สองแกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ที่ชูป้ายประท้วงนายกรัฐมนตรี แจ้งความตำรวจระยอง 4 ข้อหา เตรียมร้องเรียนกรรมาธิการการกฎหมายฯ ที่รัฐสภา ขณะที่ทวิตเตอร์แห่ติดแฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ประณามจนติดอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์
วันนี้ (15 ก.ค.) จากกรณีที่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ นายณัชนน พยัฆพรรณ แกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ออกมายืนชูป้าย “การ์ดอย่าตกพ่...งง” และ “อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สั...” ที่หน้าโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง แสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความรับผิดชอบ จากกรณีที่ปล่อยให้กลุ่มทหารชาวอียิปต์ที่หนึ่งในนั้นเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่จังหวัดระยอง ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีนั่งเฮลิคอปเตอร์จากกรุงเทพฯ ลงพื้นที่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยองควบคุมตัวไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดระยอง แต่ได้เดินเท้าไปยังตลาดสดสตาร์ แต่ถูกตำรวจสกัดบริเวณถนนศูนย์การค้าสาย 3 เทศบาลนครระยอง กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเดินทางกลับ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : ชาวระยองโวยตำรวจหิ้วปีก เหตุชูป้ายประท้วงบิ๊กตู่หน้าโรงแรม
นายกฯ บินด่วนให้กำลังใจชาวระยองสู้ปัญหา ยันไม่มีวีไอพีขอให้เชื่อมั่นรัฐบาล
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า นายภีมเดช อมรสุคนธ์ ประธานชมรมทนายความระยอง และประธานชมรมทนายความสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก นำตัว นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ นายณัชนน พยัฆพรรณ หรือนนท์ แกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธวัช หน่อสิงหา สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 4 ข้อหา ได้แก่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพ, ลักพาตัว และทำร้ายร่างกาย โดยได้เปิดเผยบาดแผลรอยช้ำดำเขียวบริเวณแขนทั้งสองคน ซึ่งเกิดจากช่วงที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปขึ้นรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์
ขณะที่เฟซบุ๊ก Nutchanon Payakaphan ระบุว่า “นนท์กับไมค์มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนะครับ ก็น่าจะหมดภารกิจวันนี้เท่านี้แล้วไปพักที่เซฟเฮาส์ พรุ่งนี้เดินทางไปพบกรรมาธิการกฎหมายที่รัฐสภา ขอบคุณกำลังใจจากทุกคนมากๆ ครับ” ส่วนเฟซบุ๊ก “ภาณุพงศ์ จาดนอก” ระบุว่า “ผมปลอดภัยดีครับ ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วง”
มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) นายภาณุพงศ์ และนายณัชนน เตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนสามเสน
นายรังสิมันต์ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @RangsimanRome ระบุว่า “เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้มประชาชนจากการใช้เสรีภาพการแสดงออก การชูป้ายของประชาชนดังกล่าวทำได้ชอบด้วยกฎหมาย การอุ้มแบบนี้ต่างหากที่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ถ้าตำรวจทำแบบนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับโจรผู้ร้าย โจรในเครื่องแบบแบบนี้เปลืองภาษีประชาชนจริงๆ ที่อุ้มๆ กันนะมันผิดกฎหมาย ไม่มีกฎหมายอะไรให้อำนาจเจ้าหน้าที่ไปห้ามประชาชนชูป้าย พวกท่านคงคิดถึงช่วงที่ยังมีมาตรา 44 ที่จะอุ้มใคร จะทำอะไรก็ไม่ต้องกลัว แต่วันนี้ไม่มีมาตรา 44 แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอำนาจลักพาตัวใครอีกต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือแบบนี้ครับ #ตํารวจระยองอุ้มประชาชน”
“ผมเสนอว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกเถอะครับ อย่าอยู่เป็นภาระลูกหลานเลย นอกจากไม่มีความชัดเจนว่าจะเยียวยาคนระยองอย่างไรแล้ว หนำซ้ำใช้อำนาจอำเภอใจไปอุ้มประชาชนอีก ยอมรับเถอะครับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนไร้ความสามารถที่จะพาประเทศนี้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ อำนาจที่มีถ้าไม่ปกป้องตนเอง ก็จับคนเห็นต่าง ถ้าไม่จับคนเห็นต่าง ก็สร้างระบบวีไอพี น่าอับอาย #ตํารวจระยองอุ้มประชาชน” นายรังสิมันต์ ระบุ
ขณะที่ในทวิตเตอร์ได้มีแฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในเวลาอันรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ต่างมีอารมณ์โกรธแค้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวทั้งสองคน ทั้งที่มากันเพียงแค่สองคน และตำรวจกินเงินภาษีประชาชน บ้างก็รู้สึกสิ้นหวังเมื่อได้เห็นวิดีโอคลิป และเห็นว่า ประเทศนี้ไม่มีสิทธิ์แม้แต่ออกเสียงของตัวเอง