเลขดำที่ อ.2893/2561 มารวมพิจารณาเข้ากับสำนวนคดีนี้ เนื่องจากทั้งสองคดีนั้นเหตุเกิดในวันเดียวกัน พยานหลักฐานชุดเดียวกัน ต่อมาศาลมีคำสั่งให้แยกการพิจารณาคดีในส่วนของนายรังสิมันต์ จำเลยที่ 1 กับคดีของจำเลยที่ 2-7 ออกจากกัน
ต่อมาศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2-7 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2893/2561 โจทก์ไม่อุทธรณ์ โดยอัยการสูงสุดได้ชี้ขาดความเห็นแย้งไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว จึงเป็นกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าการกระทำของจำเลยที่ 2-7 พวกของจำเลยไม่เป็นความผิด เมื่อจำเลยคดีนี้ถูกฟ้องว่าร่วมกระทำความผิดฐานเดียวกันกับจำเลยที่ 2-7 ในคดีดังกล่าว วันและเวลาเกิดเหตุเป็นวันเดียวกัน มีมูลเหตุคดีมาจากเหตุเดียวกัน และมีพยานหลักฐานที่โจทก์ใช้ในการสืบพยานชุดเดียวกัน ถือเป็นเหตุลักษณะคดี โจทก์จึงขอถอนฟ้องนายรังสิมันต์ จำเลยคดีนี้ออกจากสารบบความ โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ถอนฟ้อง จำหน่ายออกจากสารบบความ
ภายหลัง นายรังสิมันต์กล่าวว่า คดีนี้เดิมมีจำเลย 7 คน แต่ตนเป็น ส.ส.อยู่ในช่วงการประชุมสภา ศาลจึงแยกตนออกมาพิจารณาในภายหลัง ทำให้จำเลยทั้ง 6 คนถูกพิจารณาไปก่อน และมีผลออกมาว่ายกฟ้อง อัยการได้ตัดสินใจถอนฟ้อง เพราะคดีก่อนหน้านี้ 6 คน ศาลยกฟ้องไปแล้ว คดีนี้พยานหลักฐานอย่างเดียวกัน อัยการจึงยื่นคำร้องถอนฟ้องคดีนี้ด้วย ถือว่าจำหน่ายออกจากสารบบ นอกจากนี้ ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดอ่านพิพากษาคดีแกนนำคนอยากเลือกตั้ง ชุด MBK39 (กรณีชุมนุมบริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2561)
นายรังสิมันต์กล่าวว่า คดีที่โดนเนื้อหาเกี่ยวกับมาตรา 116 แต่คดีที่ใช้มาตรา 116 แล้วศาลตัดสินเป็นโทษมีไม่กี่คดี ส่วนใหญ่คนที่เป็นแกนนำคนอยากเลือกตั้งรอดหมด แล้วทำไมเราถึงยังใช้มาตรา 116 ในลักษณะคดีแบบเดิม เหมือนกับทางตำรวจไม่สนใจเลยว่าการใช้มาตรา 116 เป็นไปตามแนวทางที่ศาลพิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ทำให้สุดท้ายอดคิดไม่ได้ว่าการดำเนินการของตำรวจเป็นไปเพื่อให้เป็นภาระทางคดี และเพื่อปกป้องรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจำเลย 6 คน ที่ยกฟ้อง คือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว, นายกาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์, นายอานนท์ นำภา, น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์, นายสุกฤษฏิ์ เพียรสุวรรณ และ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด คดีดังกล่าวศาลอาญาได้มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2562 ซึ่งอัยการไม่อุทธรณ์ต่อ คดีจึงถึงที่สุด
