ผู้ก่อเหตุที่มีส่วนพัวพันการตายของ “เตี้ย” สุนัขประจำ ม.เชียงใหม่ อ้างเตี้ยกระโดดลงจากรถก่อนล้อหลังทับ ขณะที่มูลนิธิวอชด็อกและตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐาน พบภาพกล้องวงจรปิดเป็นคนพาเตี้ยออกนอกมหาวิทยาลัยไปทางราชมงคล ก่อนเลี้ยวเข้าซอยพระนางเมื่อ 3 พ.ค. ก่อนพบซากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.
จากกรณีที่ “เตี้ย” สุนัขเพศผู้สีขาว น้ำตาลและดำ อายุ 8 ปี อาศัยอยู่ที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตายอย่างปริศนาก่อนที่จะพบซากบริเวณป่าในซอยพระนาง ด้านหลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา บ้านช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมืองฯ จ.เชียงใหม่ เมื่อเย็นวันที่ 7 พ.ค. ศูนย์ชันสูตรโรคสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า วินิจฉัยเบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงบริเวณขาหลังและช่วงล่างของลำตัว ร่วมกับการฉีกขาดของกระเพาะปัสสาวะ ในส่วนรอยแตกของกะโหลกที่พบอาจเป็นหลังจากเสียชีวิตเนื่องจากไม่พบการอักเสบของเนื้อเยื่อและเลือดออกบริเวณดังกล่าว
ความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในข้อหาตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เข้าช่วยเหลือติดตามประสานงานคดีร่วมกับแอดมินเพจ “เตี้ย มช.” และตำรวจ สภ.ช้างเผือก พบเบาะแสว่าจากกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เตี้ยนั่งเล่นกับผู้หญิง 2 คน จนถึงเวลา 20.30 น. หลังจากผู้หญิงกลับไป เตี้ยก็มานอนแถวที่จอดรถภายในมหาวิทยาลัย ปรากฏว่ามีจักรยานยนต์คันหนึ่งเข้ามาจอดและเรียกเตี้ยขึ้นรถ กระทั่งพบว่าคนที่พาเตี้ยออกจากมหาวิทยาลัยไม่ใช่บุคลากรในมหาวิทยาลัย โดยออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อเวลา 20.34 น. ก่อนจะกลับรถหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพระนาง ทางไปยังจุดพบซากของเตี้ย
ในที่สุดเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมามีรายงานว่า ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้เรียกผู้ต้องสงสัยเป็นชายรายหนึ่งที่ขับขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าว อ้างว่าสงสารที่เตี้ยไม่ได้ออกไปไหนจึงคิดจะพาไปเที่ยว แต่ทางมูลนิธิแจ้งว่า ต่อให้ไม่สามารถพิสูจน์เจตนาทารุณกรรมสัตว์ได้ก็ต้องเจอข้อหาลักทรัพย์เป็นอันดับแรก เพราะหลังจากที่เตี้ยหายไป ผู้ต้องสงสัยทราบดีว่าแอดมินและประชาชนทั่วประเทศประกาศตามหาตัวเตี้ยพร้อมรางวัลตลอดเวลา ในที่สุดผู้ต้องสงสัยจึงติดต่อเข้ารับสารภาพว่าเป็นผู้นำเตี้ยออกไปจริง อ้างว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเตี้ย แต่เตี้ยกระโดดลงจากรถขณะขับขี่ ทำให้ล้อหลังทับตายทันที จึงนำไปโยนทิ้งพร้อมโกยใบไม้กลบเพื่อหลบหนีความผิดและการติดตามตัว ที่ผ่านมาไม่ได้แสดงตัวเพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อหน้าที่ราชการ และร้องขอความเห็นใจขอให้เรื่องจบแค่นี้ พร้อมขอโทษประชาชน
อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิฯ ไม่ปักใจเชื่อ ประกาศขอความร่วมมือประชาชนคนรักสัตว์พบเห็นคลิปหลักฐานและมีหลักฐานหรือพยาน พบเห็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อเตี้ย สามารถติดต่อไปยังมูลนิธิได้ตลอดเวลา ขณะนี้หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก และมูลนิธิฯ คือการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าการตายของเตี้ยเป็นอุบัติเหตุหรือเจตนา พร้อมกันนี้ยังได้โพสต์ภาพขณะที่ผู้ก่อเหตุทำแผนประกอบรับสารภาพ