“กรมการแพทย์” เผยการงีบหลับระหว่างวันช่วยลดความอ่อนเพลีย ไม่ยืนยันป้องกันโรคสมองเสื่อม

“กรมการแพทย์” ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการแอบงีบหลับระหว่างวัน สามารถช่วยลดความอ่อนเพลียของร่างกายได้ แต่ตามที่มีการแชร์ว่าสามารถป้องกันโรคสมองเสื่อมได้นั้น ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ยืนยันว่าสามารถรักษาได้

วันนี้ (1 ก.ย.) เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ได้ออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หลังมีการแชร์ข้อความในโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการหลับระหว่างวันจะช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ ซึ่งทางเพจ “Anti-Fake News Center Thailan“” ได้นำข้อมูลมาจาก “กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข” เพื่อมาให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ซึ่งได้ระบุข้อความว่า

“ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องงีบหลับระหว่างวัน ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลบิดเบือน

จากที่มีการแชร์ประโยชน์ของการงีบหลับระหว่างวัน โดยระบุว่า ถ้างีบหลับ 60 นาทีขึ้นไปจะช่วยทำให้มีความจำดีขึ้น หรือช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้นั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่สามารถนำมายืนยันได้ว่าการงีบหลับระหว่างวันช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ ซึ่งการงีบระหว่างวัน มีประโยชน์ในการลดความอ่อนเพลีย ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ไม่ควรงีบนานเกินไป โดยปกติแนะนำประมาณ ไม่เกิน 20 นาที หากงีบนานเกินไป อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อการนอนหลับปกติในช่วงกลางคืนได้ และควรหลีกเลี่ยงการงีบในช่วงเวลา 18.00-19.00 น. หรือช่วงเวลาโพล้เพล้ เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการสับสนได้ง่าย และจะทำให้ในคืนนั้นนอนหลับได้ยาก

ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือ โทร. 0-2590-6000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การงีบระหว่างวันมีประโยชน์ในการลดความอ่อนเพลีย ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ยืนยันว่าการงีบหลับระหว่างวันช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมได้”

ข่าวบิดเบือน งีบหลับระหว่างวัน ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม
.
ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความในสื่อต่างๆ...โพสต์โดย Anti-Fake News Center Thailand เมื่อ วันพุธที่ 30 กันยายน 2020