อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ “ม็อบ 3 นิ้ว” ยื่นหนังสือถึงสถานทูตเยอรมนีจี้ตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจบนดินแดนของเยอรมนี หวังทางการเยอรมนีคงไม่บ้าจี้ตามม็อบ ชี้ไทย-เยอรมนีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ลั่น พฤติกรรมของม็อบกล่าวหาพระเจ้าแผ่นดินอย่างมีอคติ เข้าข่ายผิดกฎหมาย
จากกรณี “ม็อบราษฎร” อ่านแถลงการณ์พร้อมยื่นหนังสือต่อสถานทูตเยอรมนี ตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจบนดินแดนของเยอรมนี โดย น.ส.ภัสราวลีได้ขึ้นปราศรัยต่อผู้ชุมนุมเผยว่าทางสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยรับปากจะส่งข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมไปยังรัฐบาลเยอรมนีเพื่อให้พิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งทางผู้ชุมนุมจะรอดูต่อไป ถ้ายังไม่มีการตอบสนองก็จะมาเจอกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (27 ต.ค.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Nantiwat Samart” โพสต์ข้อความถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกว่า “ม็อบร้อยชื่อ” ยื่นหนังสือต่อสถานทูตเยอรมนีจี้ตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจบนดินแดนของเยอรมนีว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดย นายนันทิวัฒน์ได้ระบุข้อความว่า
“มันมากเกินไป
เมื่อวานนี้ ม็อบร้อยชื่อชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีที่ถนนสาทร พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เนื้อหาในจดหมายเป็นการใส่ร้าย กล่าวหาพระเจ้าแผ่นดินอย่างมีอคติชัดเจน เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 6 บัญญัติชัดเจนว่า องค์พระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดมิได้ หรือแม้แต่รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2475 ฉบับที่คณะราษฎรจัดทำขึ้น มาตรา 3 ก็บัญญัติไว้ในทำนองเดียวกัน ไม่ผิดเพี้ยน
กลุ่มม็อบกล่าวหา จาบจ้วงอย่างรุนแรง ไร้หลักฐาน ไม่มีมูลความจริงว่าองค์พระประมุขบังคับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองให้สูญหาย กล่าวหาว่าองค์พระประมุขสั่งราชการจากแผ่นดินเยอรมนี และเรียกร้องให้ทางการเยอรมนี PNG. ในหลวง
คนเยอรมันและรัฐบาลเยอรมนีมีความสัมพันธ์และมีความเข้าอกเข้าใจคนไทยเป็นอย่างดี คนเยอรมันมีความรู้สึกที่ดีๆ กับคนไทยและราชวงศ์ นับตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จฯ ประทับเยอรมนีสองครั้ง ตลอดจนการเสด็จเยือนเยอรมนีของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙ ตลอดจนการเสด็จฯ ประทับเยอรมนีของในหลวงองค์ปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นความลับและได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลและคนเยอรมัน ตลอดจนรัฐบาลรัฐบาวาเลีย
การ PNG. จะกระทำต่อนักการทูตและบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐเจ้าของดินแดน และทางการเยอรมนีคงไม่บ้าจี้
ข้อกล่าวหาว่า องค์พระประมุขทรงสั่งราชการจากแผ่นดินเยอรมนี ต้องเข้าใจให้ตรงกันนะ องค์พระประมุขทรงอยู่เหนือการเมือง ไม่ได้ทรงบริหารราชการแผ่นดินใดๆ เลย การลงพระปรมาภิไธยต่อกฎหมายใดๆ เป็นราชภารกิจในแบบพิธีเท่านั้น ไม่ใช่ในเนื้อหาของการบริหารราชการ ทรงทำในฐานะประมุข มิใช่ผู้บริหารรัฐบาลแบบประธานาธิบดี
ส่วนข้อกล่าวหาในเรื่องมาตรา 112
ลุงตู่ก็ชี้แจงผ่านสื่อและรับรู้กันทั่วไปอยู่แล้วว่า ในหลวงไม่มีพระประสงค์ให้ดำเนินคดีกล่าวโทษผู้ใดในความผิดตามมาตรา 112 และตั้งแต่มีการม็อบมาจนถึงปัจจุบัน มีหลายเหตุการณ์ที่หมิ่นเหม่ว่าจะผิดตามมาตรา 112 แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยกล่าวโทษใครในความผิดมาตราดังกล่าวเลย คนทั่วประเทศ กลุ่มพลังเงียบได้เคลื่อนไหวแสดงตัว ประกาศความจงรักภักดีให้เห็นแล้ว คนส่วนใหญ่ของประเทศยังต้องการรักษาไว้ซึ่งสถาบันกษัตริย์ ใครจะคิดล้มล้างเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
มันมากเกินไป
เมื่อวานนี้ ม๊อบร้อยชื่อชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมันที่ถนนสาธร...โพสต์โดย Nantiwat Samart เมื่อ วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2020