ศาลอาญาให้ไกล่เกลี่ย-ถอนฟ้อง คดี “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ฟ้องหมิ่น “วัชระ เพชรทอง” พาดพิงแทรกแซงเลือกหัวหน้าพรรค ด้าน “วัชระ” ยอมรับหมิ่นประมาทจริง แจงไม่เคยลืมบุญคุณ พร้อมขอโทษผ่านสื่อ
วันนี้ (10 พ.ย.) ศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกคดีที่ อ.1073/2562 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับสื่อในเครือผู้จัดการ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328
กรณีเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2562 นายวัชระได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกล่าวหานายสุเทพว่าแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรค ปชป. และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเงิน ทั้งที่นายสุเทพได้ก่อตั้งพรรคใหม่แล้ว กลับหาว่าไปแทรกแซงพรรคเดิมซึ่งผิดกฎหมาย ทำให้นายสุเทพเกิดความเสียหาย
วันนี้ นายสุเทพ โจทก์ พร้อมทนายความ นายถาวร เสนเนียม พยานโจทก์ รวมทั้งจำเลยที่ 1 และทนายจำเลย 1-3 มาศาล โดยก่อนเริ่มพิจารณาคดี ศาลได้ไกล่เกลี่ยคู่ความ โดยนายสุเทพ โจทก์ แถลงว่าหากนายวัชระ จำเลยที่ 1 ยอมรับต่อหน้าศาลว่าจำเลยที่ 1 ได้หมิ่นประมาทโจทก์ตามฟ้องจริงและยอมรับสารภาพผิดต่อหน้าศาล และให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าศาลว่าจำเลยที่ 1 จะไม่วิพากษ์วิจารณ์โจทก์ทำให้โจทก์เสียหายอีก พร้อมทั้งโฆษณาขอขมาโจทก์ให้ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไปแล้วโจทก์จะไม่ติดใจดำเนินคดีต่อจำเลยทั้งสาม และจะถอนฟ้องจำเลยในคดีนี้
ด้านนายวัชระ จำเลยที่ 1 แถลงว่า โจทก์เป็นผู้มีพระคุณตั้งแต่ในอดีต ที่ได้สนับสนุนให้เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร ตามที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 นั้น ขอรับสารภาพต่อหน้าศาลว่าได้กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้องจริง และขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์โจทก์ในทางเสียหายอีก และจะลงโฆษณาขอขมาโจทก์ให้โจทก์ตามที่ต้องการ
ขณะที่นายถาวรแถลงต่อศาลว่า ตนเองก็ได้รับความเสียหายจากการกระทำของนายวัชระ จำเลยที่ 1 แต่เมื่อโจทก์ไม่ติดใจก็ให้เป็นไปตามเจตนาของโจทก์ และจำเลยที่ 1 ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่วิพากษ์วิจารณ์นายถาวรในทางเสียหายอีกเช่นกัน จำเลยที่ 2 ที่ 3 ตกลงนำข้อความตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้ไปลงในสื่อของผู้จัดการเป็นระยะเวลา 7 วัน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อคดีตกลงกันได้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ดังนั้น ในส่วนของจำเลยจึงให้ไปดำเนินการตามที่แถลงเรื่องขอขมาโจทก์ ส่วนในทางคดีนี้โจทก์พอใจแล้วและคู่ความอื่นไม่คัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์จึงให้จำหน่ายคดีโจทก์ออกจากสารบบความ และให้ยกเลิกวันนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย