พบช้างป่ากุยบุรี ขนาดใหญ่ งวงพันลวดไฟฟ้า คาดถูกไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟช็อตจนตาย กลางไร่มะม่วงที่ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากเขตอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร พบในรอบ 1 เดือน พบช้างป่าตายแล้วจำนวน 2 ตัว
วันนี้ (3 มิ.ย.) เพจ “หนังสือพิมพ์ประจวบโพสต์” เผยว่า นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เปิดเผยรายละเอียดว่า “เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากราษฎร บ้านท่ากระทุ่น หมู่ที่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า พบช้างป่า ขนาดใหญ่ นอนตายบริเวณสวนมะม่วง หมู่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบวัตถุโลหะบนตัวช้างป่าและพื้นที่โดยรอบ
จากนั้นได้ประสานกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งสัตวแพทย์หญิงกิตติยาภรณ์ เอี่ยมสะอาด นายสัตวแพทย์ชำนาญการ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สัตวแพทย์หญิง กชกร พิมพ์เสน สัตวแพทย์กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และ สัตวแพทย์หญิงภาวิณี แก้วแกม สัตวแพทย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี รวม 3 คน พร้อมเจ้าหน้าที่สัตวบาล เข้าทำการตรวจสอบที่ พิกัด 575155E 1361444N ห่างจากแนวเขตอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร
เบื้องต้น พบว่า เป็นช้างป่าเพศผู้ มีงาสั้นแค่มุมปาก อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักประมาณ 5-6 ตัน อ้วนถ้วนสมบูรณ์ ภายนอกไม่พบบาดแผลใดๆ ตายมาแล้วประมาณ 1 วัน โดยที่งวงพันอยู่กับลวดไฟฟ้า 1 เส้น และนอนทับอยู่อีก 1 เส้น ซึ่งต่อกับเครื่องปั่นไฟจากสวนมะม่วงของชาวบ้าน
จากนั้นทีมสัตวแพทย์ ได้ร่วมกันทำการผ่าพิสูจน์ซากเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ ทั้งเนื้อบริเวณงวงช้างที่มีรอยไหม้ไฟ ตับ ปอด หัวใจ ไต ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และเลือดช้าง ทั้งนี้ไม่สามารถเก็บม้ามได้ โดยชิ้นส่วนเนื้อและเลือดช้างป่า ส่งตรวจห้องปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยมหิดล
สำหรับ สาเหตุการตายเบื้องต้นมาจากถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เมื่อผ่าเสร็จแล้วจะได้ทำการฝังซากตามหลักวิชาการต่อไป อย่างไรก็ตาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รายงานให้ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้ทราบเหตุการณ์ เพื่อรายงานให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ทราบตามลำดับ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.ปราณบุรี ได้เรียกคนงานเฝ้าไร่ เป็นชายจำนวน 3 คน มาให้ข้อมูล และพาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพร้อมพนักงานสอบสวน ตรวจสอบเส้นลวดไปยังแหล่งกำเนิดไฟฟ้าพบว่าเป็นเครื่องปั่นไฟ ยี่ห้อยันมาร์ 105 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งต่อกระแสไฟตรง มายังเส้นลวด จึงได้ยึดขดลวดและเครื่องปั่นไฟไว้เป็นของกลาง จากการตรวจสอบและสอบสวนเชื่อว่าสาเหตุการตายเกิดจากกระแสไฟฟ้าช็อต สำหรับ ผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ทางด้าน นายคมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และ นายสยามรัฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ตามปกติจะเปิดไฟเวลาประมาณ 1 ทุ่ม หรือ 19.00 น. และตื่นเช้าเวลาประมาณ ตี 5 ครึ่ง หรือ 05.30-06.00 น. จึงปิดไฟ ซึ่งเครื่องปั่นไฟต่อกระแสไฟตรง มีระบบเบรกเกอร์ ตัดไฟเมื่อมีไฟฟ้าช๊อต ซึ่งวันนี้ไฟในไร่ติดปกติไม่มีการตัดไฟ และไม่ทราบว่าไฟช็อตช้างป่าตาย
ด้าน นายเล็ก สมคิด หรือ นายเผือก ชาวบ้าน ต.ศาลาลัย กล่าวว่า ตนมารับจ้างใส่ปุ๋ยในไร่สับปะรดแปลงที่อยู่ติดกัน สังเกตเห็นไกลๆ ว่า มีกองอะไรใหญ่ ทีแรกนึกว่าจอมปลวก เพราะปกติไม่เห็นมี จึงมาเรียกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเป็นช้างป่าตาย ซึ่งปกติแล้วในพื้นที่จะมีช้างป่าออกมาหากิน บางครั้งมาตัวเดียวและบางครั้งมากันเป็นโขลงใหญ่
ด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง
ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทราบข้อมูลกรณีช้างป่าตายแล้ว เบื้องต้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นิรันดร ศิริสังข์ไชย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามคดีใกล้ชิด เนื่องจากไม่ใช่การตายตามธรรมชาติ และเป็นช้างป่าขนาดใหญ่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในรอบ 1 เดือน พบช้างป่า ตายแล้วจำนวน 2 ตัว
โดย พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกเจ้าของไร่ และ ผู้เช่า มาสอบปากคำเพิ่มเติม และได้เชิญตัวคนงานเฝ้าไร่ทั้ง 3 คน มาสอบปากคำที่ สภ.ปราณบุรี แล้ว โดยเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป