“นพ.ระวี” ชี้จับตารอดูผลคนไทยกลับจากท่าขี้เหล็ก หลังกักตัว 14 วัน ถ้าติดน้อยการระบาดรอบที่ 2 คงจบลง แต่ถ้าติดเยอะเรื่องใหญ่แน่ หนุนเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยงน้อย ลดกักตัวเหลือ 10 วัน คาดไทยได้ฉีดวัคซีนกลางปีหน้า
วันที่ 9 ธ.ค. 2563 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังธรรมใหม่ และ ผอ.โรงพยาบาลเวียงเวช จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “โควิดรอบ 2 มาหรือไม่?”
โดย นพ.ระวีกล่าวว่า มีดัชนีเริ่มระบาดครั้งที่ 2 แต่ไม่มากเท่าครั้งก่อนแน่นอน สัญญาณติดเชื้อรอบที่ 2 ในประเทศไทย จะเร็วมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้คนไทยที่กลับจากการทำงานสถานบันเทิง ท่าขี้เหล็ก เมียนมา อยู่ในช่วงกักตัวดูอาการ หลังจากนี้ 10 วัน ถ้าปรากฏว่าติดเชื้อคนสองคน ก็สบายใจได้ ระยะสองเป็นแค่หน่อขึ้นมาแล้วหายไป แต่ถ้าติดเป็นร้อยนี่เรื่องใหญ่
ส่วนเรื่องการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากักตัวเพียง 10 วัน ตามที่นายอนุทินเสนอ ต้องดูประเทศ ถ้ามาจากประเทศที่มีการระบาดหนัก คงยังไม่ได้ แต่ถ้ามาจากประเทศที่ระบาดน้อยอันนี้ไม่เป็นอะไร การกักตัว 10 วัน อยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับได้ แลกกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ถ้าปิดประเทศหมดเชื้อตาย คนก็ตายด้วย ส่วนตัวเห็นด้วย แต่ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น
นพ.ระวีกล่าวอีกว่า อัตราการตายน่าจะนิ่งแล้ว อยู่ที่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนี้ไม่กี่เดือนอัตราการตายทั่วโลกทะลุเกิน 2 ล้านคนแน่นอน ขึ้นกับประสิทธิภาพของวัคซีน ตอนนี้ทั่วโลกมีการผลิตประมาณ 12 แบบ วันนี้ที่อังกฤษทดลองฉีด เป็นของบริษัท ไฟเซอร์ ผลิตร่วมกันกับไบโอเอ็นเทค บริษัทยาของเยอรมนีตัวนี้มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ราคาประมาณ 700-800 บาทต่อ 1 โดส ต้องเก็บรักษาที่อุณหภูมิติดลบ 70 องศา การลำเลียงไปฉีดจะยุ่งยากมาก
ส่วนของที่ไทยร่วมมือกับแอสตราเซเนกา โดสนึงไม่ถึง 200 บาท เก็บรักษาในตู้เย็นธรรมดาได้ ได้ผลเฉลี่ย 70 เปอร์เซ็นต์ คาดกันว่าปลายปีหน้าคนไทยจะได้ฉีด นี่ขนาดเราได้สิทธิพิเศษได้ฉีดเร็ว แต่ตนคิดว่ากลางปีหน้าก็น่าจะได้ฉีดแล้ว เพราะตอนนั้นวัคซีนของแต่ละประเทศจะออกมาเยอะ ก็ขายให้เราได้เร็วขึ้น
