MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 12 - 18 ก.ค. 2563)
อันดับ 1 : การ์ดตกที่ระยอง ทหารอียิปต์-ลูกทูตซูดานทำผวาทั่วไทย รัฐบาล-ศบค. เรียกเชื่อมั่นแทบไม่ทัน
หลังจากชื่นชมยินดีกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเป็น 0 รายมานานก็เกิดเรื่องการ์ดตกจนได้ เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยผู้ป่วยรายใหม่ เป็นทหารชาวอียิปต์วัย 43 ปี มาพักที่จังหวัดระยองเมื่อช่วงวันที่ 8-11 ก.ค. พร้อมลูกเรือรวม 31 คน อีกรายเป็นลูกสาวทูตซูดานวัย 9 ขวบ อยู่ในคอนโดที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อ ศบค.ไม่บอกสถานที่ ทำเอาคนกรุงเทพฯ และระยองพากันหวาดผวา ต้องสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ต่างๆ โรงแรมในระยองถูกยกเลิกจองห้องพักเกือบทั้งหมด สังคมพากันตำหนิรัฐบาลและ ศบค.ว่าปล่อยให้คนเหล่านี้ได้รับอภิสิทธิ์วีไอพี ไม่ต้องกักตัว 14 วันเหมือนคนอื่นหรือไม่
ภายหลังมีข่าวว่าที่พักกลุ่มทหารอียิปต์พักคือโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ซึ่งขณะนี้ปิดให้บริการไม่มีกำหนด โดยแบ่งกลุ่มไปชอปปิ้งที่ห้างแพชชั่น (แหลมทอง) กับเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ที่ได้ปิดทำความสะอาดไปแล้ว ส่วนคอนโดที่ลูกสาวทูตซูดานอาศัยอยู่คือคอนโดวันเอ็กซ์ สุขุมวิท 26 งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบอกว่า "ขอโทษก็แล้วกัน" ก่อนลงพื้นที่จังหวัดระยองด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน ได้มีรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ตรวจโควิด-19 คนระยองและที่คอนโดฯ ซึ่งทุกคนไม่พบเชื้อ และเตรียมจัดกิจกรรมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เช่น จัดแข่งขันฟุตบอล วิ่งมาราธอน ในเร็วๆ นี้
อันดับ 2 : เยาวชนปลดแอกแค่วันเดียว ทีแรกบอกยืดเยื้อ ตอนหลังบอก 8 โมงเช้า สุดท้ายแยกย้ายกลับบ้าน
กระแสเต็มร้อยแต่ปิดฉากเร็วเกินคาด สำหรับการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นำโดย นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มฟรียูธ, น.ส.จุฑาพิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ร่วมด้วย นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายณัชนน พยัฆพรรณ กลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย แม้ตำรวจจะไม่อนุญาตให้จัดการชุมนุมเพราะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ตาม โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา, หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ
บรรยากาศทั่วไปพบว่ามีตั้งแต่วัยรุ่นยันผู้สูงอายุ แต่งกายด้วยชุดสีดำตามธีม ทีแรกในเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก ประกาศว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ แต่พอถึงหน้างานจริงก็เปลี่ยนเป็นปักหลักค้างคืน ถึงเวลา 08.00 น. เพื่อตื่นมาปลุกรัฐบาล โดยให้เวลา 2 สัปดาห์ หากไม่เป็นผลจะยกระดับการชุมนุม ระหว่างนั้นมีเหตุวุ่นวาย ผู้ชุมนุมเข้าใจผิดคิดว่านักศึกษาเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบรุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บไป 2 คน กระทั่งเริ่มมีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับบ้าน สุดท้ายแกนนำประกาศยุติการชุมนุมตอนเที่ยงคืน เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย และประกาศว่าอีก 2 สัปดาห์จะทวงคำตอบ ผู้ชุมนุมที่เหลือจึงแยกย้ายกลับบ้านในที่สุด
อันดับ 3 : เมื่อพรรคมันทำให้เธอหนักใจ...ฝืนไปมันก็เท่านั้น สี่กุมารไขก๊อกพ้น ครม. บิ๊กตู่วอนสมคิดอย่าทิ้งผมไป
ศึกในพรรคพลังประชารัฐกดดัน "กลุ่มสี่กุมาร" คลายเก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ปรับคณะรัฐมนตรีใกล้จะจบลง เมื่อวันที่ 16 ก.ค. กลุ่มสี่กุมารประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษาฯ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกฯ ยื่นใบลาออก แม้แต่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ลาออกไปด้วย ก่อนจะมีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คุยโทรศัพท์นายสมคิด ชี้แจงว่าจำเป็นต้องปรับรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ด้วยเหตุผลทางการเมือง ซึ่งนายสมคิดตอบว่าไม่มีปัญหา ก่อนที่นายกฯ ขอให้อย่าทิ้งผมไป
อย่างไรก็ตาม แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าการปรับ ครม. จะใช้เวลาไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ แต่ที่ผ่านมามีการทาบทามคนนอกเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง ปรากฎว่าตั้งแต่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต่างออกมาปฏิเสธ ส่วนนายปรีดี ดาวฉาย ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย คาดว่าจะเป็น รมว.คลัง ส่วน รมว.พลังงานพบว่า แม้จะทาบทามนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม แต่พบว่าพรรคพลังประชารัฐพยายามเสนอชื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมและรองหัวหน้าพรรคแทน
อันดับ 4 : กสทช.ทำได้แค่นี้! จอดำช่อง 8 รายการดัง "ช่องส่องผี" แม้หลุดผังไปแล้ว 3 พิธีกรจ่อขอขมาย่าโม
ดรามารายการผี "ช่องส่องผี" ที่มี “บ๊วย-เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” เป็นพิธีกรร่วมด้วย “เรนนี่ สุระประภา คำขจร” และ “เจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทีวีโชติ” ยังไม่จบ โดยเฉพาะประเด็นที่เรนนี่กล่าวหาว่าท้าวสุรนารี (ย่าโม) เป็นเมียหลักของพระยาปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา แต่แม่บุญเหลือเป็นเมียสอง ไม่ใช่ลูกสาวบุญธรรม ทำเอาคนโคราชไม่พอใจและเรียกร้องให้ออกมาขอขมา และแม้รายการจะปลดออกจากผังรายการสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ไปแล้ว แต่ที่ประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 16 ก.ค. มีมติให้บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) พักการออกรายการ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในช่วงเวลาเดียวกับรายการเดิมโดยไม่มีการปรับเงิน
ขณะที่การขอขมาท้าวสุรนารีนั้น ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คน มีกำหนดที่จะเดินทางไปขอขมาที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและวัดศาลาลอย ในวันที่ 19 ก.ค. เวลา 14.00 น. โดยตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาจัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ และชุดควบคุมฝูงชนเกือบ 100 นายเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ขณะที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงมาดูแลพิธีกราบขอขมาด้วยตัวเอง โดยมีการตรวจร่างคำกล่าวขอขมาลาโทษจากคณะกรรมการระดับจังหวัด พร้อมวอนประชาชนขอให้รอติดตามข่าวสารอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นการขอขมาลาโทษ ไม่ใช่มีการเฉลิมฉลอง และเพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19
อันดับ 5 : รวบ "เจ๊เพชร ปอยเปต" ลักลอบนำคนเข้า-ออกไทย ไม่สนใจกักตัวป้องกันโควิด-19
ขบวนการลักลอบพาคนเข้า-ออกประเทศไทยไปยังกัมพูชา โดยไม่สนใจมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องตรวจโรคและกักตัว 14 วัน ถูกตีแผ่เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พบ “กลุ่มคนไทยในปอยเปต..ยุคโควิด-19” ในเฟซบุ๊ก มีคนอ้างตัวว่าเป็น "เจ้เพชร ปอยเปต" อ้างว่าสามารถลักลอบเข้า-ออกประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 4,000 บาท โดยให้โอนเงินมัดจำก่อน 500 บาท ก่อนจะให้นั่งรถออกมาผ่านช่องทางธรรมชาติแล้วจ่ายส่วนที่เหลือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) นิ่งเฉยไม่ได้ ตรวจสอบก่อนจับกุม นางเพชรรัตน์ สาทร อายุ 55 ปี ได้ที่โรงแรมโฟร์โมส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค.
ต่อมาวันที่ 17 ก.ค. ศาลจังหวัดสระแก้วพิพากษาให้จำคุก 5 เดือน ปรับ 5,000 บาท ฐานความผิดลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ก่อนตรวจหาเชื้อโควิค-19 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว และกักตัวอยู่ที่บ้านในอำเภออรัญประเทศ นอกจากนี้ สตม. ยังจับกุม ด.ต.เลิศ เทพรัตน์ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจรถไฟอรัญประเทศ ฐานพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังแรงงานต่างด้าวที่จับกุมเมื่อ 3 ก.ค. ให้การซัดทอด มีหลักฐานเป็นข้อมูลการใช้โทรศัพท์และเส้นทางการเงิน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องต่อไป
อันดับ 6 : เพราะหนี้สินรอไม่ได้! "วุฒิศักดิ์คลีนิค" สถานเสริมความงามดัง ยื่นศาลล้มละลายขอฟื้นฟูกิจการ
ข่าวฮือฮาในแวดวงธุรกิจเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ระบุว่า วุฒิศักดิ์ คลินิก คลินิกเสริมความงามระดับประเทศ ยื่นคำร้องขอต่อศาลล้มละลายกลาง ขอฟื้นฟูกิจการ ตามกฎหมายล้มละลาย ศาลล้มละลายกลางนัดไต่สวน วันที่ 31 ส.ค. ใครซื้อคอร์สเสริมความงามไว้ และ บรรดาเจ้าหนี้ โปรดติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป สำหรับสาระสำคัญคือ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้เจ้าหนี้ไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท แต่กิจการลูกหนี้ยังมีเหตุอันสมควรและมีช่องทางที่จะฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ได้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
สำหรับวุฒิศักดิ์คลินิก ก่อตั้งโดย นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช นายพลภัทร จันทรวิเมลือง และนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ เมื่อปี 2545 ทุ่มเงินซื้อโฆษณา และดึงดาราดังเข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ กลายเป็นที่นิยมและมีสาขามากถึง 120 แห่งในไทย แต่ในปี 2557 บริษัท อี ฟอร์ แอล เอ็ม จำกัด (มหาชน) กู้เงิน 4,500 ล้านบาทเพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมด ภายหลังธุรกิจประสบปัญหาต้องเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารหลายครั้ง และผลประกอบการขาดทุนตั้งแต่ปี 2559 มีการฟ้องร้องระหว่างผู้ซื้อแฟรนไชส์กับเจ้าของ และการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดคลินิกความงาม ที่มีโรงพยาบาลเข้าร่วมชิงส่วนแบ่งตลาดด้วย ส่งผลให้สาขาเหลือไม่ถึง 50 แห่ง
อันดับ 7 : อย่าหาทำ! ดาราคิวบู๊ "ไมเคิล เวลส์ช" ตบหน้า-กกหูเด็กปั๊มสาว ฉุนบริการช้าไม่ทันใจ-นึกว่าประชด
คนเราเวลามีอะไรขุ่นข้องหมองใจต้องค่อยๆ มีสติและใจเย็น ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนดาราคิวบู๊รายนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. น.ส.เสาวลักษณ์ บุญฤกษ์ อายุ 31 ปี พนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท.หมู่บ้านเขาเต่า ริมถนนเพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หัวหิน ว่าถูกนายไมเคิล เวลส์ช อายุ 53 ปี ดารานักแสดงคิวบู๊ทำร้ายร่างกาย ตบเข้าที่ใบหน้าและกกหู หลังไม่พอใจการให้บริการ กรณียืนคุยกับพนักงานจนไม่ทันสังเกต วางป้ายแสดงชนิดน้ำมันเสียงดัง และปิดฝาถังน้ำมันดัง ทำให้นายไมเคิลลงมาจากรถต่อว่าทำรุนแรงกับรถเพราะไม่พอใจใช่ไหม ก่อนทำร้ายร่างกาย
หลังเป็นข่าวดัง เมื่อบ่ายวันที่ 17 ก.ค. นายไมเคิลพร้อมภรรยาเข้าเจรจากับ น.ส.เสาวลักษณ์ เป็นการส่วนตัวภายในสำนักงานของปั๊มน้ำมัน ก่อนจะขอโทษผู้เสียหาย และตกลงกันว่าจะรับปากดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล และมอบเงินค่าทำขวัญให้อีก 1 หมื่นบาท โดยได้ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หัวหิน ซึ่งตำรวจลงโทษปรับ 1,000 บาท ขณะที่เจ้าตัวกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากพูดหรือขยายความต่อ ถือเป็นบทเรียนราคาแพง รู้สึกผิดและไม่ควรสติหลุดถึงขนาดนั้น พอทำไปแล้วผลตอบกลับมาไม่มีผลดี ยอมรับผิดทุกประการ ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน แค่เป็นการเข้าใจผิดคลาดกันเรื่องสื่อสารเท่านั้นเอง