2 ผู้ต้องหาคดีประทุษร้ายพระราชินี “บุญเกื้อหนุน” ได้ประกันตัวแล้ว โดยศาลตีราคาประกัน 2 แสนบาท ส่วน “เอกชัย” ญาตินำพันธบัตรรัฐบาลแต่ไม่ได้เตรียมหนังสือรับรองมาจึงวืด ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้าน “สมยศ” คดีมาตรา 116 ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
วันที่ 17 ต.ค. 63 พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ควบคุมตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน และนายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง ผู้ต้องหาในคดีประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ต.ค. 2563 โดยศาลอาญาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน
ต่อมามารดาของนายบุญเกื้อหนุนได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอประกันตัว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน เข้าพบพนักงานสอบสวนเองโดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับผู้ต้องหากำลังศึกษาเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ จึงมีเหตุสมควรให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาไปกระทำการใดในลักษณะเช่นนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะพิจารณาเพิกถอนการประกันตัว
ในส่วนของนายเอกชัย หงส์กังวาน ก่อนหน้านี้ญาติของนายเอกชัยได้เตรียมพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวนายเอกชัย แต่ไม่ได้เตรียมหนังสือรับรองมาแสดงต่อศาล จนกระทั่งหมดเวลาทำการ 16.30 น.จึงไม่ได้ยื่นประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนายเอกชัยไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในชั้นฝากครั้งนี้ต่อไป
ทางด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดียุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 แม้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ใช้ตำแหน่ง ส.ส.เป็นหลักทรัพย์ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนายสมยศ แต่ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อความมั่นคงและสังคมส่วนรวม ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวอาจจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น หรือไปมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันอีก จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงยกคำร้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายสมยศไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป