“ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม” เตือนสติ “รังสิมันต์” อย่าเพ้อเจ้อ ถ้าไม่ปลอดภัยสามารถขอคุ้มครองพยานได้ มีกฎหมายคุ้มครอง ยก “ยายใฮ” คือ ต้นแบบนักเรียกร้อง ไม่มีหวังผลทางการเมือง
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่มีกระแสในโลกออนไลน์แห่ติดแฮชแท็ก #saveโรม กว่า 6 แสนครั้ง จนติดเทรนด์อันดับ 1 ของทวิตเตอร์ ว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจหรือน่ายินดีแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่น่าสงสารและไม่เข้าใจว่า สิ่งที่ นายรังสิมันต์ ทำอยู่นั้น มันผิดหลักแนวคิดและวิธีการที่วิญญูชนพึงกระทำ ตนจึงไม่แปลกใจว่าทำไมนายรังสิมันต์ ถึงชอบทำผิดกฎเกณฑ์ ผิดกฎหมาย ผิดกฎการอยู่ร่วมกันเสมอ เวลาใครเตือนอะไรก็ไม่ชอบฟัง แต่มักชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ในอดีตที่ผ่านมา ผู้เสียสละเพื่อบ้านเมืองไม่ว่าจะเป็นนักประชาสังคม นักเคลื่อนไหวคนเดือนตุลา และคนอีกจำนวนมากมายที่ทำเพื่อผู้อื่นและตน ก็ไม่เคยเห็นมีใครออกมาขอให้ติดแฮชแท็กช่วยเหลือตัวเองแบบที่นายรังสิมันต์กำลังทำ เพราะการที่เราจะช่วยเหลือใคร ตัวเราต้องแข็งแรงก่อนถึงจะไปช่วยผู้อื่น ไม่ใช่ว่าแค่ช่วยคนอื่น 1-2 ครั้งแล้วก็ให้คนอื่นมาร่วมติดแฮชแท็กให้ออกมาปกป้องช่วยตัวเอง ตนคิดว่าไม่ใช่วิธีการของบุคคลที่มีความเสียสละ คนที่มีจิตอาสาพึงทำ ตนขอยกตัวอย่าง “ยายใฮ ขันจันทา” อายุ 80 ปี ที่เรียนจบชั้น ป.4 เป็นนักต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินของตัวเอง หลังมีการสร้างเขื่อนห้วยละห้า เขตบ้านโนนตาล ต.นาตาล กิ่ง อ.นาตาล อ.อุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. 2520 เพราะที่นาจมหายไปกับน้ำอันเนื่องมาจากการสร้างเขื่อน กระทั่งวันที่ 1 ก.พ. 2546 บ้านของยายใฮเกิดไฟไหม้ทรัพย์สินวอดวาย ซึ่งขณะนั้นตรงกับสมัย นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยายใฮจึงเขียนจดหมายถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ก็เหมือนเป็นแสงไฟปลายอุโมงค์และได้รับการช่วยเหลือ
“ยายใฮเรียกร้องแต่เพียงผู้เดียวมาตลอดเป็นเวลา 30 กว่าปี ไม่เคยขอออกมาให้ใครออกมาปกป้องยายใฮเลย แต่สิ่งที่ นายรังสิมันต์ ทำนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ แต่เป็นการวางแผนเพื่อทำให้ความมั่นคงของรัฐบาลเดือดร้อน ปลุกม็อบด้วยข้อมูลเท็จที่ปรุงแต่ง จึงอยากเตือน นายรังสิมันต์ ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชน ขอนำคติธรรมของสมเด็จพระสังฆราช มาบอก นายรังสิมันต์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวนายรังสิมันต์เองว่า คนที่เกิดมามีแต่คนช่วยเหลือถือว่าเป็นคนมีบุญ แต่คนที่เกิดมาแล้วช่วยเหลือคนอื่นเป็นคนที่มีบุญมากกว่า ที่นำมาบอกเพราะอยากให้ นายรังสิมันต์ มุ่งมั่นทำความดีไม่ปลุกระดม สร้างความวุ่นวาย และทำในสิ่งที่ถูกต้อง” ซึ่ง นายรังสิมันต์ ควรดู ยายใฮ เป็นตัวอย่าง และมีนักสังคมสงเคราะอีกจำนวนมากที่เค้าทำเพื่อส่วนรวม ยังไม่มีใครออกมาให้กด save เหมือนายรังสิมันต์ ซึ่งตรงนี้รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว แต่ นายรังสิมันต์ ชอบกลับทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม ตนจึงไม่แปลกใจที่เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ เพราะเหมือนเป็นโรงละครฉากใหญ่ มีผู้กำกับชื่อ ป. ตัวแสดงชื่อ ช. และมีพระเอกชิ่อ ร.อำนวยการสร้างโดยชื่อ ธ. แม้แต่ตัวนายรังสิมันต์ยังเคยกล่าวว่าร้ายคนอื่นจึงโดนฟ้องร้อง ส่วนพอทีพวกตัวเองโดนว่าร้ายก็ไปฟ้องร้องคนอื่นเขา แบบนี้ชาวบ้านเรียกว่าพวกนิยมแต่ตนเอง เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แบบนี้จะทำการใหญ่เสียสละเพื่อส่วนรวมได้อย่างไร ดังคำพุทธศาสนาว่าไว้ว่า คนเห็นแก่ตัว เป็นคนสกปรก อตฺตตฺถปญฺญา อสุจี มนุสฺสา ดังนั้น จึงอยากให้นายรังสิมันต์ ช่วยปรับปรุงและให้ยึดยายใฮเป็นต้นแบบ คือ ทำดีไม่หวังผลตอบแทน ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ตนเชื่อว่าจะมีคนสนับสนุนนายรังสิมันต์มากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน