xs
xsm
sm
md
lg

อดีตอธิการ มธ.เชื่อ “ม็อบปลดแอก” ไม่มีทางเปลี่ยนไทยเป็นสาธารณรัฐ ชี้แค่ขายฝันผู้ใช้แรงงานเป็นแนวร่วม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ไม่มีทางเปลี่ยนไทยเป็นสาธารณรัฐโดยไม่มีสถาบันฯ เปรียบการต่อสู้ของม็อบปลดแอกเหมือนแมลงปอชนเสาหิน ระบุสัญลักษณ์ที่ออกมาแค่ดึงกลุ่มผู้ใช้แรงงานเป็นแนวร่วม ขายฝันว่าตัวเองสร้างชาติ สร้างสังคมเท่าเทียม ดึงพวกที่แตกคอโดยดิสเครดิตพระมหากษัตริย์

วันนี้ (10 ธ.ค.) รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Harirak Sutabutr” ระบุว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่ากลุ่มคณะราษฎร 2563 แม้ยังยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อ แต่ในเชิงพฤติกรรมเห็นชัดว่าให้ความสำคัญที่ข้อ 3 ที่สุด และแม้ปากจะบอกว่าต้องการปฏิรูป ไม่ใช่ล้มล้าง แต่พฤติกรรมของทั้งม็อบ ทั้งแกนนำ ทั้งสาวกที่แสดงออกใน Social Media แสดงให้เห็นชัดโดยไม่มีข้อสงสัยว่าไม่ต้องการอยู่ร่วม และไม่ต้องการให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป

หลังจากที่มีคำว่า “Republic” หลุดออกมาในระหว่างการชุมนุม และในการ Comment กันใน Social Media บ่อยครั้ง

ล่าสุด Facebook Page ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เริ่มเล่นกับคำว่า “Republic” และสาธารณรัฐ และต่อมานำสัญลักษณ์ที่เป็นตัวอักษร R กับ T และทำตัว R ให้มีรูปร่างเป็นเคียว และตัว T รูปร่างเป็นค้อนมาแสดง ซึ่งย่อมาจากคำว่า Restart Thailand
Page นี้ ยังลงบทความที่เริ่มต้นด้วยวลีที่ว่า “เพราะเรามีศัตรูร่วมกัน”

บทความนี้เป็นบทความจาก page ที่ชื่อว่า “Thammasat University Marxism Studies (TUMS)” (ธรรมศาสตร์อีกแล้วครับท่าน)

เนื้อหาของบทความพยายามบอกว่า ประชาชน ผู้ใช้แรงงาน ในประเทศเราถูกกดขี่ และถูกขูดรีดใน “ระบบเสรีนิยมใหม่” โดยระบอบศักดินา และเผด็จการทหาร ซึ่งมีแนวคิดให้ประชาชนรับผิดชอบตัวเอง โดยรัฐจะไม่สนใจใยดีใดๆ ไม่ว่าราคาพืชผลการเกษตรจะตกต่ำหรือไม่เพียงไร เพียงแต่เจียดมาเงินมาแจกให้บ้างครั้งละพันสองพัน และต้องการตัดสวัสดิการทุกอย่างของประชาชน

จะเห็นว่าบทความนี้บิดเบือนจากความเป็นจริงไปมาก

บทความนี้ยังชี้ว่า ประชาชนมีศัตรูคนเดียวกัน ที่ขูดรีดกดขี่ มีแต่รวมพลังกันทั้งหมด จึงจะสามารถสร้างสังคมที่เท่าเทียมกัน และทำให้ข้อเรียกร้องของทุกฝ่ายเป็นจริงได้

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ดูจาก Comments จะพบว่า มีการท้วงติงจากพวกเดียวกันเองค่อนข้างมาก และยังถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามว่า พยายามจะทำให้ประเทศเป็น คอมมิวนิสต์

อย่างไรก็ดี หากคิดให้ลึกลงไปไม่น่าเป็นไปได้ที่ขบวนการนี้ จะต้องการให้ประเทศไทยเป็นคอมมิวนิสต์ หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ระบอบคอมมิวนิสต์แบบคิวบา และแบบเกาหลีเหนือ เพราะล้าสมัยไปแล้ว

จุดประสงค์ที่แท้จริง น่าจะต้องการดึงกลุ่มผู้ใช้แรงงานเข้ามาเป็นแนวร่วมในการต่อสู้โดยขายความคิดว่า ศัตรูร่วมคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ และรัฐบาลชุดนี้ สังเกตดูข้อความที่โปสเตอร์แรกสีแดงที่พยายามดิสเครดิตพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาราชทุกพระองค์ ทำให้ผู้ใช้แรงงานเชื่อว่าพวกเขาเองเป็นผู้สร้างชาติ ไม่ไช่พระมหากษัตริย์ และขายความฝันที่น่าจะเรียกว่า เป็นความเพ้อฝันมากกว่า ว่าจะสามารถสร้างสังคมที่เท่าเทียมกันได้

นอกจากนี้ ยังต้องการปลุกให้กลุ่มต่างๆ ในฝ่ายตัวเอง ที่อาจกำลังขัดแย้งกัน หันมารวมตัวผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้กับศัตรูร่วมคนเดียวกัน

ที่ทำเช่นนี้ เพราะอาจเห็นว่า พลังของประชาชนที่ต้องการคงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ยิ่งวันยิ่งกล้าแข็งขึ้น เค้าลางของความพ่ายแพ้ เริ่มชัดขึ้น

รับรองว่า การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ไม่ใช่การเคลื่อนไหวแบบสะเปะสะปะ ต่างคนต่างทำโดยไม่มีผู้วางแผน ที่เป็น Master Mind แน่นอน

ลองคิดดูว่า การสร้าง Pages ต่างๆ บน Platform ต่างๆ ใน Social media และบริหาร Pages เหล่านั้น เช่น “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” “เยาวชนปลดแอก” “นักเรียนเลว” แค่นี้ก็คืองานที่ต้องทำเต็มเวลาแล้ว ไหนจะต้องมีการวางแผน และขับเคลื่อนม็อบ และกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้เงินมากเกินว่าที่จะได้เพียงจากการบริจาคจากคนทั่วไปทั้งต้องมีทั้งทีมยุทธศาสตร์ ทีม Creative ทีม Production ที่ต้องปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว ทันเวลา ทันเหตุการณ์ แค่ออกแบบตัว R ให้เป็นรูปเคียว ตัว T ให้เป็นรูปค้อนก็ไม่ง่ายแล้ว ยังมีทีมการ์ด ทีมสวัสดิการ และอื่นๆ ที่ต้องประสานสอดรับกัน งานระดับนี้ถ้าเงินไม่ถึง ขีดความสามารถไม่ถึง ทำไม่ได้เด็ดขาด

อย่างไรก็ดี ขอบอกว่า การจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศ Republic หรือ สาธารณรัฐ ไม่ว่าจะเป็น สาธารณรัฐแบบเสรีนิยม หรือแบบสังคมนิยม ซึ่งไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังเห็นความสำคัญของสถาบัน และขอย้ำคำว่า “สถาบัน” พระมหากษัตริย์อยู่ และไม่มีทางยอมให้ผู้ที่ต้องการล้มล้างบรรลุเป้าหมายเด็ดขาด

ขอนำคำพูดของท่านอดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือท่านหนึ่ง ซึ่งท่านไม่ได้นิยมชมชอบพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลชุดนี้เลยสักนิด ท่านบอกผมว่า

“จะไปสู้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เหมือนกับการที่แมลงปอบินไปชนเสาหิน ยังไงยังงั้น”

เชื่อว่าข้อความข้างบนนี้ เป็นการเปรียบเทียบที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด

ใครก็ตามที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ในขณะนี้ อย่าได้เพ้อฝันไปเลยครับ”


รายงานข่าวเพิ่มเติม ระบุว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “เยาวชนปลดแอก” ประกาศการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ในชื่อ RT MOVEMENT เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้สัญลักษณ์เป็นรูป R และ T แต่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีรูปค้อนเคียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของลัทธิคอมมิวนิสต์ นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังออกมาอธิบายการปกครองระบอบสาธารณรัฐอีกด้วย กลุ่มดังกล่าวมีนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายภานุมาศ สิงห์พรม นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แฟนหนุ่ม และมือทำกราฟิกของกลุ่มเป็นแกนนำ

ส่วนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Thammasat University Marxism Studies พบว่าจากกำหนดการจัดงาน “ยกเลิก 112 สิ แล้วเราจะเล่าให้ฟัง” ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนั้น มีนายรชต เอี่ยมตระบุตร หรือซัน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสังเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น