ขุดโพสต์ “#ตามหาลูกประยุทธ์” ที่ “ผู้ต้องหา” อ้างว่าแค่ตั้งคำถาม พบกล่าวหาเสร็จสรรพว่า “โกงชาติ-อยู่เมืองนอก” ด่ากราด “แฝดนรก” ทั้งที่ “ลูกบิ๊กตู่” แจงชัดว่า ไม่เคยเรียนนอก-อยู่ไทยตลอด แถมเจอจี้ปม “แอ๊บเด็ก” จนไปไม่เป็น พรรคพวกต้องช่วยแก้เกี้ยว “ชุดแฟนซี”
จากกรณีที่กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาในคดีโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์บุตรสาวฝาแฝดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยใช้แฮชแท็ก “#ตามหาลูกประยุทธ์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 14 ก.ย.63 โดยกลุ่มผู้ถูกกล่าวหาส่วนใหญ่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทเป็นเพียงการตั้งคำถาม แต่กลับถูกผู้มีอำนาจใช้กฎหมายปิดปากนั้น
ทั้งนี้ น.ส.สุภาภรณ์ โพธิ์ศรี หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาระบุเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ตอนหนึ่งว่า “เรามีเจตนาบริสุทธิ์ และนายกฯก็เป็นบุคคลสาธารณะ พวกเราแสดงความคิดเห็นตามความรู้สึก และรับฟังจากข่าวมา ท่านนายกฯเคยบอกว่าประเทศไทยน่าอยู่ แต่ทำไมลูกสาวนายกฯถึงไม่อยู่ประเทศไทย อันนี้แค่ถามเฉยๆ”
พร้อมกล่าวด้วยว่า พวกเราถูกหมายเรียกรับทราบในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับข้อหาหมิ่นประมาท แต่เมื่อมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาได้ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทเท่านั้น ในกรณีนี้ตนแสดงความคิดเห็นในโพสต์เกี่ยวกับการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ ไปยังบุตรสาวตามที่มีกระแสข่าวจริงหรือไม่ รวมถึงบุคคลทั้งสองอยู่ที่ไหน เหตุใดไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทเป็นเพียงการตั้งคำถามเท่านั้น เข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลสาธารณะ เหตุใดต้องลดตัวลงมาคุกคามประชาชนตัวเล็กๆ แล้วพวกตนก็ไม่ได้ทั้งคำตอบและยังถูกหมายเรียกอีก
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.สุภาภรณ์ ได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์ข้อความเกี่ยวกับแฮชแท็ก “#ตามหาลูกประยุทธ์” ในลักษณะเดียวตามกลุ่มปิดและกลุ่มเปิดในเฟซบุ๊กหลายกลุ่ม อาทิ “เยาวชนปลดแอก - FreeYouth” และ “ผู้ปกครองเยาวชนปลดแอก” เป็นต้น โดยระบุว่า “...ตู่เคยให้สัมภาษณ์ว่า "อย่ายุ่งกับเค้า" แต่มึงไปคุกคามลูกคนอื่นนะคะ...ตู่ #ตามหาลูกประยุทธ์ ตามหา...แฝดนรก ...เงินภาษีคน ไทยเอาไปใช้ในต่างประเทศ โดยมีพ่อนี่เป็นนายกส่งให้ใช้ เอาเงินที่โกงประเทศชาติส่งลูกเรียนเมืองนอก น่าภูมิใจนะลูกประยุทธ์ ด่าคนอื่นว่าไปอยู่เมืองนอกทำไม แต่มึง...ให้ลูกมึงไปอยู่เมืองนอกทำไมละคร้า..บิดาแห่งวงการย้อนแย้ง”
อย่างไรก็ดี สำหรับประเด็นการศึกษาและพำนักอยู่ที่ต่างประเทศนั้น เมื่อวันที่ 2 ก.ย.63 ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวฝาแฝดของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อ่านแถลงการณ์ของ น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา ที่ชี้แจงข้อเท็จจริง 10 ประเด็น โดยปฏิเสธว่า จบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเท่านั้น ไม่เคยศึกษาใดๆในต่างประเทศ รวมทั้งยังใช้ชีวิตตามปกติอย่างประชาชนทั่วไปในประเทศไทยมาโดยตลอด ไม่เคยมีคฤหาสน์หรูที่ประเทศอังกฤษตามที่ถูกกล่าวหา
นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.สุภาภรณ์ ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กหลังจากได้รับหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระบุข้อความว่า “#ตามหาลูกประยุทธ์ เป็นเหตุ แบบนี้มันเกินไปไหม ประชาชนจะคิดต่างหรือตั้งคำถามไม่ได้ใช่ไหม #หยุดคุกคามประชาชน เป็นเอามากนะทั้งพ่อทั้งลูกแล้วตอนนี้”
Security Check Required
null
โดย เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ตอบโต้ว่า “การที่ไปด่าและให้ร้ายลูกนายกฯด้วยข้อมูลเท็จ คือการคุกคามเขาหรือไม่ ลูกนายกฯ ถูกใส่ร้าย หมิ่นประมาท จึงไปแจ้งความดำเนินคดี หมายเรียกจึงถูกส่งไปถึงทุกคน ที่ให้ร้าย ด่าทอ หรือหมิ่นประมาทเขา คือ ตนเองทำผิดกฎหมาย ถึงมีหมายเรียก แต่กลับบอกว่าถูกคุกคาม หาว่ารัฐคุกคามประชาชน ตรรกะคนสมัยนี้น่าเวียนหัวมาก ไปด่าเขา พอเขาแจ้งความ กลับบอกว่าตนเองตั้งคำถาม แค่คิดต่าง กลับบอกว่าตนเองถูกคุกคาม แล้วไอ้ที่ตนเองไปด่าเขา ให้ร้ายเขานั้น เรียกว่าไปคุกคามเขา เรียกว่าหมิ่นประมาทเขาหรือเปล่า เขาเรียกว่า ทำผิดกฎหมาย ไม่ใช่ถูกคุกคาม”
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าพยายามทำให้ผู้สนับสนุนเข้าใจว่าเป็นเด็กนักเรียนมัธยม ทั้งที่มีอายุ 31 ปี และเคยทำงานเป็นพนักงานประจำห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งนั้น เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถาม น.ส.สุภาภรณ์ เช่นกัน แต่เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า “หนูเป็นคนบ้านนอก แต่ทำไมถึงถูกคนที่มีอำนาจ ใช้กฎหมายมาคุกคามคนตัวเล็กๆ ทำให้พวกหนูหวาดกลัว ต้องออกมาสู้ โดยยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง กฎหมายปิดปาก ไม่ให้คิดไม่ให้แสดงออก ไม่ให้เราตั้งคำถาม”
เมื่อพยายามถามย้ำว่าเป็นคนเดียวกับที่ไลฟ์สดและระบุว่าตัวเองเป็นเด็กนักเรียนหรือไม่ น.ส. สุภาภรณ์ ก็ตอบคล้ายเดิมว่า ที่ไลฟ์สดนั้นหมายถึงว่า เราเป็นคนบ้านนอก แต่ทำไมถึงถูกคนที่มีอำนาจใช้กฎหมายมาคุกคามคนตัวเล็กๆ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำถึงภาพที่ใส่ชุดนักเรียนระดับมัธยมศึกษาใช้ตัว น.ส.สุภาภรณ์ หรือไม่ เจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม จนมีผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาว่า เป็นเพียงชุดแฟนซีที่น้องถ่ายเก็บไว้
จากนั้น น.ส.สุภาภรณ์ จึงกล่าวว่า เป็นกิจกรรมวันเด็กของที่ทำงานเก่า ที่ได้ลาออกมานานแล้ว แต่โพสต์ไว้เมื่อไรไม่ทราบ และอาจจะด้วยหน้าตาทรงผมที่อาจดูเหมือนเด็ก จึงถูกนำไปตีความเอาเอง หาว่าแอบอ้างว่าเป็นเด็กนักเรียน ส่วนตัวไม่เคยพูดว่าเป็นเด็กมัธยม.