หลังถูกชาวเน็ตและแฟนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์ ความคิดชื่นชม ไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้โลกสะอาดขึ้น ในวันคุ้มครองโลก ล่าสุด เจ้าตัวออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า ทางรอดที่ดีคือการมองบวกในสถานการณ์ที่เลวร้าย และปัญหาจะผ่านไป
จากเหตุการณ์ “วินทร์ เลียววาริณ” นักเขียนชื่อดัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ และเป็นนักเขียนที่ได้รับรางวัลซีไรต์ ถึง 2 ครั้ง คือ เมื่อปี พ.ศ. 2540 และเมื่อปี พ.ศ. 2542 ออกมาโพสต์รูปภาพเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ลงในเพจส่วนตัว “วินทร์ เลียววาริณ” ซึ่งเป็นวันคุ้มครองโลก ถือเป็นวันสำคัญของขบวนอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลก ในทำนองว่า การเกิดไวรัสโควิด-19 ทำให้โลกสะอาดขึ้น, อากาศสะอาดขึ้น, รถไม่ติด, ผลิตน้ำมันน้อยลง, หาดทรายสวยขึ้น, เต่าวางไข่มากขึ้น และปลาในทะเลเริงร่า จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ถึงความคิดดังกล่าว แต่กลับไม่มองในมุมว่า ไวรัสชนิดนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเป็นจำนวนมาก ประชาชนในประเทศได้รับความเดือดร้อน ตกงาน และปัญหาเศรษฐกิจ
ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.) “วินทร์ เลียววาริณ” ได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้ง ว่า
“โควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนเดือดร้อนไปทั้งโลก ก็เหมือนทุกวิกฤตในชีวิต เราทุกคนมีทางเลือกวิธีจัดการกับปัญหาสองทาง
หนึ่ง ทางลบ บ่นด่าชะตาฟ้าดิน และด่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับการบ่นด่าชะตาฟ้าดิน
สอง ทางบวก มองโลกขำๆ ไม่ให้ปัญหาใหญ่กว่าที่เป็นจริง
ผมเป็นหนึ่งในคนหลายล้านคนที่เมื่อห้างร้านปิด รายได้กลายเป็นศูนย์ รายได้จากโลกออนไลน์ก็น้อยเกินกว่าจะเลี้ยงคนทั้งสำนัก
นั่นเป็นแค่เรื่องเงิน ในด้านความรู้สึกอาจแย่กว่าคนอื่นด้วยซ้ำ เพราะลูกและครอบครัวเป็นหมออยู่ที่แนวหน้า ในประเทศที่อันตรายที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แต่จะให้บ่นด่าชะตาฟ้าดิน ก็มิใช่นิสัย อย่างมากก็บ่นแบบขำๆ แดกดัน เสียดสีตัวเอง เพื่อลดความเครียดของตนเอง คนรอบข้าง และผู้อ่านที่รับมุขได้ บางวันก็โพสต์เรื่องขำๆ มองด้านดีของเรื่องร้าย (เช่น โพสต์เมื่อวานนี้เป็นต้น)
บางวันผมโพสต์ข้อความให้กำลังใจให้อดทน สู้ต่อไป เช่น อยู่ก้นบ่อให้มองขึ้นบนดูท้องฟ้า น้ำใจของคนไทยในยามวิกฤต เป็นต้น มนุษย์เรามีปฏิกิริยาต่อเรื่องร้ายต่างกัน แล้วแต่ทัศนคติและโลกทัศน์ การบ่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา มันเป็นเครื่องมือทางธรรมชาติให้ลดความเครียด โดยโยนความเครียดของเราไปให้คนอื่น แต่การบ่นด่าชะตาฟ้าดินไม่ได้แก้ปัญหาสักกระผีกเดียว การมองโลกขำๆ ก็อาจไม่ได้แก้ปัญหาโดยตรง แต่ไม่เพิ่มปัญหา และอาจทำให้มีแรงสู้กับปัญหาจริงมากขึ้น ความจริงก็คือ ในบางสถานการณ์ เราเหลือทางเลือกอยู่ทางเดียวที่จะอยู่รอด คือ มองบวก มองบวกแล้วแก้ปัญหา และมองบวกเพราะรู้ว่าทุกปัญหาในโลก ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ จะผ่านพ้นไป”