พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรชาวจังหวัดสกลนครและพื้นที่ใกล้เคียง ที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดสร้างความปลาบปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรในพื้นที่เป็นล้นพ้น โดยพสกนิกรต่างเปล่งเสียงถวายพระพร ดังกึกก้อง
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เสร็จแล้ว ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรชาวจังหวัดสกลนครและพื้นที่ใกล้เคียง ที่มารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดสร้างความปลาบปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรในพื้นที่เป็นล้นพ้น โดยพสกนิกรต่างเปล่งเสียงถวายพระพร ดังกึกก้อง ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ระหว่างวันที่ 15-20 ตุลาคม 2563 และประทับแรม ณ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร
ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร และโรงพยาบาลในพื้นที่ ออกหน่วยตรวจรักษาโรคและให้บริการทันตกรรมแก่ราษฎร ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปีการศึกษา 2559 ถึง 2560 ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณสุข
โดยตั้งแต่ออกหน่วยแพทย์พระราชทาน วันที่ 15 ถึง 20 ตุลาคม 2563 มีผู้เข้ารับบริการ รวม 2,040 คน ส่วนมากป่วยด้วยโรคตา โรคกระดูกและกล้ามเนื้อโรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคระบบหัวใจ ซึ่งทรงรับคนไข้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวม 20 คน พร้อมกันนี้ ยังได้พระราชทานอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็น วันละ 2,000 ชุด สร้างความปลาบปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ราษฎรในพื้นที่เป็นล้นพ้น
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนครห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร อยู่ติดบริเวณเทือกเขาภูพานในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานริมทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 บริเวณกิโลเมตรที่ 14 ซึ่งตำแหน่งของพระตำหนักนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2518 ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีชมพูที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กบดานหลบซ่อนอยู่ อันแสดงให้เห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมิได้ทรงหวั่นต่อเหตุการณ์บ้านเมืองที่ไม่น่าไว้วางพระหทัย หากแต่พระองค์มีพระราชประสงค์จะปกป้องชุมชน พื้นที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม และอำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีแดงเทือกเขาภูพานให้พ้นจากภัยคุกคามของผู้ก่อการร้าย และยังใช้เป็นที่ประทับแรมแปรพระราชฐานในการเยี่ยมเยียนราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ