สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เผยข้อมูลน่าเศร้าหลังพบนกเงือกกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดค้าสัตว์ป่าและราคาสูง ชี้ หากล่านกเงือกตัวผู้ เราอาจเสียนกเงือกตามไปอีก 2 ตัว คือ เมียและลูก พร้อมระบุนกเงือกมีประโยชน์มาก เพราะนกเงือกแต่ละตัวสามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ให้ป่าได้มากกว่า 100 ต้นต่อสัปดาห์ และตลอดช่วงอายุขัยยังปลูกต้นไม้ได้ถึง 500,000 ต้น
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. เพจ “สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand” ได้เผยเรื่องราวโดยระบุว่า “นกเงือกที่ถูกล่า และราคาที่ต้องจ่าย เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา หลายท่านคงได้เห็นภาพข่าวนกเงือกถูกยิงที่เกาะช้าง ข่าวนี้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้มีจิตใจรักษ์สัตว์ป่าไม่น้อย แม้เราหลายคนจะตระหนักดีว่า ป่าต้องการนกเงือก แต่กลับกัน ‘นกเงือก’ ก็เป็นที่ต้องการของตลาดค้าสัตว์ป่านกเงือก มีราคาซื้อขายในตลาดค้าสัตว์ป่าค่อนข้างสูง ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น และตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีการจับกุมในคดีที่เกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายนกเงือกอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะล่าด้วยเหตุผลอันใด ล้วนแต่ต้องจ่ายคืนให้ธรรมชาติ เพราะนกเงือกเป็นร่มเงาของสัตว์ป่า
เว็บไซต์มูลนิธิวิจัยนกเงือก ให้ข้อมูลไว้ว่า บทบาทเด่นของนกเงือกในระบบนิเวศป่า คือ ช่วยกระจายพันธุ์ไม้กว่า 200 ชนิดที่มีประสิทธิภาพมาก เนื่องจากพฤติกรรมการเลือกกินผลไม้ที่สุก และนำพาเมล็ดไปทิ้งในพื้นที่ต่างๆ จึงเป็นตัวช่วยปลูกป่าและปลูกแหล่งอาหาร ทั้งของนกเงือกและสัตว์ป่าอื่นๆ และยังรักษาความหลากหลายของพืชและสัตว์ จึงจัดเป็นชนิดพันธุ์ที่เป็นร่มเงาให้กับสัตว์ชนิดอื่น (umbrella specie) ทำให้สังคมพืชเกิดความสมดุล และช่วยควบคุมประชากรสัตว์ขนาดเล็ก เช่น แมลง และหนู เป็นต้น”
ประกอบกับนิสัยการผสมพันธุ์ของนกเงือก ที่จับคู่เพียงผัวเดียวเมียเดียว และการทำรังที่ตัวเมียจะต้องสลัดขนทิ้งทั้งตัว เพื่อรองรังให้ลูกน้อย การปิดปากโพรงเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูตามธรรมชาติสามารถมาทำร้ายเมียและลูกน้อยได้ง่ายๆ พ่อนกจึงมีหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง หากนกเงือกตัวผู้ถูกล่า อนุมานได้เลยว่า เราจะเสียนกเงือกตามไปอีก 2 ตัว น่าเศร้าที่เรารู้ แต่เรากลับไม่ตระหนักถึงคุณค่าที่มีต่อระบบนิเวศ เรามองแค่คุณค่าและราคาที่จะได้รับจากการซื้อขายในตลาดเท่านั้น
มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก พบว่า นกเงือกในธรรมชาติอาจมีอายุราวๆ 30 ปี แต่ละตัวสามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ได้มากกว่า 100 ต้นต่อสัปดาห์ ต้นไม้เหล่านี้มีอัตราเติบโตประมาณร้อยละ 5 ดังนั้น ตลอดช่วงอายุขัยของนกเงือก 1 ตัว จึงปลูกต้นไม้ได้ถึง 500,000 ต้น ลองคิดดูว่า นกเงือกที่ถูกล่าเพียง 1 ตัวในเขตอุทยานแห่งชาติเกาะช้าง จะตัดวงจรการปลูกต้นไม้ให้ผืนป่าไปมากเท่าไร? นั่นคือผลลัพธ์ของราคาที่เราต้องจ่ายคืนให้กับธรรมชาติ
อนึ่ง เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ รายงานอาการของนกเงือกตัวดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 63 ว่า “มีอาการอ่อนแรง ยังตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ พบบาดแผลบริเวณโหนก เป็นร่องรอยทะลุ ลำคอบิดผิดรูป และไม่สามารถทรงตัวได้ สัตวแพทย์ได้ทำการให้ยาลดปวดประคองอาการ ใช้ผ้าปูรองประคองตัวนก ปิดตาเพื่อลดอาการตื่นตกใจ และลดการดิ้นกระแทก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับนกได้”
รายงานเพิ่มเติมวันที่ 23 พ.ย. 63 ... นกเงือกมีตากระตุกซ้ายขวามากขึ้น ซึ่งเป็นอาการทางระบบประสาท ซึ่งอาจเกิดจากก้านสมอง ส่วน pons เสียหายลุกลาม แต่มีอาการชักลดลง สามารถกินไข่แดงผงชงกับน้ำอุ่นที่ป้อนได้ ซึ่งอาการดังกล่าวยังต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และยังคงต้องประเมินอาการวันต่อวัน ทั้งนี้ ได้ขอความอนุเคราะห์ฝากรักษาที่ รพส.เนินพลับหวาน จนกว่าอาการจะดีขึ้น จากนั้นจะนำส่งเพื่อดูแลต่อที่ โรงพยาบาลสัตว์ป่า สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระต่อไป”
คลิกโพสต์ต้นฉบับ
