xs
xsm
sm
md
lg

“หญิงหน่อย VS ก้าวไกล” แข่งชิงมวลชน “ม็อบปลดแอก” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ “อานนท์-ไมค์”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักการเมืองซีกฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล แข่งกันชิงมวลชนม็อบปลดแอก เมื่อคืนที่ผ่านมา “หญิงหน่อย” นำทีม ส.ส.กทม. ไปที่ สน.บางเขน วอนรัฐบาลเมตตาเลี่ยงน้ำผึ้งหยดเดียวปิยบุตร ดอดให้กำลังใจ 2 แกนนำ สน.ห้วยขวาง พรรคก้าวไกลนำ ส.ส.9 คน ใช้ตำแหน่งประกันตัว ออกแถลงการณ์จี้หยุดดำเนินคดีทันทีแล้วแก้รัฐธรรมนูญ

วันนี้ (8 ส.ค.) จากกรณีที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชนและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และแนวร่วมกลุ่มเยาวชนปลดแอก ดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ข้อหามั่วสุมและอื่นๆ รวม 7 ข้อหา แต่ศาลอาญามีคำสั่งคืนร้องให้พนักงานสอบสวนผู้ร้องและให้รับตัวผู้ต้องหาคืน เนื่องจากยื่นคำร้องเกินเวลาราชการ โดยให้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกภายใน 48 ชั่วโมงตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อคืนที่ผ่านมา นักการเมืองซีกฝ่ายค้านที่อยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่างออกมาเคลื่อนไหว เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพขณะที่ตนเองได้เดินทางไปที่ สน.บางเขน พร้อมกับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ส.ส.กทม. รวมทั้ง ส.ส. และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าไปเพื่อดูแลความปลอดภัยให้น้องๆ นักเรียน นิสิตนักศึกษาอยูขณะนี้ โดยพรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีอีกครั้งให้หยุดคุกคามประชาชน โดยเฉพาะนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการแสดงออกถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญ

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเพื่อให้ตระหนักว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนรวมทั้งต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และที่สำคัญที่สุดคือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญกฎหมายและหลักนิติธรรม โดยควรคำนึงถึงหลักเมตตาทำต่อผู้ชุมนุมที่เป็นเยาวชน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงจนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวซึ่งจะไม่ส่งผลดีทั้งต่อประชาชน ประเทศชาติ และต่อตัวรัฐบาลเอง




ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ที่กำลังจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามอิสระในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ถ้ารัฐเอาจริงเอาจังกับคนที่ขับรถชนตำรวจตายหรือบ่อนการพนันที่ยิงกันตายไป 4 ศพ ได้สักเสี้ยวหนึ่งของการไล่จับดำเนินคดีผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง สังคมไทยน่าจะดีขึ้นกว่านี้เยอะครับ”


ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีรายงานว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อให้กำลังใจนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า การออกหมายจับนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์ โดยไม่มีหมายเรียก เป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือของเผด็จการ และอ้างว่าการปราศรัยเรื่องสถาบันกษัตริย์ เพื่อรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้เคียงคู่กับระบอบประชาธิปไตย




ส่วนนายปกรณ์ อารีกุล ผู้ช่วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (นายรังสิมันต์ โรม) โพสต์ข้อความระบุว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลเตรียมใช้ตำแหน่งประกันตัวนักศึกษา และประชาชนที่ถูกดำเนินคดี นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทน ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายรังสิมันต์ โรม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นายวรภพ วิริยะโรจน์ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ และนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล




ส่วนพรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์กรณีการจับกุมนักกิจกรรมทางการเมือง สาระสำคัญก็คือ สนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการแสดงออกทางการเมืองโดยสงบของประชาชน และเห็นว่าการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนในปัจจุบัน มีต้นเหตุมาจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาล การใช้อำนาจและกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ดังนั้น การจับกุมดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมจึงไม่ใช่ทางออกของปัญหา เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้อำนาจรัฐคุกคาม และหยุดดำเนินคดีทันที หาทางออกทางการเมืองด้วยการเปิดทางให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อเปลี่ยนผ่านทางการเมืองโดยสันติ















กำลังโหลดความคิดเห็น