จากกรณีที่ทหารสัญชาติอียิปต์ที่เป็นลูกเรือติดเชื้อโควิด-19 เดินทางเข้าประเทศไทย และได้เข้าพักโรงแรมโรงแรมดี วารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง และออกมาใช้บริการห้างแหลมทอง-เซ็นทรัลพลาซา จนเกิดเสียงวิจารณ์หน่วยงานภาครัฐ ภายหลังได้มีมาตรการสั่งปิดสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงแรมใน จ.ระยอง รวมไปถึงมีการกักตัวผู้ที่เดินทางกลับจาก จ.ระยอง ไปยังจังหวัดต่างๆ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโซเชียลเน็ตเวิร์กตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ถ้อยแถลงของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอียิปต์ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับรายงานข่าวการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)...โพสต์โดย ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2020
วันนี้ (16 ก.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ศูนย์ข้อมูล COVID-19” โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ถ้อยแถลงของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอียิปต์ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับรายงานข่าวการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของสมาชิกลูกเรือทหารชาวอียิปต์
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอียิปต์ประจำประเทศไทยติดตามรายงานข่าวการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของสมาชิกลูกเรือระหว่างการแวะผ่านพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ประเทศไทย ของเที่ยวบินทหารอียิปต์ ซึ่งมีสมาชิกลูกเรือจำนวน 31 คน ระหว่างวันที่ 8-11 กรกฎาคม 2563 ด้วยความตระหนกและความกังวล
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแสดงความเสียใจและความเห็นอกเห็นใจด้วยความจริงใจต่อทุกคน ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุโชคร้ายดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอใช้โอกาสนี้ให้ความมั่นใจกับสาธารณชนไทยว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อสกัดกั้นและบรรเทาภัยคุกคามใดๆ ต่อความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในความสัมพันธ์การทำงานที่ดีและยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งได้กำกับดูแลปฏิบัติการของเครื่องบินทหารของอียิปต์ผ่านน่านฟ้าไทยในภารกิจประจำ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยปราศจากเหตุการณ์หรือความยุ่งยากใด
นอกจากนี้ ขอย้ำว่า ลูกเรือทหารอียิปต์ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพอย่างเคร่งครัดที่สุดก่อนการเดินทางไปต่างประเทศใดๆ ก็ตาม ซึ่งรวมถึงการตรวจโควิด-19 ก่อนการอนุมัติเที่ยวบิน โดยสมาชิกลูกเรือของเที่ยวบินข้างต้นผ่านการคัดกรองโควิด-19 ก่อนออกเดินทางทุกคน สถานเอกอัครราชทูตฯ ยืนยันความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการปฏิบัติตามระเบียบต่างๆ ที่กำหนดไว้อย่างเต็มที่และเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยภายใต้
พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับโรคติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคงแน่วแน่ที่จะสนับสนุนความสำเร็จของประเทศไทยในการจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานต่างๆ ของไทยที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและเสริมสร้างความสำเร็จที่น่าชื่นชมดังกล่าวของไทย
(คำแปลภาษาไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ)