กรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ แจ้งความคืบหน้าคดีอดีตรองผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายบัญชีสมาคมฯ มีเจตนาโดยทุจริตลักทรัพย์ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง ล่าสุด ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ร 3530/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ร 3657 / 2563 ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่สมาคมฯ กว่า 16.2 ล้านบาท
วันนี้ (10 พ.ย.) คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ส่งจดหมายถึง สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ระบุข้อความว่า “กรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ แจ้งความคืบหน้าคดี นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ อดีตรองผู้จัดการและผู้จัดการ ฝ่ายบัญชีสมาคมฯ มีเจตนาโดยทุจริตลักทรัพย์ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง ล่าสุด ศาลแรงงานกลางมีคําพิพากษาในคดีแพ่ง หมายเลขดําที่ ร 3530/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ร 3657/2563 ให้จําเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่สมาคมฯ กว่า 16.2 ล้านบาท”
คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ขอแจ้งความคืบหน้าของคดีกรณีพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ อดีตเจ้าหน้าที่รองผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายบัญชีสมาคมฯ ในข้อหาคดีปลอมแปลงเอกสารและทุจริต ลักทรัพย์ของสมาคมฯ ในฐานะนายจ้างซึ่งเป็นการกระทําผิดอาญาซึ่งหน้ามีหลักฐานแจ้งชัด กรรมการสมาคมฯ จึงได้ดําเนินการไล่ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ ออกจากงาน และได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจนครบาลพหลโยธิน ปัจจุบันคดีอาญาดังกล่าวพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาแล้ว เป็นคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ 537/2563 ความเสียหายประมาณ 17.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเมื่อคณะกรรมการสมาคมฯ ได้ว่าจ้างบริษัทบัญชีทําการตรวจสอบสอบบัญชีทั้งหมดย้อนหลัง พบว่า มีความเสียหายเพิ่มอีกประมาณ 13.8 ล้านบาท นายกสมาคมฯ จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ปี 2563 และคณะกรรมการสมาคมฯ ได้มีมติให้ว่าจ้างทนายความดําเนินคดีแพ่งและคดีอาญาแก่ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ เป็นจําเลยต่อศาล แยกจากคดีอาญาของพนักงานอัยการเพื่อให้ศาลมีคําพิพากษาโดยเร็วแล้วออกคําบังคับเพื่อนเจ้าพนักงานบังคับ คดียึดอายัดทรัพย์สินของจําเลยนําออกขายทอดตลาดนําเงินมาชําระคืนให้แก่สมาคมฯตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทนายความได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งหมายเลขคดีคําที่ ร 3530/2563 ต่อศาลแรงงานกลางระหว่าง สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดย นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ (โจทก์) นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ (จําเลย) ศาลแรงงานกลางได้นัดสืบพยานโจทก์ (สมาคมฯ) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ทนายความได้นํา นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร อุปนายก 1, นางสาวจินตนา สื่อสกุลโชคชัย นักบัญชี เข้าสืบข้อเท็จจริงต่อศาลแรงงานกลางและในวันดังกล่าวศาลแรงงานกลางได้มีคําพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ ร 3657/2563 พิพากษาให้สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจเป็นฝ่ายชนะคดี โดยพิพากษาให้ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ จําเลย ชําระเงินคืนให้แก่สมาคมเป็นเงินจํานวน 16,248,419 บาท (สิบหกล้านสองแสนสี่หมื่นแปดพันสี่ร้อยสิบเก้าบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นจํานวน 13,896,971.69 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะชําระเสร็จสิ้นแก่สมาคมฯ หลังจากสมาคมฯได้รับคําพิพากษาแล้วจะดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนการดําเนินคดีอาญาในส่วนความเสียหายที่ตรวจพบใหม่นั้น คณะกรรมการสมาคมฯ ได้มีมติว่าจ้างทนายความดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีอาญาและทนายความได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาแล้ว เป็นคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ 2181/2563 ระหว่าง สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดย นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ (โจทก์) นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ (จําเลย) ซึ่งศาลอาญาได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เช่นเดียวกัน
คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ขอยืนยันว่า จะไม่นิ่งนอนใจ และจะดําเนินคดีแก่จําเลยให้ถึงที่สุดหาก คดีมีความคืบหน้าประการใด คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จะรายงานให้สมาชิกสมาคมฯ ทราบต่อไป
วันนี้ (10 พ.ย.) คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ส่งจดหมายถึง สมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ระบุข้อความว่า “กรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ แจ้งความคืบหน้าคดี นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ อดีตรองผู้จัดการและผู้จัดการ ฝ่ายบัญชีสมาคมฯ มีเจตนาโดยทุจริตลักทรัพย์ของสมาคมฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง ล่าสุด ศาลแรงงานกลางมีคําพิพากษาในคดีแพ่ง หมายเลขดําที่ ร 3530/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ร 3657/2563 ให้จําเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่สมาคมฯ กว่า 16.2 ล้านบาท”
คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ขอแจ้งความคืบหน้าของคดีกรณีพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ อดีตเจ้าหน้าที่รองผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายบัญชีสมาคมฯ ในข้อหาคดีปลอมแปลงเอกสารและทุจริต ลักทรัพย์ของสมาคมฯ ในฐานะนายจ้างซึ่งเป็นการกระทําผิดอาญาซึ่งหน้ามีหลักฐานแจ้งชัด กรรมการสมาคมฯ จึงได้ดําเนินการไล่ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ ออกจากงาน และได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจนครบาลพหลโยธิน ปัจจุบันคดีอาญาดังกล่าวพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาแล้ว เป็นคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ 537/2563 ความเสียหายประมาณ 17.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเมื่อคณะกรรมการสมาคมฯ ได้ว่าจ้างบริษัทบัญชีทําการตรวจสอบสอบบัญชีทั้งหมดย้อนหลัง พบว่า มีความเสียหายเพิ่มอีกประมาณ 13.8 ล้านบาท นายกสมาคมฯ จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ปี 2563 และคณะกรรมการสมาคมฯ ได้มีมติให้ว่าจ้างทนายความดําเนินคดีแพ่งและคดีอาญาแก่ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ เป็นจําเลยต่อศาล แยกจากคดีอาญาของพนักงานอัยการเพื่อให้ศาลมีคําพิพากษาโดยเร็วแล้วออกคําบังคับเพื่อนเจ้าพนักงานบังคับ คดียึดอายัดทรัพย์สินของจําเลยนําออกขายทอดตลาดนําเงินมาชําระคืนให้แก่สมาคมฯตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทนายความได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแพ่งหมายเลขคดีคําที่ ร 3530/2563 ต่อศาลแรงงานกลางระหว่าง สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดย นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ (โจทก์) นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ (จําเลย) ศาลแรงงานกลางได้นัดสืบพยานโจทก์ (สมาคมฯ) ในวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ทนายความได้นํา นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย นายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร อุปนายก 1, นางสาวจินตนา สื่อสกุลโชคชัย นักบัญชี เข้าสืบข้อเท็จจริงต่อศาลแรงงานกลางและในวันดังกล่าวศาลแรงงานกลางได้มีคําพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ ร 3657/2563 พิพากษาให้สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจเป็นฝ่ายชนะคดี โดยพิพากษาให้ นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ จําเลย ชําระเงินคืนให้แก่สมาคมเป็นเงินจํานวน 16,248,419 บาท (สิบหกล้านสองแสนสี่หมื่นแปดพันสี่ร้อยสิบเก้าบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นจํานวน 13,896,971.69 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะชําระเสร็จสิ้นแก่สมาคมฯ หลังจากสมาคมฯได้รับคําพิพากษาแล้วจะดําเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายในบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนการดําเนินคดีอาญาในส่วนความเสียหายที่ตรวจพบใหม่นั้น คณะกรรมการสมาคมฯ ได้มีมติว่าจ้างทนายความดำเนินการฟ้องร้องเป็นคดีอาญาและทนายความได้ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาแล้ว เป็นคดีอาญาหมายเลขดําที่ อ 2181/2563 ระหว่าง สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดย นายถิรพุทธิ์ เปรมาประยูรวงศา นายกสมาคมฯ (โจทก์) นางสาวกุศลิน นามวัฒน์ (จําเลย) ซึ่งศาลอาญาได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เช่นเดียวกัน
คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจปี 2563 ขอยืนยันว่า จะไม่นิ่งนอนใจ และจะดําเนินคดีแก่จําเลยให้ถึงที่สุดหาก คดีมีความคืบหน้าประการใด คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จะรายงานให้สมาชิกสมาคมฯ ทราบต่อไป