“รมต.อนุชา” มอบโล่-ตรารับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกปี 63 หวังให้พัฒนาการบริการสู่ความเป็นเลิศในรูปแบบของราชการดิจิทัล เน้นสร้างความน่าเชื่อถือ สะดวก รวดเร็ว ปชช.เข้าถึงง่าย
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่น ชั้น 4 อาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กทม. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีมอบโล่และตรารับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี พ.ศ. 2563 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวกประจำปี พ.ศ. 2563 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการให้บริการประชาชนของหน่วยงานของรัฐที่มีการให้บริการ ด้วยความ “สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย” ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ส่วนราชการบริการพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการ เพราะข้าราชการคือกำลังหลักคือหัวใจสำคัญของหน่วยงาน ซึ่งภาครัฐต้องดูแลข้าราชการให้ดีที่สุดเช่นกัน เพราะในที่สุดแล้วการบริการดังกล่าวจะเป็นดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของประชาชนต่อรัฐบาลและระบบราชการ โดยในปีนี้มีหน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน จำนวน 455 ศูนย์ ได้แก่ หน่วยงานราชการ จำนวน 143 ศูนย์ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจำนวน 312 ศูนย์
โอกาสนี้ นายอนุชาได้กล่าวแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ได้รับโล่และตรารับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี พ.ศ. 2563 และขอให้ผู้บริหารแต่ละหน่วยงานตระหนักในการมุ่งมั่นพัฒนาปรับปรุงและรักษามาตรฐานการให้บริการประชาชนของศูนย์ราชการสะดวกให้ยั่งยืนตลอดไป
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาการบริการประชาชนโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเน้นการปรับเปลี่ยนราชการสู่ความเป็นดิจิทัล โดยใชเนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างโปร่งใส ให้ประชาชนเข้าถึงง่าย รวดเร็ว แม่นยำ ลดความซ้ำซ้อน และสามารถเชื่อมโยงการบริการของหน่วยงานรัฐได้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งการปรับเปลี่ยนราชการสู่ความเป็นดิจิทัลมีพื้นฐานสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1. การบูรณาการภาครัฐ 2. การดำเนินงานแบบอัจฉริยะ 3. การให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ 4. การสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ การขับเคลื่อนสู่การเป็นราชการดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญในการเสริมให้การบริการประชาชน เกิดความ “สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย”
“การดำเนินการศูนย์ราชการสะดวกเป็นการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการและประชาชนสามารถเข้าถึงการใหเบริการของภาครัฐ เป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปการทำงานของราชการ หน่วยงานที่ได้รับการรับรองฯ ต้องรักษาการบริการให้มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ และพัฒนาแนวทางหรือนวัตกรรมใหม่มาปรับใช้ในการบริการประชาชนเพื่อพัฒนาการบริการสู่ความเป็นเลิศในรูปแบบของราชการดิจิทัลมากขึ้น เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ ทำใหเประชาชนเชื่อมั่นว่าสถานที่ดังกล่าวสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงง่าย ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี” นายอนุชา ระบุ.